ตำรวจสุรินทร์บุกรวบครูหื่น พานักเรียนหญิงเข้าม่านรูดทำอนาจาร

เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนร่วมกันจับกุมตัว นายสมนึก เป็นอาจารย์สอนวิชาสังคมศึกษา ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในตำบลนาดี อ.เมือง จ.สุรินทร์ พร้อมแจ้งข้อหาพรากผู้เยาว์อายุกว่าสิบห้าปี แต่ยังไม่เกินสิบแปดปี ไปเสียจากบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อการอนาจาร โดยผู้เยาว์นั้นเต็มใจไปด้วย



สืบเนื่องจากก่อนเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม ได้รับแจ้งจากสายลับ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐจากผู้ใหญ่บ้าน ว่าได้ติดตามข้อมูลบุคคลรายหนึ่งมาโดยตลอด ชื่อนายสมนึก มีพฤติกรรมชอบพาเด็กนักเรียนไปกระทำอนาจารอยู่บ่อยครั้ง และสายลับพยายามเก็บข้อมูลไว้เป็นหลักฐานให้มากที่สุด



ต่อมาสายลับได้พบเห็นชายคนดังกล่าว ขับขี่รถยนต์ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีน้ำเงิน มาจอดรับหญิงสาว บริเวณโรงเรียนดังกล่าว และขับออกไป สายลับเมื่อพบเห็นดังนั้น จึงขับรถตามไปจนพบว่า รถคันดังกล่าวเลี้ยวเข้าไปจอดภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง สายลับจึงโทรประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองสุรินทร์ มา

ตรวจสอบห้องพักดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมมาถึง ได้แสดงตนเข้าตรวจสอบพบนายสมนึก อยู่ภายในห้องกับนางสาวสา อายุ 17 ปี นักเรียนระดับชั้นมัธยมปีที่ 3



นางสาวสา กล่าวว่า ตนนั้นสอบติด "รอ" จึงจะแก้ข้อสอบที่ "ติดรอ" ก็ได้มาที่โรงเรียนเพื่อพบนายสมนึก จากนั้นครูได้ชวนตนออกมาข้างนอกมานั่งทานข้าวและเหล้าเบียร์ สักพักได้ขับรถยนต์กระบะคันดังกล่าวออกมาแล้วได้เลี้ยวเข้าไปที่รีสอร์ท พร้อมกับชักชวนตนเข้าไปนั่งคุยกันก่อน พอตนเข้าไปในห้องพักนายสมนึก ได้พูดกับตนว่าต้องการเงินเท่าไร 500 หรือ 2,000 บาท ตนก็ไม่ได้พูดอะไรเพียงแต่บอกว่าทำไมอาจารย์ทำแบบนี้ จากนั้นนายสมนึก ได้เข้ามาที่ตนพร้อมกับลูบคลำขาอ่อนและจับหน้าอกตน ซึ่งตนนั้นได้ปัดออก ช่วงเวลาไม่นานเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มาเคาะ



ด้านแม่ของนางสาวสา กล่าว่า ได้มีตำรวจที่ สภ.เมืองสุรินทร์ โทรหาตน ให้ตนมาที่ สภ.เมืองด่วน ตนมาถึงจึงพบว่าลูกสาวตนถูกครูหื่นคนนี้ลวนลามทำอานาจาร ซึ่งตนรู้สึกเสียใจมากที่เกิดเรื่องแบบนี้ พร้อมกันนี้ทาง ผอ.โรงเรียนดังกล่าว โทรมาบอกตนว่าให้เรื่องมันจบไป อย่าให้ทางโรงเรียนเสื่อมเสียเลย ซึ่งทางตนตอบไปว่าจะดำเนินการให้ถึงที่สุด



เจ้าหน้าที่ได้สอบปากคำเพิ่มเติม แต่ผู้ถูกกล่าวหา ยังให้การปฏิเสธ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าครูคนก่อเหตุทำการลวนลามอนาจาร นักเรียน จำนวน 4-5 คน ด้วยการพูดแทะโลมลวนลาม นักเรียนบางคน ถูกจับก้นบั้นท้าย คาดว่าเด็กคงไม่กล้าออกมาแจ้งความดำเนินคดี คงมีเพียงนักเรียนหญิงรายนี้ หรือหากมีที่ถูกกระทำจะมาแจ้งความเพิ่มเติม ก็ได้มีน้ำหนักไปอีก แต่สำหรับการกระทำกับนักเรียนหญิงคนนี้ก็สามารถดำเนินคดีถึงที่สุดได้เพราะมีหลักฐานขณะเข้าจับกุม