สังคม

เด็กหญิงวัย 10 ขวบ ถูกงูกะปะกัด แพ้เซรุ่ม คนแห่บริจาคเลือดเพื่อนำไปรักษา

โดย panisa_p

13 ธ.ค. 2564

6.4K views

จากกรณีในโลกโซเชียล มีการแชร์และแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก โดยระบุข้อความ ขอความช่วยเหลือ ช่วยกันแชร์น้องสาวต้องการเกล็ดเลือด เอบี AB ระบุบริจาค ด.ญ.กัญพัชญ์ ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ไม่มีเกล็ดเลือด น้องผู้หญิง โดนงูกะปะกัด ตอนนี้เข้ารับการรักษา น้องต้องเข้ารับการผ่าตัด ระบายแรงดันบริเวณมือ เพื่อหวังว่าให้เลือดไปเลี้ยงนิ้วมือได้ เบื้องต้นการแข็งตัวของเลือดน้องอาการแย่ทำให้การผ่าตัดจะเสียเลือดมาก รบกวนด้วยครับ ขอบคุณครับ พร้อมรูปงูและน้องที่นอนรักษาอยู่




วันนี้ 13 ธ.ค. 64 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ นางจิราพร ขาวนวล อายุ 44 ปี แม่ของ ด.ญ.กัญพัชญ์ อายุ 10 ปี ที่ถูกงูกะปะกัด ได้นั่งเฝ้ารอบุตรสาวหน้าห้องไอซียู รพ.สมเด็กพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ ต.พลูตาหลวง อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ซึ่งตอนนี้แพทย์ยังต้องเฝ้าดูอาการอย่างต่อเนื่อง


นางจิราพร ขาวนวล อายุ 44 ปี กล่าวว่า เมื่อวานนี้ 12 ธ.ค. ช่วงเวลา 15.30 น. น้องได้ออกเดินเล่นบริเวณรอบบ้าน ก่อนจะได้ยินเสียงน้องร้อง พร้อมตะโกนถูกงูกัดบริเวณนิ้วมื้อซ้าย จึงรีบวิ่งไปดู พบบริเวณที่งูกัดเลือดไหลออกเป็นจำนวนมาก จึงนำสายกระเป๋ารัดไว้ ก่อนที่พ่อจะไปตีงูจนตาย และนำตัวส่ง รพ. พร้อมงูกะปะ




แต่เนื่องจากน้องมีอาการแพ้เซรุ่มแก้พิษงู แล้วทาง รพ.แจ้งว่า ทางเราไม่มีเลือด AB จำนวนมากพอ ที่จะทำเกล็ดเลือดเพื่อนำไปรักษาน้อง ทางญาติพี่น้องจึงได้โพสต์ในโลกโซเชียลเพื่อให้คนมาช่วยกันบริจาคเกล็ดเลือดดังกล่าว และต้องขอกราบขอบพระคุณ ทุกคนที่ได้มาบริจาคเลือดเพื่อนำไปรักษาน้องในครั้งนี้


สำหรับอาการน้องตอนนี้ แผลที่บริเวณนิ้วเริ่มเป็นเนื้อตาย แพทย์ต้องการผ่าตัดเอาเลือดออก เพื่อให้เลือดหมุนเวียน โดยรวมยังไม่พ้นขีดอันตราย ยังต้องเฝ้าระวังการติดเชื้อ โดยแพทย์ได้นำเลือดที่คนบริจาค ไปทำเกล็ดเลือด เพื่อไปรักษาด้วยการเร่งกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อโดยธรรมชาติ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อร่างกาย




อีกทั้งยังทำให้ลดอาการปวด โดยวันนี้ได้มีคนมาบริจาคเลือดให้น้องเป็นจำนวนมาก โดยตอนนี้ทางโรงพยาบาลมีเกล็ดเลือดมากเพียงพอในการรักษา หากไม่เพียงพอจะได้ประชาสัมพันธ์อีกครั้ง ตอนนี้ขอหยุดรับบริจาคเลือดไปก่อน


สำหรับงูกะปะ เป็นงูพิษที่มีพิษรุนแรงมาก มีลักษณะหัวเป็นรูปสามเหลี่ยม คอเล็ก ลำตัวอ้วน หางเรียวสั้น มีลายเป็นรูปเหมือนหลังคาบ้านอยู่ด้านข้างตลอดลำตัว มีสีเทาอมชมพูลายสีน้ำตาลเข้ม เกล็ดมีขนาดใหญ่  หากินเวลาพลบค่ำและกลางคืน โดยเฉพาะในเวลาที่มีความชื้นในอากาศสูง นับเป็นงูพิษที่มีอันตรายต่อมนุษย์มากที่สุดที่พบในประเทศไทย




ซึ่งพิษของงูกะปะนั้นมีผลต่อระบบเลือด ทำให้เลือดออกมากผิดปกติ เมื่อถูกกัดภายใน 10 นาทีหลังบริเวณรอบแผลที่ถูกกัดจะบวมขึ้นย่างรวดเร็วจนกระทั่งแขนหรือขาข้างนั้นบวมไปหมดภายใน 1 ชั่วโมง โดยในรอยเขี้ยวจะมีเลือดไหลตลอดเวลา บริเวณแขนขาที่บวมจะมีสีเขียวคล้ำ ผิวหนังเกิดพองตอนแรกมีน้ำใส ต่อมาภายหลังมีเลือด


ภายหลังถูกกัดไม่กี่วันรอยเขี้ยวจะเกิดการเน่า ทำให้ผิวหนังมีเลือดออกเป็นรอยคล้ำ เลือดออกทางเดินอาหาร ผู้ที่โดนกัดจะเสียชีวิตได้จากความดันโลหิตต่ำ ซึ่งความดันโลหิตต่ำ เกิดจากการเสียเลือดนั่นเอง

คุณอาจสนใจ

Related News