สังคม

กองปราบขยายผลสอบ พบลูกศิษย์สมเด็จพระวันรัต ยักยอกเงินวัดสาขาอีก 170 ล้าน

โดย nutda_t

4 เม.ย. 2565

243 views

ความคืบหน้าคดีที่กองบังคับการปราบปราม เข้าตรวจสอบคนสนิทของสมเด็จพระวันรัต อดีตเจ้าอาวาสวัดบวรนิเวศราชวิหาร ที่มรณภาพ จนทราบว่า ลูกศิษย์คนสนิทรายหนึ่งที่มีความใกล้ชิดกับสมเด็จพระวันรัต มีการยักยอกเงินของสมเด็จพระวันรัต ในส่วนของการบูรณะวัดบวรนิเวศฯ และวัดสาขา ตามที่คณะกรรมการวัดได้ประสานให้ดำเนินการตรวจสอบในทางลับ จึงติดตามจับกุมตัวมาได้เมื่อช่วงวันที่ 23-25 มี.ค.ที่ผ่านมา เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวหาฉ้อโกง และข้อหาปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม



พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ได้เร่งขยายผลตรวจสอบบัญชีนอกเหนือจากของอดีตสมเด็จพระวันรัตและบัญชีของวัดบวรนิเวศราชวิหาร ซึ่งมีเงินหายไป 190 ล้านบาท พบว่ายังมีบัญชีที่ถูกโอนออกไปอย่างไม่ทราบที่มา อีก 3 บัญชี โดยเป็นบัญชีของวัดวัดวชิรธรรมาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 80 ล้านบาท วัดรัตนวราราม จังหวัดตราด 80 ล้านบาท วัดคีรีวิหารจังหวัดตราดอีก 10 ล้านบาท โดยพบว่าทั้ง 3 บัญชีเป็นเงินงบสร้างและบูรณะวัด แต่ถูกโอนออกจากบัญชีไปยังบุคคลอื่นที่อาจไม่ตรงวัตถุประสงค์ของงบประมาณดังกล่าว



ซึ่งชุดสืบสวนสอบสวนกองบังคับการปราบปรามอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของแต่ละบัญชีว่าจะเกี่ยวข้องกับการยักยอกเงินก้อนก่อนหน้านี้หรือไม่ ทั้งนี้คาดว่ายอดเงินที่ผู้ต้องหายักยอกออกไปน่าจะมีมูลค่ามากกว่า 190 ล้านบาท และจากการเข้าตรวจค้นและยึดทรัพย์ จากการสืบสวนสอบสวนเส้นทางการเงินของผู้ก่อเหตุร้ายดังกล่าว สามารถเข้าไปดำเนินการยึดทรัพย์สินได้ประมาณกว่า 100 ล้านบาท โดยพบว่าผู้ต้องหาไปกว้านซื้อรถหรู คอนโดมิเนียม มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท ทองรูปพรรณและทรัพย์สิน เงินสดในบัญชี อีกทั้งยังมีการประสานให้ญาติ และแฟนหนุ่มของผู้ต้องหา ซึ่งรับโอนทรัพย์สินไปนำทรัพย์สินต่างๆมาคืน ซึ่งบุคคลต่างๆได้ทยอยนำทรัพย์สินเข้ามาส่งคืนให้ครบเกือบทั้งหมดแล้ว



ทั้งนี้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานจากเส้นทางการเงินต่างๆรวมถึงการสอบพยานบุคคลจำนวนมาก เพื่อเตรียมแจ้งข้อหา ตามความผิดพรบ.ฟอกเงิน เพิ่มเติมกับผู้ต้องหาด้วย คาดว่าต้องใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง ทั้งนี้จากการสอบปากคำผู้ต้องหาในเบื้องต้นอ้างว่า เป็นเงินที่ได้มาจากความสนิทสนมส่วนตัว และอดีตสมเด็จพระวันรัตเป็นผู้มอบให้ แต่จากข้อมูลการสืบสวนสอบสวนของตำรวจกองบังคับการปราบปรามพบว่า ผู้ต้องหาอาศัยความใกล้ชิดเข้าไปบริหารจัดการทรัพย์สินต่างๆของอดีตสมเด็จพระวันรัต และการบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปเพื่อให้สะดวกต่อการก่อเหตุ และมีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สินออกจากบัญชีของสมเด็จพระวันรัตอย่างเป็นกระบวนการเกือบทุกบัญชีที่มีอยู่

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ