โควิดวันนี้ยังพุ่ง! 'หมออุดม' ชี้ สงกรานต์นี้เป็นทางแยก วอนปชช.ช่วยกัน

ศูนย์ข้อมูล COVID-19 รายงานยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 วันศุกร์ที่ 18 มีนาคม 2565 รวม 27,071 ราย ทำสถิตินิวไฮ จำแนกเป็น ผู้ป่วยจากในประเทศ  27,022 ราย ผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 49 ราย ผู้ป่วยสะสม 1,079,734 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565)



หายป่วยกลับบ้าน 21,522 ราย หายป่วยสะสม 879,997 ราย (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565) ผู้ป่วยกำลังรักษา 230,603 ราย โดยวันเป็นวันแรกที่มีการรายงานอัตราการครองเตียง และอัตราเฉลี่ยผู้ป่วยปอดอักเสบในแต่ละจังหวัด พบว่า ผู้ป่วยปอดอักเสบ รักษาตัวในโรงพยาบาลอยู่ 1,391 ราย, ผู้ป่วยปอดอักเสบรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเฉลี่ยจังหวัดละ 18 ราย และอัตราการครองเตียงของผู้ป่วยปอดอักเสบ ร้อยละ 27.1

ขณะที่ยอดเสียชีวิตวันนี้  80 ราย 

ด้าน “หมออุดม” ชี้ สงกรานต์นี้เป็นทางแยก ประชาชนต้องเลือกว่าจะให้โควิดสิ้นสุด หรือ ระบาดยาวไปถึงสิ้นปี - เชื่อหากรักษาระดับติดเชื้อรายใหม่ไม่ให้สูงกว่านี้ได้กลางปีลดเหลือหลักพัน - ขอลูกหลานคลีนตัวเอง 7 วันและฉีดวัคซีนก่อน 2 สัปดาห์ ก่อนกลับเจอญาติผู้ใหญ่




นายแพทย์อุดม คชินทร ที่ปรึกษา ศบค. ระบุในช่วงเทศกาลสงกรานต์จะมีการผ่อนคลายมาตรการบางอย่างอย่างแน่นอน โดยจะไม่มีการประกาศล็อคมาตราการใดๆทั้งสิ้น จะปล่อยทุกอย่างให้ดำเนินการไปตามปกติ เพราะเป็นเทศกาลและวัฒนธรรมที่สำคัญของไทย



แต่เมื่อผ่อนคลายให้แล้ว ประชาชนก็ต้องระมัดระวังตนเองด้วย เพราะตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับสูงกว่า 27,000 ราย และเสียชีวิตกว่า 80คน แม้จะไม่มีอาการเจ็บป่วยที่รุนแรง แต่ไม่อยากให้กลับไปเหมือนช่วงเทศกาลสงกรานต์ปีที่แล้ว ที่มีการระบาดยาวจนถึงปลายปี พร้อมย้ำว่า หากตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันยังพุ่งสูง จะเกิดการระบาดยาวไปจนถึงสิ้นปีแน่นอน ซึ่งหากตัวเลขผู้ติดเชื้ออยู่ในระดับนี้ คาดการณ์ ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ในช่วงกลางปีจะอยู่ที่หลักพันคนต่อวัน



ทั้งนี้ศบค.คาดการณ์ว่าจะมีผู้ติดเชื้อ อยู่ที่ 30,000 คนต่อวัน ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต ไม่อยากให้เป็น 3 หลัก เพราะการเสียชีวิตรายวันขณะนี้ อยู่ที่ 80 ราย แต่ถ้าหากยังเป็นเช่นนี้ ผู้เสียชีวิตจะทะลุหลักร้อย อย่างแน่นอน ซึ่งส่วนตัวไม่อยากให้เกิดขึ้น เพราะเป็นจำนวนที่มากเกินไป



อย่างไรก็ตามนายแพทย์อุดมยังขอให้ประชาชนปฎิบัติตัวในช่วงเทศกาลสงกรานต์ใน 3 สิ่งสำคัญ คือ1. เข้ารับวัคซีนให้ครบโดส รวมไปถึงฉีดเข็มกระตุ้น เพราะข้อมูลเป็นที่แน่ชัดแล้วว่าสามารถลดอาการป่วยรุนแรงและการเสียชีวิตได้ ซึ่งตัวเลขผู้เสียชีวิตในขณะนี้กว่า 60% คือผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน จึงขอประชาชนอย่ากังวล ลังเลในผลข้างเคียงของวัคซีน / 2. ลูกหลาน ที่จะไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ ต้องเข้ารับวัคซีนให้ครบโดส ล่วงหน้าอย่างน้อย 2 สัปดาห์เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกันก่อนช่วงสงกรานต์ ป้องกันการแพร่ระบาดไปสู่บุคคลอื่น พร้อมเก็บตัว ไม่ไปในสถานที่เสี่ยงอย่างน้อย 7 วันเพื่อป้องกันการรับเชื้อโดยไม่รู้ตัว ซึ่งจากข้อมูลการติดเชื้อในขณะนี้ไม่ใช่คัตเตอร์ใหญ่ แต่เป็นการติดเชื้อแบบไม่รู้ตัวพร้อมย้ำว่าการใส่หน้ากากอนามัยและการเว้นระยะห่างเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และ 3. ก่อนเดินทางขอให้ตรวจหาเชื้อด้วยชุดตรวจ ATK เพื่อให้มั่นใจว่าจะไม่นำเชื้อไปสู่ญาติผู้ใหญ่



นายแพทย์อุดมระบุว่า ขณะนี้มาถึงทางแยกแล้ว ทั้งหมดขึ้นอยู่กับประชาชน ว่าจะให้โควิดสิ้นสุดลง ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ หรือจะเกิดจุดเปลี่ยนในช่วงสงกรานต์ และจะลากยาวไปจนถึงช่วงสิ้นปี ทำให้ทุกอย่างชะงักเศรษฐกิจไม่เดินหน้า ยืนยันว่ารัฐบาลทำทุกอย่างอย่างเต็มที่เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด



ทั้งนี้ หากระยะนี้ป้องกันและควบคุมได้ดี เชื่อว่า ในช่วงกลางปีตั้งแต่เดือนกรกฎาคมไปแล้ว น่าจะสามารถเปลี่ยนให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่นได้ แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับประชาชน ต้องช่วยกันเพราะขณะนี้ถึงทางแยกแล้ว