บุกจับพระสงฆ์วัดชื่อดังอำเภอหาดใหญ่ หลังแอบขับรถยนต์ออกจากวัดไปหาสีกา

จากกรณีวันที่ 15 ธันวาคม ช่วงค่ำเวลา 21.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด สภ.หาดใหญ่ หรือ ชุดตะวัน ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ. อัครวุฒ ธานีรัตน์ ผกก.หาดใหญ่ .พ.ต.ท. มาชา แก้วทอง รอง ผกก.ปฯ และ พ.ต.ท. จิรศักดิ์ ฉวีนิล รอง ผกก.สส. ได้สั่งการให้ ร.ต.อ. ณัฐฤกษ์ ขติยะสุนทร รอง หน. ชุดตะวันหาดใหญ่ นำกำลังเฝ้าติดตามพฤติกรรมของหลวงไก่ หรือ พระรัชพล ซึ่งเป็นพระลูกวัดแห่งหนึ่ง หลังจากได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่า พระรัชพลฯ ประพฤติตัวไม่เหมาะสมกับสมณะเพศ มีรถยนต์ส่วนตัวและจะขับรถไปไหนมาไหนด้วยตนเอง และในยามค่ำคืนจะหนีออกจากวัด สละผ้าเหลือง แล้วสวมใส่เสื้อผ้าฆราวาส ขับรถไปรับหญิงสาวไปหลับนอนในรีสอร์ทและเสพยาด้วยเป็นประจำ ชาวบ้านสุดทนพฤติกรรมดังกล่าว จึงได้ร้องเรียนกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้ติดตามจับกุมตัว



หลังรับเรื่องเจ้าหน้าที่ชุดตะวัน ได้เฝ้าติดตามพฤติกรรมของพระสงฆ์รูปนี้ ทราบชื่อ พระรัชพล ฯ กระทั่งเวลาประมาณ 19.00 น. พระรัชพลได้ขับรถยนต์ออกจากวัดดังกล่าว ก่อนขับไปรับหญิงสาวคนหนึ่งและขับมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ อ. เมืองสงขลา หยุดรถซื้อของ ที่ร้านสะดวกซื้อข้างโรงเรียนวรนารีเฉลิม อ. เมืองสงขลา โดยมีหญิงสาวลงจากรถ เดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ และสังเกตุเห็นซื้อเครื่องดื่มสปายอีกจำนวนหนึ่ง



จากนั้นได้ขับรถไปตามถนนริมชายหาดชลาทัศน์และจอดรถตรงข้ามร้านอาหารสวนสนแก้ว โดยทั้งพระรัชพลและหญิงสาวได้ลงจากรถ ก่อนเดินตรงไปนั่งอยู่ที่ริมหาดทรายและนั่งดื่มสปาย จนกระทั่งเวลา 21.00 น. ทั้ง 2 คน ได้เดินกลับมาที่รถยนต์ เจ้าหน้าที่ที่เฝ้าสังเกตุพฤติกรรม ก็ได้ทำการแสดงตัวและเข้าทำการจับกุม พร้อมทำการตรวจค้นภายในรถยนต์ ปรากฎว่าพบผ้าสบง จีวรพระ ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าและถุงยางอนามัยยังไม่ได้ใช้จำนวน 1 กล่อง จากนั้นได้นำตัวกลับมาที่วัด และแจ้งท่านเจ้าอาวาสวัดให้รับทราบ เพื่อทำการลาสิกขาตามขั้นตอนหลักศาสนาพุทธ




ทางด้านคณะสงฆ์จังหวัดสงขลา หลังรับรายงานจึงได้แต่ตั้งคณะกรรมการชุดพิเศษโดยมีพระสังฆาธิการและหน่วยงานรัฐมีตำรวจอัยการและทนายความเพื่อสอดส่องดูแลพระนอกรีตและป้องกันปัญหาที่เกิดจากภายนอกโดยเน้นไม่ให้ผู้ไม่หวังดีมาแอบแฝงในคณะสงฆ์และแก้ปัญหาจากสิ่งภายนอกไม่ให้เกิดความแตกแยกในสังคมไม่ว่าเรืองการเสนอข่าวทางสื่อออนไลน์ที่บิดเบือน เหมือนเหตุการณ์นี้ทางคณะกรรมการได้ติดตามอยู่ช่วงระยะหนึ่งแล้วจนกระทั้งเกิดเหตุ