สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 15 ก.พ.65 พ่อลูกช่างเหลาซบภูมิใจไทย-เค ร้อยล้าน คลั่งซ้ำซาก-แม่ทำลูก 4 เดือนหล่นไม่รู้ตัว

โดย thichaphat_d

15 ก.พ. 2565

58 views

-สุดเถื่อน วัยรุ่นบัวใหญ่ โคราช กร่างเปิดศึกตะลุมบอนคู่อริ ในงานหมอลำ เจ็บ 5 ราย ก่อนตามไปก่อเหตุซ้ำขว้างระเบิดใส่หน้าโรงพยาบาล สุดท้ายไม่รอด ตำรวจตามรวบตัว เยาวชนชาย 6 คน สารภาพทะเลาะกับเจ้าถิ่น อ้างถูกท้าทายจึงโมโหขว้างระเบิดปิงปองใส่ ก่อนหลบหนี

-แม่มือใหม่พาลูกน้อยวัย 4 เดือนเที่ยวงานกาชาดสระแก้ว เมาหลับขณะซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ ทำลูกร่วงกลางถนนไม่รู้ตัว กู้ภัยเร่งนำส่งโรงพยาบาลก่อนประกาศตามหาวุ่น เจ้าตัวอ้างง่วงมาก ไม่รู้ลูกหล่นหายไปตอนไหน ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ขอเช็ควงจรปิด หากพบจงใจทิ้งเด็ก เจอคดีอาญาแน่นอน

-คลั่งซ้ำซาก “เค ร้อยล้าน” อาละวาดกลางห้างดังย่านปทุมวัน ราดน้ำแดงขว้างขวดแก้วแตกกระจาย เผยวีรกรรมสุดห่ามโพสต์คลิปถุงใส่งูในโรงแรมหรู ปักธูปบูชาหลวงปู่สุข ก่อนถูกถีบจนล้มกลิ้ง ขณะที่ธรรมศาสตร์รังสิต เตือนนักศึกษา ให้ระวัง หลังโผล่เช็คอิน โพสต์คลิปงูข่มขู่ ตำรวจจ่อดำเนินคดีญาติ ฐานปล่อยปะละเลย

-วาเลนไทน์เลือด 2 จังหวัด ตาย 2 ศพ เจ็บ 1 ที่แม่ระมาด สลด พิษรักแรงหึงครบรอบ 1 ปี วันแต่งงาน ตรงวาเลนไทน์ ลุงวัย 63 ปี ชักปืนยิงเมียวัย 54 ตาย ก่อนยิงตัวตามคาห้องนอนสีชมพู ลูกสาวเผยนาทีเศร้าก่อนก่อเหตุ โทรสั่งเสียให้มารับศพ เพื่อนบ้าน แฉมีปากเสียงบ่อยครั้ง เพราะหึงหวง

ส่วนที่ระยอง ผัวเก่าหวังขออดีตเมียคืนดีในวันวาเลนไทน์ เจอภาพบาดตา จู๋จี๋อยู่กับคนรักใหม่ คว้ามีดฟันหัวเจ็บคาบ้าน ก่อนเผ่นหนี ตำรวจเร่งไล่ล่า

-เพจดัง แฉขบวนการซื้อขายรถเถื่อนค้างไฟแนนซ์ข้ามชาติ เผยคลิปสนทนา อ้างชื่อ นายตำรวจ ร่วมขบวนการ ด้านผู้กำกับ สภ.บางใหญ่ ระบุ พันตำรวจโทนายหนึ่ง มาลงบันทึกประจำวันอายัดไว้ หลังเจ้าของไม่มีเอกสารยืนยันการครอบครอง มีเพียงใบโอนลอย ยันไม่พบความผิดปกติการซื้อขายรถ ด้าน สตช.สอบข้อเท็จจริงแล้ว

-รัฐมนตรีสาธาณสุข “อนุทิน” ยัน ไม่ยกเลิก สิทธิ UCEP รักษาผู้ป่วยโควิด-19 ภาครัฐพร้อมจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามสิทธิที่มีอยู่ เตือนบริษัทประกัน อย่าเลี่ยงบาลี ไม่คุ้มครองการรักษาพยาบาล ถือว่าผิดกฎหมาย ขณะที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ย้ำรักษาที่บ้าน-ฮอสพิเทล เป็นผู้ป่วยใน เบิกตามกรมธรรม์ได้ เตรียมร่อนหนังสือแจง คปภ.

-คนบันเทิงติดโควิดอีกราย บอย ปกรณ์ แจ้งผ่านไอจีส่วนตัว ติดโควิด หลังมีอาการเจ็บคอ มึนหัว มีไข้ กำลังรักษาตามขั้นตอน พร้อมผมขอโทษทุกคนที่ได้รับผลกระทบ

-สุดคึกคัก ครั้งแรกในไทย คู่รัก LGBTQ พากันจูงมือจดแจ้งคู่รักไม่จำกัดเพศ ที่เขตบางขุนเทียน พบมีคู่รักจดแจ้ง 270 คู่ แม้ไม่มีผลทางกฎหมาย แต่อยากแสดงออกถึงจุดยืน พร้อมเร่งผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม ขณะที่บรรยากาศทั่วประเทศ ชื่นมื่นคู่รักพากันจดทะเบียนสมรสวันวาเลนไทน์ เฉพาะ กทม. มีคู่สมรสจดทะเบียน 2,264 คู่


เรื่องเล่าการเมือง

-เนื่องในวันวาเลนไทน์ มีความเห็นจากนายกรัฐมนตรี โดยฝากให้ประชาชน อย่าลืมรักชาติบ้านเมือง ส่วนปัญหาเสถียรภาพการเมืองยืนยันว่าพรรคร่วมรัฐบาลทุกคนพร้อมเดินหน้าไปด้วยกัน

พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงถึงกระแสข่าวที่มีการรายงานว่านายกรัฐมนตรีได้ขอร้อง ให้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาทางการเมืองที่กำลังมีปัญหาในเวลานี้

โดยนายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า สิ่งที่พูดนั้นเป็นการพูดกับหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคไม่ได้เจาะจงเฉพาะพรรคใดพรรคหนึ่ง เพราะหวังให้ทุกคนร่วมกันทำงานให้ประเทศชาติเดินไปให้ได้ และยืนยันว่าตนเองกับพรรคร่วมรัฐบาลนั้นไม่ได้มีปัญหาใดๆ ทุกคนยังร่วมมือกันทำงาน

นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยังพูดถึงวันแห่งความรัก เมื่อวานนี้ โดยฝากถึงประชาชน อย่าลืมรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และรักคนไทยด้วยกัน เพื่อความสามัคคีด้วย

อีกทั้ง ยังได้แสดงความเป็นห่วง สื่อมวลชนระหว่างที่มีการสัมภาษณ์ด้วย เนื่องจากสัมภาษณ์ท่ามกลางบรรยากาศที่เริ่มครึ้มฟ้าครึ้มฝน โดยท่านนายกฯ มีการบอกกับสื่อว่า ระวังจะไม่สบาย และถึงแม้ฝนจะตกลงมา แต่ไม่นานฟ้าก็จะเปิด จะกลับมาสดใส พร้อมกับทำท่า ไอเลิฟยู ส่งความรักให้กับสื่อมวลชนด้วย

-ขณะที่นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรัฐมนตรีสาธารณสุข หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยัน สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ต่อไป และย้ำว่า "มาด้วยกัน ก็ไปด้วยกัน"

ส่วนที่มีข่าวว่า พลเอกประยุทธ์ บอกว่า "หนูช่วยหน่อยนะ" นายอนุทิน กล่าวว่า นายกฯ ได้สอบถามว่า "พี่พูดกับหนูเมื่อไหร่" ตนตอบไปว่าจำไม่ได้ และเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วหากนายกฯ บอกว่าให้ช่วยหน่อยนะ ก็ช่วยกันทำงานอยู่แล้ว เพราะเป็นหน้าที่ และเป็นรัฐมนตรีด้วยกัน แต่การพูดของนายกฯ ไม่ได้เฉพาะเจาะจงที่ตน แต่พูดในลักษณะให้ช่วยกันทำงาน ทำให้ทุกอย่างเกิดความเรียบร้อย

ส่วนกรณีรถไฟฟ้าสายสีเขียว หากไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์พรรคภูมิใจไทย จะถอนตัวจากการร่วมรัฐบาลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของ 2 กระทรวงที่เห็นไม่ตรงกันในการทำงาน ซึ่งต้องหาจุดลงตัวให้ได้ ถ้าหาไม่ได้นายกฯอาจใช้วิธีให้ซาวเสียง หากมติเป็นอย่างไรก็ต้องปฏิบัติตาม

ยืนยันว่าไม่ใช่ความขัดแย้งระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล และถ้าพูดให้เคลียร์มากขึ้นไปอีก พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาจากการจัดสรรของนายกฯ ไม่ได้มาจากพรรคการเมือง ฉะนั้นยิ่งไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งในพรรคร่วมรัฐบาล

-ความชัดเจนเกี่ยวกับสถานะ ส.ส.ของ 21 ส.ส. พรรคพลังประชารัฐ ที่ถูกขับออกจากพรรคเมื่อวันที่ 19 ม.ค. และภายหลังมีสมาชิกพรรคไปร้องขอให้ กกต. เพิกถอนมติดังกล่าว โดยอ้างว่าไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ซึ่งคนที่ไปร้องเรื่องนี้ คือ นายสมัย รามัญอุดม อดีต ผู้สมัคร ส.ส.ปทุมธานี ของพรรคพลังประชารัฐ มีการยื่นรายชื่อสมาชิกพรรค 155 คน เพื่อให้เป็นไปตามเงื่อนไขของกฎหมายพรรคการเมือง ที่ระบุให้การจะขอเพิกถอนมติพรรค นั้นต้องมี สมาชิกเข้าชื่อไม่น้อยกว่า 100 คน

โดยเรื่องนี้ หาก กกต. มีการเพิกถอนมติพรรค ตามคำร้องจะส่งผลให้ ส.ส. ในกลุ่ม21 คน ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ไปสมาชิกพรรคเศรษฐกิจไทยแล้ว อาจพ้นจากความเป็น ส.ส.ได้ เพราะถือว่าเป็นสมาชิกซ้ำซ้อนกับพรรคอื่น

อย่างไรก็ตามที่ประชุม กกต. เมื่อวานนี้ไม่ได้นำคำร้องดังกล่าวมาพิจารณา เนื่องจากในนชั้นของสำนักงาน ยังไม่มีการรับคำร้องดังกล่าว โดย กกต. พบว่ารายชื่อสมาชิกตามคำร้อง มีไม่ถึง 100 คน ตามที่กฎหมายกำหนด

ทำให้เมื่อวานนี้ นายสมัย รามัญอุดม และนายสนธิญา สวัสดี ในฐานะผู้ร้องได้ไปยื่นคำร้องเพิ่มเติมต่อ กกต. อีกครั้ง โดยขอให้ กกต. ชะลอการตีตกเรื่องดังกล่าวไว้ก่อนเพื่อจะขอทบทวนรายชื่อสมาชิก ที่ยื่นไปว่าครบถ้วนหรือไม่ ซึ่งก็มีรายงานว่า ในวันนี้ที่ประชุม กกต. จะพิจารณาเรื่องนี้อีกครั้ง เพื่อให้มีความชัดเจน ว่าสรุปแล้วจะรับคำร้องดังกล่าวไว้พิจารณาหรือไม่

-สำหรับ 21 ส.ส. กลุ่มของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ถูกขับออกจากพรรคพลังประชารัฐนั้น วันที่ 18 ก.พ.นี้ จะเป็นวันสุดท้ายที่จะต้องหาพรรคสังกัดใหม่ หากสังกัดไม่ทันก็จะทำให้พ้น จาก ส.ส. ทันที

กลุ่ม 21 ส.ส. ขณะนี้มี 18 คน นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ที่ไปสังกัดพรรคเศรษฐกิจไทยและเข้าสภาฯไปปฏิบัติหน้า ที่ ส.ส.ในนามพรรคเศรษฐกิจไทย แล้ว ยังขาดอีก 3 ส.ส.

ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมามีภาพ ส.ส.เอกราช ช่างเหลา และ ส.ส.วัฒนา ช่างเหลา สองพ่อลูก ได้แยกตัวไปสมัครสมาชิกกับพรรคภูมิใจไทยแทน โดยทั้งคู่เขียนใบสมัครสมาชิกพรรคแบบตลอดชีพ มอบให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล กลางงานแต่ง ของนายพิทักษ์ชน ช่างเหลา บุตรชายคนเล็กของนายเอกราช ระหว่างที่นายอนุทิน เดินทางมาเป็นประธานงานแต่งที่โรงแรมพูลแมน จ.ขอนแก่น

ทั้งนี้ นายอนุทิน ได้สวมเสื้อแจ็คเก็ตพรรคภูมิใจไทย ต้อนรับนายวัฒนา เข้าร่วมพรรค พร้อมกับถอดเสื้อสูทของตัวเองให้กับนายเอกราช

ทำให้ขณะนี้ กลุ่ม 21 คน สังกัดพรรคใหม่แล้ว 20 คน เหลือ 1 คน คือ นายสมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส. นครราชสีมา ที่ยังไม่มีการเปิดเผยว่าไปสังกัดพรรคการเมืองใหม่แล้วหรือไม่

-ประเด็นเรื่องการต่อสัญญารถไฟฟ้าสายสีเขียวอีก 30 ปี เมื่อวาน 4 ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. แสดงความไม่เห็นด้วย และ ชี้ว่าสามารถทำราคาค่าโดยสารต่ำกว่า 65 บาทได้

สภาองค์กรของผู้บริโภค จัดเสวนาออนไลน์ประเด็นปัญหาราคาและการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว โดยมีว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ทั้ง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ว่าที่ผู้สมัครอิสระ / นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ว่าที่ผู้สมัครจากพรรคก้าวไกล / นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ว่าที่ผู้สมัครจากพรรคประชาธิปัตย์ และนางรสนา โตสิตระกูล ว่าที่ผู้สมัครอิสระ

โดยทั้งสี่ แสดงความเห็นตรงกันใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ

1.ไม่เห็นด้วยกับการต่อสัญญาสัมปทานออกไปอีก 30 ปี

2.เรียกร้องให้มีการเปิดเผยเรื่องสัญญาสัมปทานเพื่อความโปร่งใสเป็นธรรม

3. เรื่องค่าโดยสาร สามารถปรับลดราคาให้ต่ำกว่า 65 บาทได้

นายชัชชาติ ไม่เห็นด้วยกับการต่อสัญญาสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียวออกไปอีก 30 ปี เพราะไม่ผ่าน พรบ. ร่วมทุนและเป็นผลพวงมาจาก ม. 44 และ มองว่ากทม.ไม่ควรอ้างเรื่องหนี้สินเพื่อที่จะต่อขยายสัมปทานออกไปอีก จำเป็นต้องเจรจาเรื่องหนี้สิน ซึ่งการให้วิ่งส่วนต่อขยายฟรีเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หนี้สินพอกพูนขึ้น

สำหรับค่าโดยสารนายชัชชาติมองว่าสามารถทำให้อยู่ระหว่าง 20 ถึง 25 บาทได้

นายวิโรจน์ ไม่เห็นด้วยกับการต่อสัญญาสัมปทาน เพราะไม่มีเงื่อนไขค่าโดยสารร่วมหรือตั๋วร่วม ซึ่งจะทำให้ราคาตั๋วโดยสารแพง มีค่าแรกเข้าเมื่อเปลี่ยนเส้นทางไปใช้รถไฟฟ้าสายอื่น และเรียกร้องให้มีการเปิดเงื่อนไขข้อตกลงสัญญาเพื่อความโปร่งใส

นายสุชัชวีร์ มองว่าค่าโดยสารควรคำนวณจากกำลังจ่ายของประชาชนโดยค่าขนส่งมวลชนไม่ เกินร้อยละ 20 ของค่าแรงขั้นต่ำ ดังนั้นถ้ารถไฟฟ้าที่เหมาะสมควรเป็น 20 ถึง 25 บาท หากราคาลดลงคนจะมีผู้ใช้บริการมากขึ้น ส่วนภาระหนี้สินก็สามารถออกเป็นธนบัตรได้ จะทำให้ กทม. มีศักดิ์ศรีไม่ต้องให้ใครมาทวงหนี้

นางรสนา ซึ่งมองว่าการต่อสัมปทานไม่แฟร์กับคนกรุงเทพ เพราะคนกรุงเทพจ่ายค่าโครงสร้างบีทีเอสมาตลอด 30 ปีอยู่แล้ว จึงขอให้กทม.เลิกทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง เห็นแก่เงินค่าต๋ง 200,000 ล้านบาท ส่วนเรื่องค่าโดยสาร การเดินทางทั้งระบบต้องไม่เกิน 40 ถึง 45 บาท



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/tck64yvtk68

คุณอาจสนใจ

Related News