เร่งล่า 2 คนร้ายแก๊งมาเฟียข้ามชาติ ยิงถล่มชาวแคนาดาดับหน้าวิลล่า หลังพบปืนถูกทิ้งชายหาด

จากกรณี เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุ คนร้ายบุกเข้าไปบริเวณหน้าวิลล่าริมหาด โรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต พร้อมใช้อาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก กระหน่ำยิงชายชาวต่างชาติ จนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 4 ก.พ.ที่ผ่านมา



พล.ต.อ.สุชาติ จึงได้สั่งการให้นำกำลังตำรวจพร้อมด้วย พฐ.เข้าตรวจสอบ โดยใช้เครื่องตรวจมายดีเทคเตอร์ ตรวจหาวัตถุโลหะสแกนพื้นที่ตามเส้นทาง เบื้องต้นพบปืนที่คาดว่าจะใช้ในการก่อเหตุ 2 กระบอก โดยเป็นปืนชนิดวอลเทอร์ พีพีเค และปืน CZ ตรวจสอบพบว่าเป็นปืนที่มีการจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และมีชื่อคนไทยอีก 2 คนเป็นผู้ครอบครอง ซึ่งหลังจากนี้ตำรวจจะเรียกมาสอบปากคำ ว่ารู้เห็นด้วยหรือไม่ ส่วนคนร้ายต่างชาติทั้ง 2 ราย จากการสืบสวนทราบว่าได้หลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว

วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชี้แจงถึงความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุฆาตกรรมชาวต่างชาติในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ดังนี้ หลังจากที่ พล.ต.อ.สุวัฒน์  แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมคณะได้ลงพื้นที่เพื่อประชุมวางกรอบแนวทางการสืบสวนและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา

ต่อมาในวันนี้(10 ก.พ.65) เวลาประมาณ 17.00 น. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วย พล.ต.ท.อำพล  บัวรับพร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค8, ผู้แทนหน่วย สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง,กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง, กองบัญชาการตำรวจสันติบาล,กองบัญชาตำรวจท่องเที่ยว,สำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ, กองการต่างประเทศ

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินคดีและติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุจำนวน 2 ราย เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 บริเวณหน้าวิลล่าริมหาดโรงแรมแห่งหนึ่ง บนถนนวิเศษ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต  โดย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับการรายงานความคืบหน้าในทุกมิติตามลำดับ ซึ่งได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบตามหลักนิติวิทยาศาสตร์  ไล่ตรวจสอบกล้องวงจรปิด เส้นทางการหลบหนี สอบปากคำพยานไปแล้วหลายปาก และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ ตรวจค้นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียงตามทุกช่างทางที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ได้กำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งรัดทำการสืบสวนสอบสวนเพื่อติดตามจับกุมตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็วภายใต้กรอบของกฎหมาย และให้ประสานการปฏิบัติร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจของประเทศแคนาดาประจำประเทศไทย ซึ่งได้ให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับคดี เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนรวมถึงนักท่องเที่ยว และได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ระมัดระวังยึดตามหลักยุทธวิธีในการเข้าจับกุมผู้ต้องหา โดยมุ่งเน้นความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และประชาชนเป็นหลัก



รองโฆษกตร. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับความคืบหน้าคดีขณะนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่ทำการตรวจสอบและตรวจค้นในพื้นจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและติดตามจับกุมผู้ต้องหา อีกทั้งในส่วนของพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้อง รอผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์มาประกอบคดี และเร่งรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆเพื่อนำไปประกอบการยื่นคำร้องขออนุมัติหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 2 รายและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำความผิด ต่อศาลจังหวัดภูเก็ตต่อไป