เลือกตั้งและการเมือง

“อนุทิน” เปิดใจไม่คิดอะไรเกินเลย หลังมีกระแสไฮแจ็คเก้าอี้นายกฯ

โดย attayuth_b

19 ก.พ. 2565

47 views

“อนุทิน” เปิดใจไม่คิดอะไรเกินเลย หลังมีกระแสไฮแจ็คเก้าอี้นายกฯ ยึดประโยชน์ชาติเป็นหลัก ไม่อยากได้ดีโดยที่ประเทศเสียหาย ขอประชาชนพิจารณาให้โอกาสเลือกตั้งครั้งหน้า

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายก รัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ ใต้เตียงการเมืองของทางเพจ Ch3Thailandnews โดยช่วงหนึ่ง มีการกล่าวถึงกระแสความเนื้อหอม ของพรรคภูมิใจไทย ที่มี ส.ส.ย้ายเข้าไปสังกัดเพิ่มขึ้น โดยย้ำว่า แม้จะเนื้อหอมพรรคก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการบริหารบ้านเมือง เพื่อไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

ส่วนที่มีการวิเคราะห์ว่า ความเนื้อหอม ของพรรคภูมิใจไทยจะมีโอกาสทำให้เกิดการไฮแจ็คเก้าอี้ นายกรัฐมนตรีนั้น นายอนุทิน กล่าวขอตอบตรงนี้เลยว่าไม่มีวัน ไม่มีทางที่จะเกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะระบบใดก็ตาม เพราะเราเชื่อถือในระบบของเรา ทำงานด้วยกันเป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน ก็ต้องสนับสนุน ซึ่งกันและกัน และคำว่าไฮแจ็ค สำหรับตนเองนั้นแรงเกินไป เหมือนต้องไปจี้ไปปล้น มันทำไม่ได้เพราะนี่เป็นเรื่องของบ้านเมือง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามครรลอง ดังนั้น ขอยืนยันนั่งยันนอนยันว่าไม่มีวันจะเกิดขึ้น เพราะทุกอย่างมีกติกา มีมารยาทและมีความรับผิดชอบต่อกันและกัน

ส่วนการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคภูมิใจไทย จะวางตัวอยู่จุดใดนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายไหนอย่างไรสิ่งสำคัญขึ้นอยู่กับนโยบาย ของพรรคที่สามารถสร้างนโยบายให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ที่ผ่านมาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้ว นโยบายที่พูดแล้วทำได้ เป็นสิ่งที่พรรคต้องคิดถึงเรื่องนี้ก่อน ไม่ใช่ไปคิดอะไรที่มันเกินเลยขึ้นไป อย่าไปกำหนดอะไรไว้ก่อน เพราะถึงเวลาจริงๆในทางการเมือง ทุกอย่างจะเริ่มหลังปิดหีบเลือกตั้ง ว่าประชาชนไว้วางใจมากน้อยเพียงใด ถ้าไปตั้งเป้าไว้ก่อน มันจะทำให้เราเสียเวลา ไม่สามารถทำในสิ่งที่ควรจะทำ และสิ่งที่ควรจะทำของพรรคตอนนี้ก็คือ การปั่นงาน ที่สัญญากับพี่น้องประชาชนไว้ให้เสร็จ และสร้างนโยบายใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชน



ขณะที่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งครั้งหน้า นายอนุทินยืนยันว่า พรรค ภูมิใจไทย มีความเชื่อถือซึ่งกันและกัน ทุกคนยืนยันแล้วว่า คนที่จะมาเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคคือหัวหน้าพรรค ดังนั้นตราบใดที่พรรค ยังให้ตนเป็นหัวหน้าพรรคอยู่ ต้นก็ต้องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีในนามของพรรค หรือถ้ามีคนที่มีความสามารถ มากกว่ามาเป็นหัวหน้าพรรค คนนั้นก็จะต้องเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค

ผู้ดำเนินรายการถามว่า ดูจากสัดส่วน จำนวน ส.ส.ของพรรคภูมิใจไทย และ ส.ส. พรรคฝ่ายค้านที่ซุกซ่อนอยู่ รวมแล้วมี ส.ส.ในมือ 70-80คน อาจมีผลเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีตอนนี้ได้หรือไม่นั้น นายอนุทินกล่าวด้วยอารมณ์ขำว่าเอามาจากไหน 70-80-คน เพราะเห็นๆอยู่ว่า ส.ส.ของพรรคมีเพียง 60 กว่าคน ย้ำว่าเวลานี้ พรรคต้องการทำการเมืองให้เข้มแข็ง เนื่องจากอยู่ในช่วงโค้งสุดท้าย ที่จำเป็นจะต้องทำให้เสถียรภาพของรัฐบาล มีความมั่นคง เพื่อที่ประโยชน์สูงสุดจะได้เกิดแก่ประชาชน

“ ต้องสะกดคำว่าประชาชนทุกวันและตั้งใจทำงานเพื่อเขา เชื่อว่าพี่น้องประชาชนไม่ใจดำถ้าได้เห็นว่าเราทำงานเพื่อเขาอย่างทุ่มเท ยังไงวันหนึ่งประชาชนก็น่าจะพิจารณา ให้เราได้มีโอกาสได้รับใช้ประชาชนต่อไป “

นายอนุทิน กล่าวได้ว่าพ่อแม่สอนให้คิดถึงส่วนรวมก่อน อะไรที่ตนทำแล้วประเทศชาติได้ประโยชน์ตนก็จะทำ แต่ถ้าเราได้ดิบได้ดีขึ้นมาโดยที่ประเทศชาติไม่ได้ประโยชน์ เสียหาย ความมั่นคงไม่มีความสงบไม่มี แบบนี้จะไม่ทำ ยืนยันว่าที่ผ่านมาตนผ่านเหตุการณ์หลายๆเหตุการณ์ในชีวิตที่จะต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ เมื่อใดที่ตนตัดสินใจบนประโยชน์ของประชาชนแล้วไม่เคยพลาด ดังนั้นเรื่องของตนเองในทางส่วนตัวไม่มีความหมายเลย


คุณอาจสนใจ

Related News