โซเชียลแห่ชื่นชมน้องเนย พิการสายตา ร้องเพลงสุดไพเราะ

มีผู้ใช้ TIKTOK ชื่อ “ครูมี่” โพสต์คลิป น้องเนย อายุ 14 ปี พิการสายตาตั้งแต่กำเนิด ร้องเพลง “หน้าสุดท้ายของปฏิทิน” ของศิลปิน MAN’R X BEARING โดยเป็นการร้องเสียงสดไม่มีดนตรีประกอบ สร้างความชื่นชมให้กับผู้ที่ได้ฟังต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เสียงเพราะมาก สามารถเป็นนักร้องอาชีพได้เลย โดยมีคนเข้ามาดูแล้วถึง 6.1 ล้านครั้ง กดหัวใจให้กับคลิปนี้ไปเกือบ 7 แสนคนแล้ว



ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปที่โรงเรียนการศึกษาคนตาบอดขอนแก่น มูลนิธิธรรมิกชนเพื่อคนตาบอดในประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมป์ ได้พบกับ นางสาวหนึ่งฤทัย พวงเพชร ผู้จัดการโรงเรียนฯ พร้อมด้วย นายสุดใจ ไชยป่ายาง อาจารย์ประจำชั้น ป.3 หรือครูมี่ เจ้าของคลิป ครูมี่ พร้อมทั้งเด็กหญิงเสาวนีย์ หรือน้องเนย เจ้าของเสียงไพเราะในคลิป อายุ 14 ปี เรียนอยู่ชั้น ป.4 ของโรงเรียน ซึ่งพาเพื่อนร่วมวงคือ เด็กหญิงบุษปศร หรือน้องมัดหมี่ อายุ 10 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โชว์ลูกคออันไพเราะให้ผู้สื่อข่าวฟังซึ่งแต่ละคนมีสไตล์การร้องเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งน้องเนยนั้นจะชอบแนวลูกทุ่งมีลูกคอเอื้อนไพเราะเสนาะหู ส่วนน้องมัดหมี่จะชอบเพลงอินเตอร์หัดร้องตามได้หลายชาติ แฝงมนต์เสน่ห์เสียงดังกังวานในหู โดยน้องมัดหมี่บอกกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกดีใจที่มีนักข่าวมาสัมภาษณ์พี่เนย อยากให้พี่เนยมีโอกาสก้าวสู่นักร้องอาชีพให้ได้ พร้อมกันนี้ เจ้าหน้าที่จาก ศูนย์พัฒนาศักยภาพและอาชีพคนพิการ จ.ขอนแก่น (1ใน8ศูนย์ทั่วประเทศ) กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ได้ลงพื้นที่มาพบกับน้องเนยด้วยเช่นกัน หลังจากมีกระแสโซเชียลชื่นชมน้องในความสามารถด้านการร้องเพลง โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาสอบถามข้อมูลเพื่อจะหาแนวทางช่วยเหลือและฝึกอาชีพโดยหากมีช่องทางผลักดันให้น้องเนยสามารถก้าวไปสู่นักร้องมืออาชีพได้ก็จะช่วยให้ไปถึงฝัน



น้องเนย อายุ 14 ปี เจ้าของเสียงร้องเพลง“หน้าสุดท้ายของปฏิทิน” ของศิลปิน MAN’R X BEARING ใน TIKTOK ของครูมี่ เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า ตัวเองพิการทางสายตามาตั้งแต่กำเนิด มีน้องสาวและน้องชาย อายุ 8 ขวบ และ 7 ขวบ เป็นคน จ.ชัยภูมิ พ่อแม่ส่งมาเรียนเมื่อตอนอายุได้ 10 ปี และมีความชอบเรื่องการร้องเพลง หัดร้องเพลงจากในยูทูป จำเนื้อร้องและเปิดคาราโอเกะร้อง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน ก็สามารถร้องตามได้ทั้งหมด โดยมีครูมี่ ซึ่งเป็นครูประจำชั้นเมื่อตอนที่ตัวเองเข้าเรียนครั้งแรกในระดับชั้น ป.3 ก่อนที่ครูมี่จะนำโซเชียลใช้ โดยได้โพสต์คลิปร้องเพลงของตนเองลง จนตอนนี้ครูมี่บอกว่ามีคนเข้ามาดูถึงกว่า 6 ล้านครั้งแล้ว และมีคนกดหัวใจให้เกือบ 7 แสนคนแล้ว ตอนนี้รู้สึกดีใจปลื้มใจ ที่มีคนชอบเสียงร้องของตนเอง ขอบคุณแฟนคลับทุกคนที่ส่งกำลังใจให้ ความฝันอยากจะเป็นนักร้องมืออาชีพ ตอนนี้ได้อยู่ในค่ายเพลงเล็กๆของรุ่นพี่ที่โรงเรียนรวม 10 คน ชื่อว่า บีวาย ไทยแลนด์ ซึ่งเปิดมาได้ประมาณ 1 เดือนแล้ว ก็อยากจะอยู่ในค่ายเพลงนี้ตลอดไป อีกทั้งรุ่นพี่ยังคอยแต่งเพลงให้ได้ร้องอีกด้วย และตอนนี้มีแต่นักร้องหญิง ขอประกาศรับนักร้องชายเพิ่ม ส่วนตัวชอบนักร้องพี่แบม ไพลิน นักร้องลูกทุ่งเสียงใสอยากจะร้องเพลงเก่งเหมือนพี่แบม ขอขอบคุณแฟลคลับFCอีกครั้งที่ชื่นชอบเสียงร้องเพลงของตนเอง ขอให้มาติดตามฟังกันเยอะๆที่ช่องยูทูปชื่อ บีวาย ไทยแลนด์ และติ๊กต๊อก ครูมี่



ครูมี่บอกว่า หลังจากที่น้องเนยมาเข้าเรียน ก็ได้มาอยู่ในชั้นเรียนที่ตนเองดูแลชั้น ป.3 น้องเนยเป็นคนที่มีพรสวรรค์ในด้านการร้องเพลง มีเสียงไพเราะ จึงอยากจะให้คนอื่นๆได้ฟังได้เห็นความสามารถของลูกศิษย์ จึงอัดคลิปแล้วนำไปลงใน Tik Tok ในช่วงแรกนั้นก็ยังไม่ค่อยมีคนรู้จัก จึงได้เริ่มอัดคลิปลงเรื่อยๆ กระทั่งมาถึงคลิปตัวล่าสุดที่มีหลายคนชื่นชอบ จนตอนนี้มียอดผู้เข้าชมกว่า 6.1 ล้านครั้งแล้ว ทำให้รู้สึกปลื้มใจ และดีใจ ซึ่งตนเองก็จะคอยบอกน้องเนยว่ามีคนเข้ามาชมหลายหมื่นคน แต่ละคนก็จะบอกเสียงดี เสียงเพราะ โดยตนเองจะบอกน้องเนยเสมอว่าให้พัฒนาเสียงการร้องเพลงอย่าหยุด ซึ่งหากถามว่าอยากให้สนับสนุนน้องเนยเพื่อไปสู่นักร้องมืออาชีพหรือไม่ ซึ่งก็ตอบอย่างไม่ต้องคิดว่าอยากจะให้มีการสนับสนุน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้บริหารและผู้ที่เห็นแววของน้อง แต่ในโรงเรียนก็ยังมีนักเรียนที่มีเสียงร้องไพเราะหลายคน ถ้าหากมีโอกาสก็อยากจะให้แต่ละคนมีโอกาสได้ทำเพลงของตัวเอง ร้องเพลงของตัวเองเพื่อเป็นชื่อเสียงของโรงเรียนด้วย ถ้ามีค่ายเพลงไหนมาสนับสนุนก็ยินดี ส่วนค่ายเพลงบีวาย ที่นักเรียนในโรงเรียนทำขึ้นมานั้น เกิดจากแรงบันดาลใจของนักเรียนเองทั้งรุ่นพี่รุ่นน้อง โดยส่วนตัวก็ได้แนะนำให้เปิดช่องยูทูปไปด้วย เผื่อว่าวันหนึ่งจะมีคนเข้ามาดู มาเห็นความสามารถและจะได้ต่อยอดต่อไป



ขณะที่ นางสาวหนึ่งฤทัย พวงเพชร ผจก.โรงเรียน กล่าวว่า รู้สึกดีใจที่นักเรียนมีความสามารถจนได้รับคำชื่นชมขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เองก็ไม่ทราบมาก่อนว่า น้องเนยโด่งดังในโลกโซเชียล แต่หลังจากที่มีการแชร์เรื่องราวแชร์คลิปเสียงของน้องเนยออกไปก็มีหลายคนโทรศัพท์มาสอบถามและชื่นชมตัวน้องเนยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก็ถือเป็นแบบอย่างที่ดีแก่นักเรียนในโรงเรียน และยังสร้างชื่อเสียงให้กับโรงเรียนคนตาบอดอีกด้วย ซึ่งแบบอย่างที่ดีที่ว่านั้น คือเรื่องของคนตาบอดกับการร้องเพลง ซึ่งที่โรงเรียนมีนักเรียนที่เสียงไพเราะหลายคน แต่น้องเนยสามารถนำโซเชียลเข้ามามีส่วนร่วมกับการร้องจนทำให้เรื่องดีดีมากมายเกิดขึ้นกับตัวน้องเนยและโรงเรียน และหากมีช่องทางส่งเสริมน้องเนยหรือนักเรียนคนอื่นๆทางโรงเรียนก็ยินดีจะสนับสนุนทันที