สาวหัวร้อน ปรี่ตบไรเดอร์ร่วงคาถนน ฉุนปมขับรถปาดหน้ากัน

ไรเดอร์สาวใหญ่วัย 52 ปี มีปัญหากับสาวขับรถเก๋งขับปาดกัน จนต้องจอดรถคุย ฝ่ายไรเดอร์ตั้งกล้องถ่ายคลิป สุดท้ายถูกคู่กรณีตบร่วงได้รับบาดเจ็บ

ภาพเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทของผู้หญิง 2 คน ฝ่ายหนึ่งเป็นไรเดอร์ อีกฝ่ายขับรถเก๋ง โดยไรเดอร์เป็นฝ่ายถ่ายคลิปไว้ มีการตะโกนด่าทอกัน ไรเดอร์บอกว่า "มึงทำอะไรกับกู เดี๋ยวกูจะถ่าย ตัดหน้ารถผิดแล้วยังจะมาเก่งอีก" ส่วนฝ่ายรถเก๋งก็บอกว่า "มึงตัดหน้ารถกูก่อน แล้วยังจะมาเก่งกับกูอีกนะ" แล้วก็วิ่งปรี่เข้ามาตบตีกับไรเดอร์ ก่อนที่ภาพจะตัดไป เหตุเกิดเมื่อช่วงสายของวันที่ 9 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

นางฐานิตา อายุ 52 ปี ไรเดอร์ที่ได้รับบาดเจ็บนำเรื่องมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว พร้อมเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้ขี่มอเตอร์ไซค์วิ่งส่งอาหารมาตามถนนสายนิคมพัฒนา-บ้านค่าย อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง กระทั่งมาถึงจุดที่มีการก่อสร้างถนน ทำให้ต้องเบียดเล่นกัน ไปเจอรถเก๋งสีขาวคันหนึ่ง พยายามแย่งเบียดเข้าถนนด้วยความเร่งรีบ

หลังจากผ่านจุดดังกล่าว รถเก๋งสีขาวก็ขับตามพร้อมกดแตรไล่มาตามท้ายรถของตนตนเอง จึงกดแตรคืนไป จากนั้นก็ขับรถตามด่ากันมาตลอดทาง แล้วรถเก๋งได้ขับแซงขึ้นไปจอดดักหน้า แล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามคลิป ตนถ่ายไว้ได้แค่นั้นก่อนถูกตบร่วงคาถนน ได้รับบาดเจ็บ

หลังเกิดเหตุได้ไปลงบันทึกประจำวันที่ สภ.นิคมพัฒนา แต่ตำรวจบอกว่า จุดเกิดเหตุเป็นพื้นที่ของ สภ.บ้านค่าย จึงไปแจ้งความที่ สภ.บ้านค่าย ตำรวจสอบสวนเบื้องต้นก่อนพาไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อพูดคุยกับคู่กรณี ซึ่งตนเองยังสงสัยว่า คู่กรณีรู้ได้อย่างไรว่าตำรวจจะมาดูที่เกิดเหตุ

จากนั้นตำรวจแจ้งว่า ต้องไปโรงพักดำเนินคดีทั้งคู่ แต่ก็มาถามตนว่า จบตรงนี้ไหม ด้วยความที่ตนเองไม่มีเงินจะจ่ายค่าปรับ เลยบอกกับตำรวจไปว่า ขอจบก็ได้ แต่ตนก็ยังเก็บความสงสัยไว้ และเห็นว่าตนไม่ได้รับความเป็นธรรมจากตำรวจ จึงมาร้องสื่อ

ด้าน ร้อยตำรวจเอก ชัชวาล เพ็ชรนอก สารวัตรสอบสวน สภ.บ้านค่าย เจ้าของคดี เผยว่า วันเกิดเหตุได้ลงพื้นที่สอบสวนทั้งคู่ ให้การว่า เป็นการทะเลาะวิวาทกันในเรื่องแย่งเข้าช่องทางจราจร ในจุดที่มีการก่อสร้าง ซึ่งฝ่ายรถเก๋งขับมาตามทางปกติ

แต่ไรเดอร์ขี่รถฝ่าแบริเออร์ที่กั้นทางออกมา ทำให้คนขับรถเก๋งไม่พอใจบีบแตรใส่ จนทั้ง 2 ฝ่ายต่างฉุนเฉียว และทั้ง 2 ฝ่าย ก็ได้รับบาดเจ็บทั้งคู่ อีกทั้งการฝ่าแบริเออร์ก็ถือว่ามีความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรฯ ซึ่งตอนสอบสวน ตนถามความสมัครใจของทั้งคู่แล้ว ต่างสมัครใจที่จะไม่เอาเรื่อง จึงไม่ได้มีการลงบันทึกประจำวัน