สังคม

คนตาบอดขายลอตเตอรี่ โดนเพื่อนร่วมอาชีพยืมเงินกว่า 3 ล้านก่อนหนีหาย

โดย sujira_s

15 ก.พ. 2565

191 views

นนทบุรี - อาชีพเดียวกันทำกันได้ลง! คนตาบอดขายลอตเตอรี่ โดนเพื่อนร่วมอาชีพยืมเงินกว่า 3 ล้าน แล้วชิ่งหนี


วันที่ 15 ก.พ.65 เวลา 13.00 น.ที่ สภ.บางบัวทอง คนตาบอดขายลอตเตอรี่ 4 คน เดินทางเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน หลังเพื่อนร่วมอาชีพทักมาขอยืมเงินแล้วบอกจะคืนให้ตั้งแต่กลางปี 64 จนกระทั่งข้ามปียังใช้เงินคืนให้ไม่หมด ซึ่งแต่ละคนโดนผู้หญิงคนเดียวกันยืมทั้งเงินสด รวมๆ แล้วกว่า 2 ล้านบาท และโฉนดที่ดินอีกมูลค่าเกือบล้านบาท มูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท


ล่าสุดนัดคุยกันกับคู่กรณีในวันศุกร์ที่ 11 ก.พ.ที่ผ่านมา แต่อีกฝ่ายกลับเบี้ยวนัดไม่ยอมมา ซ้ำยังติดต่อทางโทรศัพท์ไม่ได้อีก โดยในวันนี้ นาย ไพฑูรย์ เต็มรัก เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้ๆ กันกับผู้เสียหายทั้ง4คน ได้เป็นคนพาทั้งหมดมาแจ้งความที่ สภ.บางบัวทอง เนื่องจากผู้เสียหายได้มาขอร้องให้ช่วย ซึ่งตนก็พอจะรู้เรื่องการยืมเงินครั้งนี้พอสมควร และสงสารเพราะเขาก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร


น.ส.สุพัตรา สีสิงห์ อายุ 49 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่ เล่าว่า เมื่อประมาณกลางปี 64 นางวิไลพร ทองคำ อายุ 56 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่และพิการทางสายตาเหมือนกัน ได้มาพูดคุยและขอยืมเงิน 200,000 บาท โดยให้เหตุผลว่าจะนำเงินไปซื้อลอตเตอรี่มาขาย ตนเองก็ไม่มีเงิน แต่เห็นเป็นเพื่อนร่วมอาชีพและบ้านอยู่ใกล้กัน จึงได้ขอยืมเงินจากคนอื่นเอามาให้นางวิไลพร


หลังจากที่ยืมไปก้อนแรก ก็ได้มีการติดต่อคืนเงินให้บางส่วนแต่ก็คืนไม่ครบ แล้วก็มาขอยืมต่ออีก 250,000 บาท และก็อีก 100,000 บาท แล้วก็คืนเงินให้บ้างแต่ก็ไม่ครบสักรอบ เป็นแบบนี้อยู่หลายรอบจนไม่มีเงินให้ยืมแล้ว ต้องเอาโฉนดที่ดินของตนไปจำนองมาให้ นางวิไลพรอีก จำนวน 500,000 บาท จนกระทั่งมาถึงช่วงต้นปี 65 ก็ยังได้รับเงินไม่ครบเลย ตอนนี้ตนเดือดร้อนมากเพราะจะต้องนำเงินไปผ่อนบ้านด้วยอีก ตอนนี้ยังไม่รู้จะหาเงินจากที่ไหนไปผ่อนบ้านและต้องหาเงินไปคืนให้กับคนที่ตนไปยืมมาให้นางวิไลพรอีก โดยรวมแล้วเงินของตนถูกยืมไป 1,040,000 บาท และโฉนดที่ดินมูลค่าอีก 500,000 บาท


โดยอยากให้นางวิไลพร กลับมาคุยกันมาตกลงกันว่าจะเอายังไง อย่าหนีไปแบบนี้ มีอะไรมาคุยกัน ตนก็ไม่อยากมาแจ้งความแบบนี้เพราะทำอาชีพเดียวกัน และเป็นคนตาบอดเหมือนกันไม่น่าจะมาทำกันแบบนี้เลย ติดปัญหาอะไรเข้ามาคุยกันดีกว่าหนีแบบนี้



นายบำรุง ขุนชาญโหมก อายุ 52 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่เช่นกัน เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนก็โดนเหมือนกับ น.ส สุพัตราเลย ก็ได้มีการพูดคุยกับ น.ส.วิไลพร เมื่อช่วงวันที่ 3 ม.ค.65 ในลักษณะของการขอยืมเงิน โดยตนได้ทำการโอนเงินไปให้กับ น.ส.วิไลพรหลายครั้งมาก ครั้งละ 100,000-200,000 บาท โดยโอนให้มากสุดคือ 300,000 บาท และได้นำเอาโฉนดที่ดินไปจำนองอีก 200,000 บาท เพื่อนำมาให้นางวิไลพร แต่ก็ไม่เคยได้รับเงินคืนครบเลยสักครั้ง จนตอนนี้ตนได้ให้ยืมเงินไปแล้ว 970,000 บาท เคยโทรไปหานางวิไลพรแล้วแต่ก็ไม่รับสาย พอไปหาที่บ้านก็ไม่อยู่บ้าน ตนไม่รู้จะทำยังไงอยากได้เงินคืน เพราะต้องเอาไปใช้จ่ายทั่งค่าผ่อนบ้านและซื้อลอตเตอรี่มาขาย ตอนนี้ไม่มีเงินทุนมาหมุนเพื่อนำไปซื้อลอตเตอรี่แล้ว เดือดร้อนมาก



ด้าน น.ส.จริญญา ทุมมาศ อายุ 48 ปี อาชีพขายลอตเตอรี่เช่นเดียวกัน เล่าว่าตนก็โดนเหมือนกับ 2 คนแรก แต่โอนเงินให้ยืมน้อยกว่า โดยของตนให้นางวิไลพร ยืมเงินไปสองรอบ รอบแรก 200,000 บาท และรอบสองอีก 120,000 บาท และยังไม่ได้รับการติดต่อคืนเงินเช่นกัน



ล่าสุดทาง น.ส.สุพัตรา และผู้เสียหายทั้งหมดได้มีการนัดคุยกับนางวิไลพร เมื่อวันที่ 11 ก.พ.65 เพื่อที่จะเจรจาและตกลงการคืนเงิน แต่ก็ไม่มาตามนัด และยังได้มีการติดต่อทางโทรศัพท์ แต่ทางนางวิไลพรไม่ยอมรับโทรศัพท์ซึ่งที่ผ่านมาก็พยายามติดต่อนางวิไลพรอยู่ตลอ ดแต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ จึงไม่รู้ว่าคู่กรณีจะเอายังไง จึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความ เบื้องต้นทั้งหมดได้เดินทางเข้าแจ้งความกับ ร.ต.ท บัญญพนต์ แก้วปรีชากร รองสว (สอบสวน) สภ.บางบัวทอง เพื่อลงบันทึกไว้เป็นหลักฐาน เพื่อติดตามตัวนางสาววิไลพรมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

คุณอาจสนใจ