น้ำชีเอ่อท่วมบ้านวังยาว วังเจริญจมน้ำทั้งหมู่บ้าน ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก

จากกรณีมวลน้ำชีก้อนใหญ่ก้อนแรก ที่ไหลบ่ามาจากชัยภูมิ ขอนแก่น มหาสารคาม เอ่อล้นตลิ่ง และทลายพนังกั้นน้ำของหมู่บ้านริมชี อำเภอจังหาร จังหวัดร้อยเอ็ด ตำบลม่วงลาด ตำบลดงสิงห์ และตำบลดินดำ บ้าน วัด โรงเรียน และนาข้าวจมน้ำ ต้องอพยพสร้างเพิงพักอาศัยบนที่สูงและพนังกั้นน้ำหน้าหมู่บ้านอย่างน่าสงสารตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

มวลน้ำชีจำนวนมหาศาลได้ไหลเข้าสู่ อ.เชียงขวัญ เป็นอำเภอที่ 2 แล้ว หนักสุดที่บ้านวังยาว หมู่ 9 และ บ้านวังเจริญ หมู่ 10 น้ำชีล้นตลิ่งไหลเชี่ยว และไหลพาดผ่านถนนเข้าหมู่บ้าน ระหว่างบ้านหนองแก่ง หมู่ 8 บ้านวังยาว หมู่ 9 ระยะทางกว่า 3 กิโลเมตร ระดับน้ำสูง 1 เมตร รถทุกชนิดผ่านไม่ได้ ถูกตัดขาดจากโลกภายนอกต้องนั่งเรืออย่างเดียวไปตามลำน้ำชีซึ่งระดับน้ำสูงกว่า 8 เมตร แล้ววกเข้าสู่หมู่บ้านผ่านทุ่งนาข้าวที่จมน้ำสูง 3 - 4 เมตร “ขาวราวทะเล” และคลื่นลมแรงอย่างน่ากลัว

และจากการที่ระดับน้ำชีสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏรบ้านวังยาว 100 หลังคาเรือน บ้านวังเจริญ 118 หลังคาเรือน รวมทั้งสิ้น 218 หลังคาเรือน วัดศิริมงคลวราราม (วัดบ้านวังยาว) โรงเรียนวังยาวเจริญวิทย์ อาคารเรียน หอประชุม อาคารสถานที่ต่าง ๆ และสนามกีฬา น้ำท่วมสูง ยังดีที่โรงเรียนยังไม่เปิดการเรียนการสอนเพราะอยู่ในช่วงโควิด-19 ประกอบกับมีน้ำท่วม

นอกจากนี้น้ำยังท่วม โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังยาว และบ้านพักเจ้าหน้าที่ เดือดร้อนหนักต้องเดินลุยน้ำและนั่งเรือ ต้องย้ายไปบริการประชาชนในที่สูง ส่วนนาข้าวที่กำลังจะสุกพร้อมเก็บเกี่ยว เสียหายสิ้นเชิงกว่า 2,700 ไร่ ชาวบ้านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า น้ำจะท่วมนานไม่ต่ำกว่า 2 เดือนจึงจะเข้าสู่สภาวะปกติได้ 

นายทองอินทร์ สารารัตน์ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านวังยาว หมู่ 9 นำสื่อมวลชนนั่งเรือท้องแบนผ่านลำน้ำชี ทุ่งนาข้าว รอบหมู่บ้าน ถนนในหมู่บ้าน บริเวณโรงเรียน วัด และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลวังยาว ได้เปิดเผยบนเรือท้องแบนว่า ขณะนี้น้ำท่วมบ้านวังยาวและบ้านวังเจริญ รวมทั้งสิ้น 218 หลัง วัด 1 แห่ง โรงเรียน 1 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ถนนระยะทาง 3 กิโลเมตร น้ำท่วมหมดจากบ้านหนองแก่ง ถูกตัดขาดจากโลกภายนอก จะเข้าจังหวัดร้อยเอ็ดต้องอ้อมไปทาง อ.เสลภูมิ เดือดร้อนการประกอบอาชีพไม่ได้ เพราะส่วนใหญ่มีอาชีพทำนาเพียงอย่างเดียว

เบื้องต้นได้รับการช่วยเหลือจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ดเพียงแห่งเดียว แต่ถุงยังชีพก็ได้ไม่ครบทุกครัวเรือน ส่วนหน่วยอื่นยังไม่มีมา เดือดร้อนหนักตอนนี้น้ำเพิ่มระดับสูงขึ้นตลอดเวลา อย่างน้อยชั่วโมงละ 5 ซ.ม. อยากได้การช่วยเหลือจากหน่วยงานและผู้ใจบุญ โดยสิ่งที่อยากได้ก็จะเป็น เครื่องอุปโภคบริโภค โดยเฉพาะน้ำดื่ม เนื่องจากประปาหมู่บ้านเริ่มจะใช้การไม่ได้แล้วต้องซื้อน้ำกิน พื้นที่นาเสียหายจมน้ำสูงกว่า 3 เมตร 2 หมู่บ้านเสียหายสิ้นเชิงรวมทั้งสิ้น 2,700 ไร่ คาดว่าจะเดือดร้อนและอยู่กับน้ำนาน 2-3 เดือน