เดือดกลางรายการ โดนไล่ที่ ‘ศึกธรณีสงฆ์’ ชาวบ้านถาม วัด-ชุมชน อยู่ร่วมกันไม่ได้หรือ

วันที่ 24 พ.ย. 64 รายการโหนกระแสพูดคุยกับ นิพนธ์ กัณสัย, ธิดารัตน์ ประจงพันธุ์ หลานเจ้าของที่ดิน, ตุ๊ก ผู้เช่าที่ดิน ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความฝั่งชาวบ้านที่ถูกไล่ ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความฝั่งวัด พร้อมสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ นายจีรพันธ์ เพชรขาว หรือ หมอปลา ถึงกรณีชาวบ้านถูกวัดไล่ที่

นิพนธ์ กัณสัย หลานเจ้าของที่ดิน เผยว่า ที่ดังกล่าวเป็นที่ดินของลุงตน ทำพินัยกรรมไว้ พอลุงเสียชีวิต ป้าเป็นภรรยาซึ่งเป็นผู้จัดการมรดก ได้เอาพินัยกรรมของลุงไปถวายแก่วัดตามจุดประสงค์ของลุง

ตุ๊ก ผู้เช่าที่ดิน เล่าว่า มีการไปแจ้งความว่าชาวบ้านบุกรุกที่ดิน ซึ่งพื้นที่ไม่ได้ติดกับวัด เอาไว้ทำกิน ชาวบ้านอาศัยอยู่เป็นบ้านหลังเล็ก บนพื้นที่ 3 ไร่กว่า การโอนเงินให้ผ่านมัคนายก แต่บางรายยังต้องโอนเงินให้กับหลานเจ้าของที่ดิน พร้อมตั้งคำถามว่าโปร่งใสหรือไม่ ยืนยันชาวบ้านยอมจ่าย แต่ขอให้เปลี่ยนชื่อเป็นชื่อวัด ไม่ใช่ชื่อของบุคคล

ขณะที่ ธิดารัตน์ ประจงพันธุ์ หลานเจ้าของที่ดิน กล่าวเพิ่มเติมว่า เก็บค่าเช่ามอบให้วัด ตนไปเก็บค่าเช่าก็โดนชาวบ้านด่า หาว่าตนจะนำเงินเข้ากระเป๋าตัวเอง เป็นคนพาคุณย่าไปทำพินัยกรรม ทำผู้จัดการมรดก ทำทุกอย่างตั้งแต่คุณปู่อยู่ ไม่ใช่หลานแท้ๆของปู่ แต่เป็นหลานแท้ๆ ของย่า ถ้าอยู่ต่อต้องจ่ายเงิน

ด้าน ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความฝั่งชาวบ้านที่ถูกไล่ กล่าวว่า ตนได้เดินทางไปช่วยชาวบ้าน มีหมายบังคับคดีว่า 29 พ.ย. จะมีการรื้อถอนพื้นที่ดังกล่าว ตนและทีมหมอปลาอยากให้วัดกับชุมชนอยู่ร่วมกันได้ และยืนยันว่าไม่ได้ด่าเจ้าอาวาส

ส่วน ทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความฝั่งวัด เปิดเผยว่า ตนเป็นชาวพุทธ เห็นภาพที่หมอปลาและทนายไพศาลพูดกับพระ ตนมองว่าไม่ถูกต้อง จากการตรวจสอบพบว่ามีการสวมสิทธิ์ บ้านหลายหลังไม่ยอมจ่าย มีการเก็บเงิน หาผลประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าว