ย้อนรอย "อดีตพระยันตระ" กลับเยือนไทย หลังอาบัติปาราชิก คดีล่วงละเมิดเมถุน

ย้อนรอย "อดีตพระยันตระ" กลับเยือนไทย ฉลองวันเกิด 70 ปี พระสงฆ์ แม่ชี ลูกศิษย์ มาร่วมต้อนรับคับคั่ง หลังอาบัติปาราชิก คดีล่วงละเมิดเมถุน

“อดีตพระยันตระ อมโรภิกขุ” หรือ “นายวินัย ละอองสุวรรณ” อดีตเจ้าอาวาส สำนักป่าสุญญตาราม เป็นพระที่มีรูปโฉมที่สง่างาม เทศนาด้วยน้ำเสียงที่ไพเราะ นิ่มนวล เนื้อหาจับใจ มีลูกศิษย์ศัทธา ให้ความเคารพนับถือจำนวนมาก ตกเป็นคดีใหญ่เมื่อปี 2537 คดีล่วงละเมิดเมถุน นางจันทิมา จนมีลูกสาวด้วยกัน

มีการเรียกร้องให้พระยันตระพิสูจน์ ตรวจ DNA แต่ พระยันตระไม่ยอมตรวจ โดยอ้างว่าถูกกลั่นแกล้ง กระทั่งมีคำสั่งให้ขาดจากความเป็นพระภิกษุตามพระวินัยบัญญัติ ครั้งที่ตกเป็นข่าวฉาว อดีตพระยันตระ ได้รับฉายาในทางลบว่า "จิ้งเขียว" และ "สมียันดะ"

ในวันที่ 30 มีนาคม 2538 พระยันตระลาสิกขา เปลี่ยนจากการห่มจีวร เป็นการห่มผ้าสีเขียวไข่กา ม้วนลูกบวบตลบไปทางขวา ซึ่งเป็นคนละด้านกับพระภิกษุทั่วไป 

อดีตพระยันตระ หรือ นายวินัย ละออง สุวรรณ ถูกดำเนินคดี แต่งกายเลียนแบบพระ ,ดูหมิ่นสมเด็จพระสังฆราช จากนั้น นายวินัย จึงเดินทางไปยังประเทศสหรัฐอเมริกา โดยต่อมาได้สถานะผู้ลี้ภัยในสหรัฐอเมริกา และ ได้เปิดสำนักสุญญตารามทเอสคอนดิโด้

ไปอยู่ประเทศอเมริกากว่า 20 ปี จนกระทั่งคดีหมดอายุความ เขาจึงได้เดินทางกลับมายังประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อเมษายน ปีพศ. 2557 ที่บ้านเกิด บ้านบางบ่อ อำเภอปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ภาพที่ปรากฏต่อสาธารณะขณะนั้น กลายเป็นข่าวฮือฮา สะเทือนวงการสงฆ์ อดีตพระยันตระ มีรูปร่างอ้วนท้วนกว่าเดิม แต่งกายในลักษณะห่มผ้าสีเขียว ผม หนวดเครา สีขาวยาว

ในครั้งนั้น อดีตพระยันตระกล่าวกับลูกศิษย์ที่มาต้อนรับว่า “ ทุกคนไม่สมบูรณ์แบบทั้งนั้น ทุกอย่างเป็นอนิจจัง ไม่มีอะไรแน่นอน”

การกลับมาประเทศไทยครั้งแรก ของอดีตพระยันตระ ก็ได้รับการวิจารณ์อย่างมาก แม้คดีความต่างๆจะหมดอายุความไปแล้วก็ตาม สำนักงานพุทธศาสนา ขณะนั้นก็ยืนยันว่า อดีตพระยันตระ แม้จะยังถือศีล แต่ได้ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว เพราะทำผิดกฎบัญญัติ คือเสพเมถุน ทำให้ต้องปาราชิก

ช่วงที่อดีตพระยันตระ กลับมาใน ปี 2557 นั้น นายประจิณ ฐานังกรณ์ ประธานกลุ่มธรรมาธิปไตย ได้แจ้งความดำเนินคดีกับ อดีตพระยันตระ ในความผิดฐานแต่งกายเลียนแบบพระภิกษุ สามเณร หรือนักบวชในศาสนาโดยมิชอบ

ซึ่ง ในตอนนั้น นายประจิณ กล่าวกับสื่อมวลชนว่า เหตุที่เข้าแจ้งความในครั้งนี้ เนื่องจากทนไม่ได้กับพฤติกรรมของ อดีตพระยันตระ ที่เดินทางกลับประเทศไทย ภายหลังหลบหนีคดีความต่างๆ จนคดีขาดอายุความ แต่กลับยังแต่งกายด้วยผ้าที่คล้ายจีวรพระสงฆ์ห่มตัวไว้โดยไว้ผมหนวดเครายาว ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ทั้งที่ความจริงได้ปาราชิกแล้ว จึงต้องแจ้งความดำเนินคดีเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างกับผู้อื่น

จากนั้น ในปี พศ. 2558 และ ปี พศ. 2559 อดีตพระยันตระ เดินทางกลับเมืองไทย มาพบปะบรรดาญาติโยม ที่อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช ต่อเนื่อง

ล่าสุด อดีตพระยันตระ กลับเข้ามาประเทศไทยอีกครั้ง เมื่อวันที่ 28 ก.ย.64 เข้ากักตัวเป็นเวลา 14 วัน เดินทางไปยังบ้านเกิด และจังหวัดต่างๆ ล่าสุด เดินทางไปปรากฏตัวที่ อาศรมเกพลิตาโพธิวิหาร จ.สระแก้ว โดยมีพระสงฆ์ แม่ชี ลูกศิษย์ มาร่วมต้อนรับคับคั่ง และสะเทือนวงการสงฆ์อีกครั้ง เมื่อปรากฏภาพกลุ่มพระสงฆ์ ก้มกราบ อดีตพระยันตระที่นั่งบนเก้าอี้ในชุดกางเกงจีน และ ผ้าคลุมสีเขียว ผม และ หนวดเครายาว

ทั้งนี้ อดีตพระยันตระมีกำหนดการจะเดินทางกลับสหรัฐฯ ในช่วงเช้า วันที่ 27 ต.ค.นี้

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/2-HA-xX6B-A