สังคม

สัตว์แพทย์เตรียมผ่าชันสูตรซาก “พังฟ้าใส” ก่อนทำพิธีสงฆ์ ฝังกลบตามหลักวิชาการ

โดย panisa_p

31 ธ.ค. 2564

154 views

นางสาวสุนิตา วิงวอน นายสัตวแพทย์ปฏิบัติการ เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาชีโอน ร่วมกับ สถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าบางละมุง  และโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวาน ทำการรักษาลูกช้างป่า "พังฟ้าใส" ตั้งแต่เวลาประมาณ 03:00 น. วันที่ 30 ธันวาคม 2564  โดย “พังฟ้าใส” มีอาการลุกไม่ขึ้น ไม่มีแรงยันตัวขึ้น เนื่องจากไม่ยอมกินนม และเวลาประมาณ 08:00 น. อาการดีขึ้นเนื่องจากได้รับนมสำหรับลูกช้าง จึงสามารถลุกขึ้นยืนเองได้ เดินเล่นได้ และร่าเริงตามปกติ  เจ้าหน้าที่งดการทำแผลล้างแผล





ทีมสัตวแพทย์ ฉีดยาฆ่าเชื้อแก้ท้องเสีย ยาลดไข้และยาบำรุง และให้สารละลายทางหลอดเลือดดำ พร้อมให้ออกซิเจนอย่างต่อเนื่อง ชั่งน้ำหนักได้ 105 กิโลกรัม  อุณหภูมิเฉลี่ย 39 องศาเซลเซียส มีภาวะการขาดน้ำ อุจจาระเหลวเป็นน้ำ



เวลาประมาณ 18.00 น.พังฟ้าใสเริ่มมีอาการทรุดลง ไม่กินนม นอนนิ่ง เวลาประมาณ 21.00 น.พังฟ้าใสมีอาการท้องอืด หัวใจหยุดเต้น และหยุดหายใจกะทันหัน ทางทีมสัตวแพทย์ได้ทำการกู้ชีพโดยการปั๊มหัวใจ ให้ยากระตุ้นการเต้นของหัวใจ ยากระตุ้นการหายใจ และเจาะท้องเพื่อระบายแก๊สออกจากกระเพาะ แต่สุดท้ายไม่สามารถกู้ชีพได้ พังฟ้าใสได้จากไปลงเมื่อเวลาประมาณ 21.40 น.ท่ามกลางความเสียใจของทีมเจ้าหน้าที่ที่ดูแลมาตลอด 1 เดือน โดยวันนี้ (31 ธ.ค. 2564)  จะมีการการเคลื่อนย้ายซากเพื่อชันสูตรหาสาเหตุการตาย แลทำพิธีสงฆ์  ก่อนทำลายซากตามหลักวิชาการต่อไป





นายสัตวแพทย์เผด็จ ศิริดำรง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสัตว์เนินพลับหวานและสัตวแพทย์ประจำสวนนงนุช พัทยา เผยสาเหตุที่ “น้องฟ้าใส” จากไปว่า เนื่องจากความเครียดสะสมของร่างกายที่บาดเจ็บหนักจากถูกบ่วงรัดและถูกยิง ทั้งยังพรากจากแม่ตั้งแต่ยังเล็กมาก โดยอายุเพียง 2 เดือนเท่านั้น เป็นผลให้ร่างกายหลั่งสารคอติโคสเตียรอยด์ซึ่งกดระบบภูมิคุ้มกันจึงอ่อนแอ



ทั้งนี้คุณหมอและเจ้าหน้าที่พยายามประคับประคองกันตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา ประกอบกับช่วง 2 สัปดาห์แรก พอมีนมจากแม่ช้าง “พังใบเตย” และ “พังคริสมาสต์” ที่รีดมาป้อน ช่วยเสริมภูมิต้านทานของน้องพอได้ แต่ 2 สัปดาห์หลัง เริ่มรีดนมจากแม่ช้างไม่ออกเพราะแม่ช้างตกลูกมาประมาณ 5 เดือนทำให้มีนมเพียงพอแค่ลูกช้างของตัวเอง “น้องฟ้าใส” จึงได้รับแต่นมผงสำเร็จรูป เป็นหลัก





ที่ผ่านมาทุกฝ่ายพยายามหาช้างจากที่อื่นซึ่งจะแบ่งนมมาให้ “น้องฟ้าใส” ในช่วงนี้ แต่ยังไม่มี ส่วนที่สวนนงนุชจะมีแม่ช้างซึ่งจะตกลูกประมาณกลางเดือนมกราคมอยู่ 2 เชือก เลยพยายามประคับประคองให้ถึงช่วงเวลาที่จะมีแม่ช้างสามารถแบ่ง “นมน้ำเหลือง” มาให้ “น้องฟ้าใส” จะมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติเพียงพอ แต่ “น้องฟ้าใส” ก็ไปต่อไม่ไหว

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ