สังคม
'บิ๊กโจ๊ก' นำทัพ ลุยจับแก๊งเงินกู้โหดอุดรฯ ทวงหนี้ชักปืนขู่ โดนข้อหาหนัก
โดย thichaphat_d
14 ก.พ. 2565
15 views
อุดรธานี-จากรณีแก๊งเงินกู้ควงปืนบุกยิงขู่บ้านลูกหนี้ หลังจากทะเลาะวิวาทกับลูกชายลูกหนี้วัย 16 ปี โดยไม่สนเสียงขอร้องและอ้อนวอน ของเพื่อนบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 11 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในพื้นที่ บ.หนองบุ ต.สามพร้าว อ.เมืองอุดรธานี
ต่อมาตำรวจสามารถติดตามจับกุมแก๊งเงินกู้ทั้งหมด 6 คน พร้อมของกลางอาวุธที่ใช้ก่อเหตุ ช่วงหัวค่ำวันที่ 12 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (13 ก.พ.) ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุดรธานี พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผช.ผบ.ตร. สอบปากคำและแถลงข่าวผลการจับกุมแก๊งเงินกู้ ประกอบด้วย
นายชาญชัย หรือชาญ เววิชัยโก อายุ 23 ปี
นายธนาวุฒิ หรือจ๊อบ สุขมานพ อายุ 23 ปี
นายบรรพต หรือบิ๊ก แสนโคตร อายุ 22 ปี
นายธนพล หรือทัช บุราโส อายุ 23 ปี
นายวสันต์ หรือโอ เมฆประทีป อายุ 24 ปี
และนายวรพล หรือไอซ์ คล้ายนุช อายุ 19 ปี
โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า ซ่องโจร, ร่วมกันประกอบธุรกิจการให้สินเชื่อส่วนบุคคลภายในทางการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจาก รมว.คลัง, ร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่ากฎหมายที่กำหนด, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจผู้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ชีวิต ร่างกายของผู้ถูกขืนใจ หรือใช้กำลังประทุษร้าย,
ร่วมกันบุกรุกโดยมีอาวุธ, ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นโดยมีอาวุธ, ร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจโดยการขู่เข็ญ, ร่วมกันพาอาวุธติดตัวไปในหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” รวมทั้งสิ้น 7 ข้อกล่าวหา
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เผยว่า ท่านนายกรัฐมนตรี และท่าน ผบ.ตร.ได้เห็นคลิปที่เกิดขึ้นแล้ว จึงได้สั่งการให้ตนลงมาช่วยเหลือ และแก้ปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ในคดีนี้เราสามารถยึดบัญชีของลูกหนี้ทั้งหมด 22 ราย วงเงินที่ให้กู้ประมาณแสนกว่าบาท เป็นการเก็บเงินกู้รายวันที่เรียกว่าดอกเบี้ยลอย ร้อยละ 60 ต่อเดือน ซึ่งโหดมาก
เมื่อ 2 ปีก่อนก็ได้ลงพื้นที่อีสาน เข้าจับกุมนายทุนเงินกู้มาแล้ว ซึ่งพี่น้องประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ฝากว่าการปล่อยเงินกู้ให้ปล่อยตามที่กฎหมายกำหนดก็คือร้อยละ 15 ต่อปี ไม่ฉ้อฉลกลโกง ถ้าท่านที่มีพฤติกรรมแบบนี้แล้วยังไม่เลิก ผมเองในฐานรองผู้บัญชาการปราบปรามหนี้นอกระบบ จะเข้าดำเนินการปราบปราม และดำเนินคดีบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด
“ฝากเตือนอีกครั้งว่า การเอารัดเอาเปรียบพี่น้องประชาชนจนไม่มีที่ยืน ไม่มีบ้านอยู่ ไม่มีสวนไร่นาอยู่ เตือนไว้ก่อน ขอให้เลิกพฤติกรรมนี้ ส่วนการทวงเงินทวงหนี้โดยใช้กำลัง ให้รู้ไว้ว่าบ้านเมืองมีขื่อมีแป หากประชาชนมีข้อมูลเบาะแส ขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่
วันนี้เราเชื่อว่าน่าจะมีนายทุนมากกว่านี้ เชื่อว่ามีนายทุนใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังด้วย หลังจากนี้เราจะขยายผลต่อไป หากพบว่ามีนายทุนจริง เราก็จะดำเนินคดีกับนายทุนด้วย ประมาณ 1 สัปดาห์ น่าจะได้ทราบกัน ส่วนเรื่องนามบัตรนายทุนเงินกู้ที่แจกตามหน้าบ้านเรือนประชาชน หรือใบปลิวที่ติดตามสถานที่ต่างๆ เรื่องนี้ได้สั่งการให้ทุกพื้นที่ทั่วประเทศแล้วให้ตรวจสอบที่มาของนามบัตรเหล่านี้ ให้สแกนทุกพื้นที่โดยเฉพาะพื้นที่ภาคอีสาน”
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ฝากถึงกลุ่มที่แจกนามบัตรหรือใบปลิวเงินกู้ ผมจะตรวจสอบให้หมด หากพบว่ามีการปล่อยเงินกู้ผิดกฎหมายก็จะดำเนินการตามกฎหมายเช่นกัน รวมไปถึงกลุ่มที่ใช้เทคโนโลยีในการโฆษณาปล่อยกู้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ผ่านสื่อออนไลน์ต่างๆ ตรงนี้เราก็จะเข้าตรวจสอบเช่นกัน
เบื้องต้นได้มีการหารือร่วมกับบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือทุกค่ายแล้ว ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี ในส่วนไหนที่พี่น้องประชาชนเดือดร้อนเราจะเข้าตรวจสอบให้ทั้งหมด หลังจากนี้จะลงพื้นที่บ้านที่เกิดเหตุเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้พี่น้องประชาชน และย้ำให้รับทราบว่า จะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่ทั้งสองฝ่ายภายใต้กฎหมายเดียวกัน
ต่อมา พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ได้เดินทางไปเยี่ยมชาวบ้านในหมู่บ้านที่เกิดเหตุและได้พูดคุยกับน.ส.เพลินพิศ หรือเป้และชาวบ้าน ซึ่งชาวบ้านสุดดีใจจนกลั้นน้ำตาไม่ไหลร้องไห้ออกมาและขอบคุณเจ้าหน้าที่ตร.ที่สามารถจับกุมแก๊งเงินกู้ได้รวดเร็ว
โดย น.ส.เพลินพิศ ผู้เสียหาย บอกว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการตามกฎหมายแล้วรู้สึกโล่งใจรู้สึกมีความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น เมื่อคืนนอนหลับสบายดีหลังจากไม่ได้นอนมา 2 คืน ยืนยันจากนี้จะหาเงินต้นจำนวน 10,000 บาทไปคืนเจ้าหนี้ให้ได้เร็วที่สุด และจะไม่กู้เงินจากหนี้นอกระบบอีกแล้ว เพราะเข็ดกับการกระทำแบบนี้
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/6KuOFJMB85Q