ร้องถูกแอปกู้เงินออนไลน์สัญชาติจีนกว่า 300 แอปหลอก มีเหยื่อเสียหายกว่า 2 หมื่นคน

นางสาว จุฑาทิพย์ จูพัฒนกุล ผู้ก่อตั้งและผู้ประสานงานกลุ่มแอนตี้หมวกกันน็อคออนไลน์ พร้อมผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบจากการกู้ยืมเงินผ่านแอปพลิเคชั่นออนไลน์จำนวนกว่า 30 คน เข้ายื่นหนังสือร้องเรียนต่อ ว่าที่ร้อยตรีธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม หลังจากกลุ่มดังกล่าวมีผู้เสียหายจำนวนกว่า 2 หมื่นคน ที่ได้รับความเดือดร้อนจากแอปเงินกู้สัญชาติจีนรวมกว่า 300 แอปพลิเคชั่น หลอกลวงกลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อนต้องการใช้เงินด่วนในรูปแบบต่างๆ

โดยจำแนกได้ 3 ประเภท ทั้งรูปแบบของการกู้เงิน แต่ต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการเรื่องเอกสารต่างๆ แต่สุดท้ายกลับไม่ได้เงินกู้ตามที่ตกลง บางรายถูกหักเงินจากยอดที่ขอกู้ไว้เป็นค่าดำเนินการ 20-30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งขั้นตอนการชำระเงินไม่โปร่งใส บางรายจ่ายดอกแล้วหรือชำระเงินต้นแล้วกลับถูกทวงถามอีก หรือบางครั้งตั้งยอดกู้ให้ใหม่โดยไม่ยินยอม และเมื่อไม่ยอมจ่ายดอกเบี้ยก็จะถูกข่มขู่ด่าทอประจานลงในโลกโซเชียลหรือตามถึงบ้าน บางรายถูกนำภาพส่วนตัวและสมาชิกในครอบครัวไปข่มขู่คุกคามทำร้ายจนได้รับความเสียหาย ต้องถูกไล่ออกจากงาน

ทั้งนี้จากการรวบรวมมูลค่าความเสียหาย ล่าสุดพบว่ามีมากกว่าสองพันล้านบาท และมีผู้เสียหายบางรายต้องสูญเสียเงินมากสุดมูลค่านับล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการร้องเรียนกับหลายหน่วยงานแล้วแต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า จึงต้องการให้กระทรวงยุติธรรมช่วยดำเนินการติดตามจับกุมคนร้ายและติดตามเส้นทางการเงินเพื่อนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด

ด้านเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มผู้เสียหายมาก่อนหน้านี้แล้ว และได้นำเรื่องดังกล่าวไปพิจารณา พบว่ากลุ่มผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก และเข้าข่ายการรับเป็นคดีพิเศษได้ จึงมอบหมายให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ รับเป็นคดีพิเศษเพื่อดำเนินการติดตามสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้ที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงประสานกับสำนักงาน ปปง.ให้ช่วยติดตามเส้นทางการเงินและนำเงินมาคืนให้กับผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด

ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน เนื่องจากผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก โดยในสัปดาห์หน้าน่าจะมีความคืบหน้าในการติดตามกลุ่มผู้เกี่ยวข้อง ส่วนกรณีของผู้เสียหายที่ได้แจ้งความกับสถานีตำรวจต่างๆไว้ทั่วประเทศ จะมีการดำเนินการทำหนังสือขอโอนคดีมาที่กรมสอบสวนคดีพิเศษซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน

ทั้งนี้ จึงขอแจ้งเตือนไปถึงกลุ่มแอปเงินกู้ต่างประเทศที่ยังคงข่มขู่คุกคามผู้เสียหาย และยังหาลูกค้ารายใหม่ กระทรวงยุติธรรมจะเร่งดำเนินการนำตัวมาดำเนินคดีโดยเร็ว ซึ่งพฤติกรรมดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายสถาบันการเงิน พรบ.เงินกู้ พรบ.คอมพิวเตอร์ ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ และฉ้อโกง

ทั้งนี้ แม้ตัวผู้ก่อเหตุจะเป็นชาวต่างชาติหรือคนไทย จะอยู่ในประเทศหรือต่างประเทศ กระทรวงยุติธรรมก็จะดำเนินการนำตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีให้หมด