ประเด็นข่าวรอบวัน 15 ธ.ค.2564 - ไล่ออกผู้คุมช่วย 9 นักโทษหลบหนีเรือนจำ จ.นครปฐม ยุติธรรมเตรียมตั้งกก.สอบสวน

เกิดเหตุจลาจลชิงผู้ต้องหาศูนย์อพยพบ้านแม่หละ จ.ตาก
กลุ่มผู้ลี้ภัยจากการสู้รับชาวเมียนมาร์หลายร้อยคน รวมตัวกัก่อจลาจล บ้านแม่หละ อ.ท่าสองยาง จังหวัดตาก เรียกร้องให้ปลดปลัดอำเภอที่เป็นหัวหน้าศูนย์อพยพ และเรียกเก็บเงินการออกใบอนุญาต และยังมีเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่อส.ทำร้ายร่างกายผู้อพยพ ล่าสุดกำลังทหารพราน ฉก.35 ตรึงกำลังโดยรอบ เนื่องจากมีการต้องการชิงตัวผู้ต้องหา

ไล่ออกผู้คุมช่วย 9 นักโทษหลบหนีเรือนจำ จ.นครปฐม ยุติธรรมเตรียมตั้งกก.สอบสวน
ตำรวจจับกุมนักโทษ 2 จาก 9 คน ที่เหลือ ที่หลบหนีจากเรือนจำ อ.ทุ่งน้อย จ.นครฐม หลังหลบหนีไปที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ได้ยาบ้า 100 เม็ด จ้างให้ญาติเอาใบเลื้อยใส่ในขวดแชมพู กระทรวงยุติธรรมสั่งให้ออกจากราชการแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมสอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด

ศาลสั่งนายอนุรักษ์ สส.มุกดาหาร หยุดปฏิบัติหน้าที่
ศาลฎีกามีคำสั่งให้ ‘อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์’ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย หยุดปฏิบัติหน้าที่ หลังรับคำร้องคดีฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ปมถูกชี้มูลความผิดเรียกรับเงิน 5 ล้านบาทจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15 ธ.ค.2564 ศาลฎีกา นัดอ่านคำสั่ง กรณีที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาขอให้พิจารณากรณี นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย กระทำอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาทจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแลกกับการผ่านงบประมาณ ซึ่ง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้ โดยวันนี้นายอนุรักษ์ไม่ได้เดินทางมาศาล

ล่าสุดมีรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ศาลมีคำสั่งรับคำร้อง และสั่งให้ นายอนุรักษ์ หยุดปฏิบัติหน้าที่และแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมถึงสภาผู้แทนราษฎรรับทราบต่อไป

ทั้งนี้ เมื่อต้นเดือน ต.ค.2564 ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายอนุรักษ์ กรณีเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาทจากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ในที่ประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2564 โดยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 ประกอบ พ.ร.ป.รัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต มาตรา 123/5 รวมถึงกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงด้วย

ต่อมาวันที่ 6 ต.ค.2564 นายอนุรักษ์ แถลงชี้แจงเรื่องดังกล่าวที่รัฐสภา พร้อมแสดงความเชื่อมั่นว่าศาลจะเปิดโอกาสให้นำพยานมาหักล้างกรณีที่ถูกกล่าวหาได้อย่างเต็มที่



จับสจ.จันทรบุรี ขุดดินขวางถนนเข้า-ออก
ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 2 จับกุมนายณรงค์ ฐานธรรม อายุ 52 ปี สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี เขต2 และนส.สุพรรณี อายุ 27ปี หลังถูกชาวบ้านร้องเรียนได้นำรถแบ็คโฮมาขุดดินปิดกั้นถนน ใน อ.เขาคิชฌกูช ไม่สามารถสัญจรผ่านได้ จนชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน ผู้ต้องหารับสารภาพว่า ได้นำรถแบ็คโฮมาขุดดินกีดขวางทางเข้า-ออก จริง เนื่องจากขัดแย้งกับชาวบ้านในเรื่องการใช้น้ำ และการปลูกทุเเรียน ตำรวจได้แจ้งข้อหาร่วมกันบุกรุก และประกอบกิจการโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต รว่มทั้งครอบครองอาวุธปืน

ตร.แจ้งความผู้ครอบครองสารเคมี อ.สนามชัยเขต ผู้ทำผิดต้องชดใช้ค่าเสียทั้งหมด
ตำรวจภูธรสนามชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา แจ้งข้อหาครอบครองวัตถุอันตราย ตามพรบ.วัตถุอันตราย พ.ศ.2535 ต่อนาย วิโรจน์ แก้วคำ ซึ่งเป็นผู้ติดต่อขอซื้อที่ดิน สปก.จากผู้ครอบครอง แล้วนำน้ำเสียสารเคมีมาทิ้ง ที่ตำบลท่ากระดาน อ.สนามชัยเขต โดยนายวิโรจน์ รับสารภาพและนำชี้จุดเกิดเหตุ พร้อมซัดทอดถึงผู้อยู่เบื้องหลังที่นำน้ำเสียสารเคมีมาทิ้ง ส่วนพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมหลักฐานเอาผิดคนเกี่ยวข้องทั้งหมด และจะแจ้งความเพิ่ม เมื่อได้ผลวิเคราะห์สารเคมีอย่างละเอียด ส่วนน้ำเสียสารเคมีที่คงค้างในบ่อ อบต.ท่ากระดาน อยู่ระหว่างของบประมาณจากจังหวัด เพื่อนำไปกำจัดและฟื้นฟู และกรณีนี้ผู้กระทำผิดต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมด



รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยกเลิกเยือนไทย
นายแอนโทนี บลิงเกน ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ โดยนายบลิงเกนได้แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่ไม่สามารถที่จะเดินทางเยือนประเทศไทยได้ในสัปดาห์นี้

นายบลิงเกนให้เหตุผลว่าการตัดสินใจดังกล่าวก็เพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของคนโควิด-19 และเป็นการให้ความสำคัญกับเรื่องสาธารณสุขและความปลอดภัยในการเดินทางของคณะสหรัฐ รวมถึงกับคณะบุคคลอื่นๆ ที่จะต้องมีการติดต่อด้วย โดยนายบลิงเกนจะเดินทางกลับวอชิงตัน ดี.ซี. ด้วยความระมัดระวังสูงสุด

ทั้งนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐได้เชิญให้นายดอนเดินทางเยือนกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ในโอกาสแรกที่ทำได้ พร้อมระบุด้วยว่าเขาตั้งตารอที่จะเดินทางเยือนไทยโดยเร็วที่สุดที่จะเป็นไปได้เช่นกัน โดยทั้งคู่ย้ำว่าพวกเขาจะใช้โอกาสในการพบปะกันที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตเพื่อกระชับความเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐ-ไทยให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น



UNESCO ตั้ง ‘โนรา’ เป็นมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไมได้ของมวลมนุษยชาติ
โนรา" (Nora) ศาสตร์การรำของไทย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ขององค์การยูเนสโก (UNESCO) แล้ว

วันนี้ (15 ธ.ค.64) ที่ประชุมคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการสงวนรักษามรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ สมัยสามัญครั้งที่ 16 แบบออนไลน์ ได้ขึ้นบัญชี "โนรา" (Nora) ศาสตร์การรำของไทย ในบัญชีรายชื่อตัวแทนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้แห่งมวลมนุษยชาติขององค์การ UNESCO

สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำฝรั่งเศส ระบุว่า “การขึ้นทะเบียนในครั้งนี้เป็นความภาคภูมิใจของไทยอีกครั้งหนึ่งและถือเป็นการสร้างความตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของโนราในฐานะมรดกทางวัฒนธรรมด้านนาฏศิลป์ที่เป็นภูมิปัญญาท้องถิ่น

ซึ่งแสดงถึงบทบาทอันแข็งขันของชุมชนที่เกี่ยวข้องในการส่งเสริมการเรียนรู้ เข้าถึง พัฒนา และสงวนรักษา ประเพณีและศิลปะดังกล่าวไว้ให้แก่ชนรุ่นหลัง อีกทั้ง ยังเป็นการแสดงออกถึงความหลากหลายทางวัฒนธรรมในภูมิภาคและในประเทศไทยด้วย"

สำหรับ "โนรา" หรือ "มโนราห์" เป็นชื่อศิลปะการแสดงพื้นเมืองอย่างหนึ่งของภาคใต้ มีรากศัพท์ที่มาจากคำว่า “นระ” เป็นภาษาบาลี – สันสกฤต แปลว่ามนุษย์ เพราะการร่ายรำแต่เดิมแล้ว การรำโนราจะรำให้เสมือนกับท่าร่ายรำของเทวดา