พลทหารบุกปล้นร้านสะดวกซื้อ กระซิบพนักงานขอเงินในลิ้นชัก

ร.ต.อ.แสวง ประศรีธนสมบัติ รอง สวป.สภ.เมือง ระยอง ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่ที่ป้อมตำรวจ ห่างจากที่เกิดเหตุ ประมาณ 50 เมตร ได้รับแจ้งว่ามีสัญญาณเตือนภัยดังขึ้นที่ร้านสะดวกซื้อ สาขาหน้าขนส่งระยองเก่า ต.ท่าประดู่ อ.เมือง จ.ระยอง จึงรายงานให้ พ.ต.อ.อภิชนันท์ วัฒนวรางกูร ผกก.สภ.เมือง ระยอง พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เข้าไปตรวจสอบทันที



เมื่อไปถึงร้านเซเว่นฯที่เกิดเหตุ พบกับน.ส.กิ่งกาญจน์ พนักงานที่เป็นผู้กดสัญญาณแจ้งเตือน ได้ให้การด้วยอาการตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ว่าขณะที่กำลังอยู่ในร้าน 2 คน ปรากฎว่ามีลูกค้าเป็นผู้ชาย รูปร่างเล็กผิวขาว ตัดผมเกรียน ใช้เสื้อทหารโพกศีรษะ ใส่เสื้อยืดสีขาว กางเกงขาสั้นสีเขียว สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ เดินเข้ามาในร้าน แล้วเดินตรงมาหาตนเองที่กำลังอยู่หน้าเคาท์เตอร์ แล้วก็มากระซิบบอกว่า จะมาปล้น ขอเงินในลิ้นชัก 1,000-2,000 บาท ได้หรือเปล่า โดยที่มือจับกุมอยู่ที่เอวตลอดเวลา คล้ายกับจับอาวุธอยู่ ตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินเข้าไปในเคาท์เตอร์ ที่มีพนักงานอีกคนยืนอยู่ ชายคนดังกล่าวได้เดินตรงมาที่หน้าเคาท์เตอร์ แล้วพูดซ้ำอีกว่า จะมาปล้น ขอเงินในลิ้นชักได้หรือเปล่า



พนักงานอีกคนจึงกดปุ่มสัญญาณเตือนภัยที่ขึ้นตรงกับสถานีตำรวจ ผู้ก่อเหตุเห็น เกิดอาการตกใจรีบเดินหนีออกจากร้านไปทันที สำหรับผู้ก่อเหตุคล้ายกับทหารที่เข้ามาซื้อของก่อนก่อเหตุ 2 ครั้ง ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในร้าน กระจายกำลังออกติดตามคนร้ายรายนี้ทันที ปรากฏว่าได้มีพลเมืองดีแจ้งว่า พบผู้ชายที่มีรูปพรรณสัณฐานคล้ายกับผู้ก่อเหตุ ยืนอยู่หน้าแผงผลไม้ ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 300 เมตร เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงระดมกำลังไปตรวจสอบ



พบกับผู้ชายสวมชุดทหาร จึงเข้าไปแสดงตัว ทราบชื่อคือนายศุภชัย อายุ 22 ปี ปัจจุบันเป็นพลทหารเกณฑ์ สังกัดกองบังคับการ และบริการกองบัญชาการ หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายตากสิน จ.จันทบุรี จากการสอบสวน ยอมรับสารภาพว่าเป็นทหารเกณฑ์ และเป็นผู้ก่อเหตุในร้านสะดวกซื้อจริง เพราะต้องการนำเงินไปใช้เป็นค่ารถกลับไปที่ จ.ชลบุรี และนำไปใช้จ่าย หลังก่อเหตุได้หนีไปที่ห้องเช่าที่เช่าไว้ก่อนหน้านี้ เปลี่ยนชุดทหารแล้วเดินออกมาเตรียมเดินทางไป จ.ชลบุรี แต่มาถูกควบคุมตัวไว้ก่อน



ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ประสานไปยังกองสารวัตรทหาร ให้มาตรวจสอบว่าเป็นทหารจริงหรือไม่ หลังตรวจสอบเอกสารพบว่าเป็นพลทหารจริง สังกัดกองทัพเรือ โดยยังประจำการอยู่ที่ค่ายตากสิน จ.จันทบุรี หลังการสอบสวนจึงควบคุมตัวส่งให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมือง ระยอง ดำเนินคดี ในข้อหาพยายามกรรโชกทรัพย์ ก่อนจะส่งตัวสารวัตรทหารนำตัวกลับกลับไปดำเนินคดีต่อที่ ททบ.14 ค่ายทหารราบ ปรมินทร์ ชลบุรี ต่อไป