ปิดคดีลูกฆ่าพ่อ เผยปมโมโหเปิดประตูช้า แม้รับสารภาพ แต่ไม่ได้สำนึกผิด ไม่ขอขมาศพ

สงขลา-ความคืบหน้าคดี นายเสรีย์ กุลดำรงวิวัฒน์ อายุ 60 ปี ใช้อาวุธปืนขนาด 11 มม. กระหน่ำยิง นายพิศ กุลดำรงวิวัฒน์ อายุ 88 ปี พ่อตัวเอง 8 นัด เสียชีวิตคาบ้านพักใน ซ.คงทรัพย์ 2 เขตเทศบาลเมืองคอหงส์ อ.หาดใหญ่ เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา และตำรวจตามจับได้ที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช และควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.หาดใหญ่ พื้นที่เกิดเหตุนั้น

วานนี้ (17 ก.ย.) ตำรวจได้แถลงปิดฉากคดีนี้ โดยควบคุมตัว นายเสรีย์ ออกจากห้องขังของ สภ.หาดใหญ่ เดินไปยังกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 ด้วย แต่ตอนแถลงข่าวไม่นำตัวลงไปแถลง โดยนั่งอยู่ภายในรถ และนอนหลับตาตลอดเวลา

พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 9 เปิดเผยว่า คดีนี้สาเหตุมาจากทั้งคู่ทะเลาะกันมาตลอด และลูกก็ใจร้อน ส่วนพ่อก็ใจร้อนพอๆกัน จึงใช้อาวุธปืนยิงพ่อของตัวอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรเกิดขึ้นที่ลูกจะมาฆ่าพ่อของตัวเอง และเหตุการณ์นี้ภาพจากกล้องวงจรปิดขณะลงมือก่อเหตุชัดเจนมาก หลังก่อเหตุได้หลบหนีไปกับภรรยา

ทางตำรวจชุดสืบสวน ภาค 9 ชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา และชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ได้ตามแกะรอยจนทราบว่า หลบหนีไปยังพื้นที่ จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นบ้านภรรยา จึงประสานชุดสืบสวนตำรวจภูธร จ.นครศรีธรรมราช เข้าจับกุมได้ภายในรีสอร์ท

ซึ่งจับกุมได้ภายใน 24 ชั่วโมง พร้อมของกลางทั้งอาวุธปืน ซึ่งเป็นปืนเถื่อนที่ซื้อมา และเสื้อผ้าที่สวมใส่ในวันก่อเหตุ ส่วนที่ต้องหลบไปนอนที่รีสอร์ท เพราะไม่กล้านอนที่บ้านของภรรยา เนื่องจากตัวภรรยาเองก็ไม่ค่อยลงรอยกับญาติสักเท่าไหร่

ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องปัญหาภายในครอบครัวที่ทั้งคู่ทะเลาะกันมาตลอด โดยในวันเกิดเหตุลูกชายขับรถจักรยานยนต์กลับจากทำงานมาที่บ้าน และประตูล็อคอยู่ จึงตะโกนเรียกให้พ่อมาเปิด แต่เนื่องจากพ่ออายุมากแล้วถึง 88 ปี หูไม่ค่อยได้ยิน และเชื่องช้า จึงทำให้โมโห และมีปากเสียงกัน จึงบันดาลโทสะใช้ปืนยิงพ่อของตัวเองจนเสียชีวิต โดยบ้านหลังนี้อยู่ด้วยกัน 4 คน คือ พ่อ นายเสรีย์ ภรรยา และลูกเลี้ยงของนายเสรีย์

ด้าน พ.ต.อ.ธนวัต เส้งสุย ผู้กำกับการสืบสวนตำรวจภูธร จ.สงขลา เปิดเผยว่า จากการสอบถามผู้ต้องหารายนี้ตำรวจถึงกับสะเทือนใจ เพราะตลอดการซักถามไม่เอ่ยปากเรียกพ่อของตัวเองว่า “พ่อ” แม้แต่คำเดียว โดยใช้สรรพนามคำว่า “เขา” ตลอด แม้จะรับสารภาพ แต่ก็ไม่ได้สำนึกผิด และไม่ได้มาขมาศพพ่อแต่อย่างใด

และตอนยิงก็ไม่ได้เมา โดยเพิ่งกลับมาจากทำงาน และไม่มีปัญหาเรื่องอื่น สาเหตุมาจากเรื่องที่กลับมาแล้วพ่อเปิดประตูช้า จึงทะเลาะกัน และเคยมีปากเสียงกันมาตลอด จึงกลายเป็นการสะสมอารมณ์โกรธ จึงยิงพ่อของตัวเอง และขับรถหนีไปกับภรรยา ซึ่งเป็นชาว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตำรวจจึงตามไปจับกุมได้

โดยหลังแถลงข่าวเสร็จตำรวจได้ควบคุมตัว นายเสรีย์ เดินทางกลับไปยัง สภ.หาดใหญ่ ทันที และไม่มีการทำแผน เนื่องจาก นายเสรีย์ ไม่มีความประสงค์ที่จะทำแผน และพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาดำเนินคดี 3 ข้อหา คือ ฆ่าบุพการี, มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมกับคัดค้านการประกันตัว

ทั้งนี้หลังการถูกจับกุม นายเสรีย์ ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม หรือพูดถึงเรื่องนี้ และสีหน้ายังคงเรียบเฉย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/DJ5t9mpjIfc