สังคม
แม่ร้องสื่อ ลูกติดคุกแต่หนี้ผุด ถูกสวมรอยบัตรปชช.ซื้อของกว่า 2 แสน
โดย panisa_p
27 ม.ค. 2565
481 views
แม่ร้องทุกข์ถูกคนร้ายใช้บัตรประชาชนลูกสาวไปทำธุรกรรมเช่าซื้อรถจักรยานยนต์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจาก 4 บริษัทรวมมูลค่าว่า 200,000 บาททั้งที่เจ้าตัวยังอยู่เรือนจำมาตั้งแต่ปี 63 พบยังมีใบแจ้งทวงหนี้ส่งถึงบ้านอีกทุกวัน ผวากลัวมีหนี้เพิ่ม วอนตำรวจเร่งตามตัวคนร้ายหลังแจ้งความนับเดือนคดีไม่คืบ
นางสมควร ทิพย์โคตร อายุ 51 ปี อยู่ต.บ้านทุ่ม อ.เมือง จ.ขอนแก่น นำหลักฐานมาร้องกับสื่อหลังจากที่มีเอกสารทวงหนี้จากบริษัทเช่าซื้อสินค้า 4 แห่ง มาทวงถามหนี้ ประกอบด้วย เอกสารเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ Honda Wave 1 คัน มูลค่ารวมดอกเบี้ยประมาณ 85,000 บาท รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Yamaha Finn ราคารวมดอกเบี้ยประมาณ 50,000 บาท โทรทัศน์ ไม่ทราบยี่ห้อและขนาด 2 เครื่องจาก 2 บริษัท มูลค่า 50,000 และ 20,000 กว่าบาท ทยอยส่งมาที่บ้านตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายน 2564 จนกระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมา โดยจ่าหน้าชื่อผู้เช่าซื้อคืน น.ส.ศรัญญา อายุ 31 ปี ลูกสาว ซึ่งขณะนี้กำลังต้องโทษที่เรือนจำคลองไผ่ จ.นครราชสีมา
นางสมควรฯ เล่าว่า ลูกสาวคือ นส.ศรัญญาฯ ต้องโทษคดียาเสพติดตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 โดยรับโทษจำคุก 25 ปีเศษ แต่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2564 ได้รับหนังสือทวงหนี้ค่ารถจักรยานยนต์จากบริษัทเช่าซื้อแห่งหนึ่งที่เป็นชื่อลูกสาวเป็นผู้เช่าซื้อ จึงติดต่อกลับไปและแจ้งว่าไม่น่าเป็นไปได้เพราะลูกสาวยังอยู่ในเรือนจำ ซึ่งทางบริษัทฯยังแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า นส.ศรัญญาฯ ยังมีเอกสารรับรองการทำงานที่ห้างค้าปลีกแห่งหนึ่งและยังมีสลิปเงินเดือนเข้าออกในบัญชีอยู่ รู้สึกสงสัยว่าต้องมีใครนำบัตรประชาชนของลูกไปปลอมตัวไปสมัครงานและเช่าซื้อสินค้าแน่
จนกระทั่งมีหนังสือทวงหนี้มาอีก 3 แห่ง ตนและหลานสาวจึงพยายามหาข้อมูลเพิ่มเติมจนกระทั่งได้ภาพถ่ายและทราบชื่อว่าชื่อ “มยุรี คำแพง” จึงนำหลักฐานเข้าแจ้งความที่ สภ.บ้านเป็ด เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ซึ่งเจ้าหน้าที่ไม่ได้รับแจ้งแต่ให้กลับไปหาข้อมูลยืนยันว่าลูกสาวอยู่ในเรือนจำ แต่เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19 ตนจึงไม่สามารถไปติดต่อที่เรือนจำคลองไผ่ได้ แต่ได้ส่งจดหมายไปขอเอกสารจนได้หมายจำคุกและกักขังเมื่อคดีสิ้นสุดจากเรือนจำคลองไผ่มายื่นต่อเจ้าหน้าที่อีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ก็ให้ลงบันทึกประจำไว้และบอกแต่เพียงว่าจะติดตามตัว ผ่านไปกว่า 1 เดือนเรื่องก็เงียบ ตอนนี้ผวากลัวว่าจะมีเอกสารทวงหนี้มาอีก
ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ม.ค.ที่ผ่านมาก็มีเอกสารมาทวงหนี้อีก เพราะหากไม่สามารถจับกุมได้บัตรประจำตัวประชาชนของลูกสาวก็ยังคงอยู่กับคนร้าย คนร้ายอาจจะนำไปทำธุรกรรมอื่นๆอีกก็เป็นได้ จึงขอให้เจ้าหน้าที่เร่งตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว เพราะตอนนี้เดือดร้อนหนักไม่รู้จะมีมาอีกหรือไม่ ไม่อยากให้ลูกสาวรับหนี้ที่ตนเองไม่ได้ก่อ
แท็กที่เกี่ยวข้อง ขอนแก่น ,ติดคุก ,สวมรอยบัตรประชาชน