แท็กซี่ป้ายดำสนามบินอุบลฯทำแสบ ทิ้งนักท่องเที่ยว เชิดกระเป๋าหนี สูญกว่าแสน

เมื่อเวลา 20.30 น. (29 มี.ค.) นายลำซำ อายุ 45 ปี นักท่องเที่ยวลูกครึ่งไทย-ฮ่องกง และนางสาวปวีณา อายุ 32 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.สุธีรพันธ์ ทาปศรี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองอุบลราชธานี หลังถูกแท็กซี่ป้ายดำจากสนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี ปล่อยทิ้งในปั๊มน้ำมัน ระหว่างทางไปอำเภอเขมราฐ เชิดกระเป๋าเสื้อผ้าสัมภาระ 3 ใบ หายเข้ากลีบเมฆ สูญทรัพย์สินกว่า 1 แสนบาท



นายลำซำ เปิดเผยว่าตนเองเป็นนักท่องเที่ยวเดินทางมาจากกรุงเทพฯ เพื่อจะไปทำบุญที่อำเภอเขมราฐเป็นประจำทุกปี วันนี้หลังจากลงเครื่องที่สนามบินนานาชาติจังหวัดอุบลราชธานี ได้มีกลุ่มชายหญิง 3 คน เข้ามาสอบถามเสนอบริการรถแท็กซี่ป้ายดำเพื่อจะไปส่งที่อำเภอเขมราฐ ตกลงราคาว่าจ้างอยู่ที่ 1 พันบาท โดยมีการออกตั๋วฉบับละ 500 บาท จำนวน 2 ใบ



ตนเองและเพื่อนจึงได้นำกระเป๋าเดินทาง 3 ใบ ภายในมีเอกสารทางราชการ พาสปอร์ต ไอแพด 1 เครื่อง โทรศัพท์ไอโฟน 1 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 1 แสนบาท ใส่ท้ายรถเก๋งโตโยต้า สีบอร์น – เทา หมายเลขทะเบียน ขข 4381 หมวดจังหวัดจำไม่ได้ จากนั้นคนขับได้พาตนออกจากสนามบินไปตาม ถนนอุบล-ตระการ มุ่งหน้า อำเภอเขมราฐ ระหว่างทางคนขับออกอุบายสอบถามตนจะเข้าห้องน้ำที่ปั๊มน้ำมันหรือไม่ ตนจึงได้บอกว่าต้องการเข้าร้านสะดวกซื้อ เพราะต้องไปซื้อของใช้ส่วนตัวก่อนที่จะเข้าวัด



เมื่อมาถึงบริเวณปั๊มน้ำมัน ปตท.ถนนอุบล - ตระการ คนขับได้เข้าไปจอดรถบริเวณด้านหน้าร้านสะดวกซื้อ ตนกับเพื่อนก็ได้เข้าไปซื้อของใช้ ขนม และน้ำดื่มมาให้คนขับ จากนั้นเดินไปเข้าห้องน้ำกลับออกมา ปรากฎว่ารถแท็กซี่ที่ว่าจ้างไม่อยู่แล้ว ไม่ทราบว่าไปไหน แต่ด้วยความคิดบวก คนขับอาจจะออกไปธุระจึงได้นั่งรอประมาณ 10 นาที ก็ไม่เห็นกลับมา จึงได้โทรแจ้ง 191 เพื่อขอความช่วยเหลือ



นายลำซำ ยังเล่าอีกว่า ปกติตนจะมาทำบุญปีนึง 4-5 ครั้ง แต่ละครั้งก็จะว่าจ้างแท็กซี่เจ้าประจำไปส่ง แต่วันนี้ตนได้โทรหาแท็กซี่เจ้าประจำแล้ว แต่ไม่รับสาย เพราะเบอร์ที่ตนโทรไปเป็นเบอร์แปลกที่ไม่รู้จัก ทำให้คิดว่าอาจจะเป็นพวกมิจฉาชีพที่โทรมากวนอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามตนอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการตรวจสอบและดูแลกลุ่มแท็กซี่ป้ายดำด้วย เพราะผู้โดยสารไว้ใจฝากชีวิตและทรัพย์สินไว้กับเจ้าของรถ แต่กลับต้องมาโดนแบบนี้ตนเสียความรู้สึก



เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อและจุดจอดรถแท็กซี่ภายในสนามบินนานาชาติอุบลราชธานี เพื่อหาคนขับรถคันดังกล่าวมาสอบสวนข้อเท็จจริงก่อนจะดำเนินคดีต่อไป