พระราชสำนัก

ในหลวง - พระราชินี ทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ภัยแล้ง จ.กาญจนบุรี

โดย kodchaporn_j

3 เม.ย. 2565

205 views

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดกาญจนบุรี



วันนี้เวลา 17.19 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินไปยัง สนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ลานตากพืชผลทางการเกษตร อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี



เมื่อเสด็จพระราชดำเนินถึง นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี พร้อมด้วยคณะข้าราชการ และประชาชน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ โดย พลตรีบรรยง ทองน่วม ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 9 นายทหารราชองครักษ์ กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นแท่นทรงรับการถวายความเคารพจากกองทหารเกียรติยศ



จากนั้นรถยนต์พระที่นั่งไปยังโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ บ้านปากชัดหนองบัว หมู่ที่ 2 ตำบลหนองฝ้าย อำเภอเลาขวัญ ซึ่งมีข้าราชการ ตลอดจนเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานต่างๆ และประชาชนในพื้นที่ ไปรอเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จจำนวนมาก



ในการนี้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ บูชาพระพุทธนวราชบพิตร แล้วทรงรับฟังการกราบบังคมทูลรายงาน ความเป็นมา และวัตถุประสงค์ของโครงการฯ ซึ่งเกิดจากปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่งผลให้ราษฎรขาดแคลนแหล่งน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคและทำการเกษตร กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม



จึงขอพระราชทานพระบรมราชวินิจฉัย ดำเนินโครงการดังกล่าว และได้ทรงรับโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง 15 โครงการ ในพื้นที่ 11 จังหวัดทั่วประเทศ ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 16 เมษายน 2564



โอกาสนี้ ทรงกดปุ่มเปิดโครงการ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณให้น้ำบาดาลจาก 8 บ่อ ไหลลงสู่ถัง 4 ถัง ความจุรวม 1 หมื่นลิตร ภายในเวลา 1 นาที 25 วินาที ทั้งนี้จังหวัดกาญจนบุรี เป็นจังหวัดต้นแบบในการพัฒนาพื้นที่แห้งแล้ง โดยใช้น้ำบาดาลเป็นหลัก แหล่งน้ำบาดาลที่พบ เป็นน้ำแร่ธรรมชาติที่มีอายุกว่า 7,530 ปี ซึ่งสะอาด ไม่พบจุลินทรีย์ และสารปนเปื้อน มีคุณภาพเหมาะสม ที่จะบริโภคได้อย่างปลอดภัย ตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก



ทั้งนี้กรมทรัพยากรน้ำบาดาล มีหน้าที่พิจารณาพื้นที่เป้าหมาย ที่จำเป็นต้องเจาะบ่อน้ำบาดาลขนาดใหญ่ และก่อสร้างระบบประปาบาดาล เพื่อส่งน้ำไปช่วยเหลือราษฎร ในพื้นที่ 15 โครงการ 11 จังหวัด ประกอบด้วย เชียงใหม่, ลําพูน, ขอนแก่น, กาฬสินธุ์, นครพนม, ศรีสะเกษ, ฉะเชิงเทรา, กาญจนบุรี, นครปฐม, ราชบุรี และพัทลุง



จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการฯ อาทิ วีดิทัศน์น้ำบาดาล...น้ำเพื่อชีวิตแห่งอนาคต นำเสนอความเป็นมาของโครงการฯ ซึ่งหากดําเนินการแล้วเสร็จในทุกพื้นที่ ราษฎรจะได้รับประโยชน์กว่า 143,000 คน , นิทรรศการวัฏจักรอุทกวิทยา ของประเทศไทย นำเสนอการหมุนเวียนของน้ำบนโลกตามธรรมชาติ ,นิทรรศการโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ 15 แห่ง



โดยพื้นที่โครงการต้นแบบอําเภอเลาขวัญ ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำมานานหลายสิบปี และดำเนินการเจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 8 บ่อ ความลึกเฉลี่ย 200 เมตร พร้อมระบบกระจายน้ำระยะทาง 5.4 กิโลเมตร ซึ่งได้ส่งมอบให้ท้องถิ่นและจังหวัดฯ บริหารจัดการระบบ ,นิทรรศการโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่แก้ปัญหาภัยแล้ง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ที่มีการพัฒนาระบบน้ำบาดาลขนาดใหญ่ และนิทรรศการแบบจำลองทางกายภาพของชั้นน้ำบาดาล บริเวณพื้นที่โครงการ



จากนั้น ทอดพระเนตรแปลงเกษตรทฤษฎีใหม่ มีการจัดทำแปลงเกษตรสาธิต โดยใช้น้ำบาดาลเป็นแหล่งน้ำหลัก ในการเพาะปลูก พื้นที่ 60 ไร่ แบ่งปลูกพืชต่างๆ เช่น ดอกดาวเรือง, มันสำปะหลัง, หญ้าเนเปียร์ คาดว่าจะสร้างรายได้ให้ราษฎรประมาณ 64,000 บาทต่อไร่ต่อปี



พร้อมกันนี้ ทอดพระเนตรกระบือพระราชทาน ในโครงการอนุรักษ์และพัฒนากระบือไทย ที่จังหวัดกาญจนบุรี ได้รับมอบกระบือเพศเมียพระราชทาน จำนวน 2 ตัว เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2564 เพื่อนำไปมอบให้แก่กลุ่มอนุรักษ์ และพัฒนากระบือไทยเลาขวัญ เพื่อพัฒนาและอนุรักษ์พันธุ์กระบือไทย ซึ่งต่อมาได้รับมอบกระบือพระราชทานเพิ่มอีก 11ตัว



จากนั้น ทอดพระเนตรอาคารบ้านน้ำดื่ม ที่ผลิตน้ำดื่มจากน้ำบาดาล ให้บริการประชาชนโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ซึ่งกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้แนวคิดจุดบริการน้ำดื่มฟรี มาจากตู้บริการน้ำดื่มฟรีที่ตลาดโบโร่ สหราชอาณาจักร จัดสร้างจุดบริการบ้านน้ำดื่มแห่งแรก ที่กรมทรัพยกรน้ำบาดาล ปัจจุบันมีจุดบริการน้ำดื่มฟรีกระจายอยู่ทั่วประเทศ



ก่อนเสด็จพระราชดำเนินกลับ ทรงเยี่ยมราษฎรที่ไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ ในการดำเนินโครงการพื้นที่นี้ สามารถแก้ปัญหาภัยแล้งให้แก่ราษฎร ซึ่งเดิมประสบปัญหาขาดแคลนน้ำเป็นเวลานาน โดยอำเภอเลาขวัญ เป็น 1ใน 5 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี ที่สภาพภูมิประเทศเป็นพื้นที่เป็นที่ราบเชิงเขา เป็นพื้นที่เงาฝน ไม่มีระบบชลประทาน ราษฎรในพื้นที่ต้องซื้อน้ำอุปโภคบริโภค เมื่อการดำเนินโครงการแล้วเสร็จ จะครอบคลุมพื้นที่กว่า 3 แสนไร่ จะได้ปริมาณน้ำรวม 2.3 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ราษฎรได้ประโยชน์กว่า 58,000 คน



ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินถึงยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว ลานตากพืชผลทางการเกษตร อำเภอเลาขวัญ กองทหารเกียรติยศถวายความเคารพ แล้วประทับเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับไปยังสนามเฮลิคอปเตอร์ชั่วคราว พระลาน พระราชวังดุสิต กรุงเทพมหานคร