แฉพฤติกรรมสุดป่วน หนุ่มเมาลวนลามช่าง ฟันดาบค่าตัดผม ชาวบ้านเผยก่อนจะรั่วเคยเป็นคนเก่ง

กรณีสาวหล่อช่างตัดผม ถูกลูกค้าชักดาบค่าตัดผม ถูกจับก้นแล้วยังโวยวายอาละวาด ล่าสุดยังไม่เจอตัวลูกค้ารายนี้ แต่มีชาวบ้านให้ข้อมูล ก่อนจะรั่วแบบนี้เคยเป็นคนมีความสามารถ

จากกรณีโลกโซเชี่ยล ปรากฏคลิปเหตุการณ์หนึ่งที่ทางสาวหล่อเจ้าของร้านตัดผมแห่งหนึ่งใน อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ โพสต์คลิปเหตุการณ์ความวุ่นวายที่เกิดขึ้นที่ร้าน หลังจากมีชายวัยกลางคน คนหนึ่งเข้ามาตัดผมที่ร้านในสภาพเมาสุรา และมีพฤติกรรมก่อกวนไม่ยอมกลับบ้าน แถมยังจับก้นเธอหลายครั้งระหว่างตัดผม สุดท้ายไม่ยอมจ่ายเงิน และยังมาขอแต่งงานด้วย ซึ่งเธอทนไม่ไหวถึงขั้นต้องปิดร้านหนี

จากการสอบถามทราบว่านางสาวน้ำฝน เจ้าของร้านตัดผมระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม ที่ผ่านมา ชายคนดังกล่าวได้ขี่รถจักรยานยนต์เข้ามาตัดผมที่ร้าน ตอนแรกไม่รู้ว่าเมาเพราะไม่ได้แสดงอาการอะไร แต่ปรากฏว่าระหว่างตัดผมใกล้เสร็จ ชายดังกล่าวเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง บอกว่าฉันอยากจับก้นเธอ พูดไม่ทันจบก็จับก้นเธอทันที เธอจึงพยายามเบี่ยงตัวหลบไม่หันหลังให้และรีบตัดผมให้เสร็จเพราะตัดใกล้จะเสร็จแล้ว ระหว่างนั้นชายคนนี้ได้จับก้นเธอหลายครั้ง

หลังจากตัดผมเสร็จเธอจึงเรียกเก็บเงินค่าตัดผม 50 บาท ชายดังกล่าวบอกว่ามีเงิน แต่ก็ไม่ยอมควักจ่าย แถมยังควักบุหรี่มาสูบในร้าน และยังคว้ากีตาร์ในร้านมาดีดเล่นจนสายขาด ด้วยความที่เริ่มโมโห เธอจึงบอกว่าคิดค่าจับก้นเพิ่มอีก 50 บาท และค่าสายกีตาร์อีก 100 บาท รวมทั้งหมด 200 บาท และให้ใช้โทรศัพท์มือถือสแกนจ่ายแทนเงินสด แต่เมื่อดูในแอพลิเคชั่นก็พบว่าไม่มีเงินอีก เธอจึงยึดโทรศัพท์ไว้ และให้กลับไปเอาเงินที่บ้านมาจ่าย

ปรากฏว่าชายดังกล่าวได้กลับบ้านไปซักพัก และกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากลับมาอีกครั้ง ครั้งนี้มาโวยวายหน้าร้าน บอกว่า เธอสวย ขอหอมแก้ม และจะขอแต่งงานด้วย โดยครั้งนี้มาก่อกวนหน้าร้านนานกว่าชั่วโมง และสุดท้ายก็ยังไม่ยอมจ่ายเงิน ตนเองเห็นว่าที่ร้านมีแม่ของแฟนสาวที่อายุมาก และมีหลานสาวอายุไม่กี่ขวบ เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจปิดร้านหนี พร้อมขอยึดโทรศัพท์มือถือไว้ให้มาจ่ายเงินไถ่คืน จนกระทั่งชายดังกล่าวออกไปจากร้าน

แต่เรื่องราวยังไม่จบ ประมาณ 08.00 น. วันรุ่งขึ้น ชายดังกล่าวกลับมาอีกครั้ง คราวนี้มาขอตัดผมอีก เธอก็ไม่ยอมตัดให้ โดยบอกว่าเงินที่ค้างไว้ยังไม่ได้จ่าย ทำให้ชายดังกล่าวโมโหของขึ้น โวยวายเสียงดังบอกจะฟ้องกลับ และยังชี้หน้าด่ากราด บอกว่า “คุณทำให้ฉันเป็นคนเลว” , “แม่ของฉันและศาสดาของฉันจะไม่พอใจ”

เมื่อเห็นท่าไม่ดีตนเองจึงโทรศัพท์แจ้งตำรวจให้เข้ามาระงับเหตุ พร้อมกับให้แฟนไปรับแม่ของชายคนดังกล่าวมาพาตัวลูกชายกลับบ้าน เมื่อแม่มาถึงได้จ่ายค่าตัดผมให้ 50 บาท และ ชายดังกล่าวได้ขยำธนบัตรจ่ายเพิ่มให้อีก 90 บาท แต่ก็ยังไม่ยอมกลับ ยืนโวยวายหน้าร้านนานนับชั่วโมง จนกระทั่งพ่อกับลุงมาตามตัวกลับบ้านไปในที่สุด และ ตนเองก็ได้คืนโทรศัพท์ให้

ด้านนางสาวน้ำฝน บอกว่า เปิดร้านตัดผมที่บ้านแฟนในหมู่บ้านกิ่วและหลวง ต.ยุหว่า อ.สันป่าตอง มาได้ประมาณปีกว่าไม่เคยเจอลูกค้าแบบนี้ โดยชายคนนี้เคยมาตัดผมก่อนหน้านี้ครั้งหนึ่งแล้วเมื่อหลายเดือนก่อนและกลับมาอีกครั้ง ส่วนที่เรียกเงินไปนั้นเพราะต้องการให้เข็ดหลาบ

ยืนยันว่าที่ผ่านมาตัดผมฟรีมามาก ไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงิน เพียงแต่ไม่อยากให้ใครมาวุ่นวายที่ร้านอีก เรื่องที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้ติดใจอะไร แต่ที่นำคลิปไปโพสเพราะต้องการเตือนภัยร้านตัดผมหรือร้านค้าอื่น ๆ ให้ระมัดระวังสังเกตลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการที่ร้านให้ดี

นางสาวน้ำฝน บอกด้วยว่า จากการสอบถามพ่อแม่ของชายดังกล่าว ทราบว่าชายคนนี้มักจะนิสัยเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเมื่อดื่มสุรา ที่ผ่านมาชอบโวยวายก่อเรื่องบ่อย ซึ่งพ่อแม่ของชายดังกล่าวได้ขอโทษและบอกด้วยว่าหากเกิดเหตุแบบนี้อีกก็ให้แจ้งความดำเนินคดีได้ทันที

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ หมู่บ้านต้นแก้ว ต.น้ำบ่อหลวง อ.สันป่าตอง ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับหมู่บ้าน กิ่วแลหลวง ต.ยุหว่า ห่างกับร้านตัดผมร้านดังกล่าวประมาณ 1 กม.พร้อมกับนำคลิบวิดีโอขณะเกิดเหตุการณ์ เพื่อติดตามตัวชายชายคนดังกล่าวจนทราบว่าชื่อนายบอย นามสมมุติ อายุประมาณ 40 ปี เป็นชาวบ้านกิ่วแลหลวงและได้มาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านต้นแก้ว กับพ่อแม่ นานประมาณ 3 ปี ครอบครัวนี้มีฐานะค่อนข้างดี และไม่ค่อยจะสุงสิงกับใคร

สมัยก่อนนายบอย ถือว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถคนหนึ่ง แต่ระยะหลังมีพฤติกรรมแปลกๆไป ชาวบ้านจะเห็นนายบอยฯ เมาทั้งวันบางทีก็ไปมีเรื่องกับชาวบ้านในหมู่บ้าน และต่างหมู่บ้าน เป็นประจำทั้งที่เขตพื้นที่ ต.บ้านกาด อ.แม่วาง ซึ่งห่างจากหมู่บ้านไปไกลไม่ต่ำกว่า 15 กม. เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องจับตัวไป ส่งสถานีตำรวจ เพื่อให้สงบสติอารมณ์ เป็นประจำหลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ปล่อยตัวกลับมาเนื่องจากนายบอยมีประวัติการรักษาตัวเกี่ยวกับจิตเวช จึงไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากแจ้งให้พ่อและญาตินายบอยมารับตัวกลับ