รพ.สุราษฎร์ธานี ยันไม่เคยพูดว่าไม่ใช่คนขับรถของโรงพยาบาล ถอยทับหญิงมาบริจาคเลือดดับ

จากกรณีที่มีข่าวรถของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีถอยทับสาวทอมเสียชีวิตภายในโรงพยาบาลนั้น โดยเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 17 ก.ย.64 ที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี นพ.ศักดิ์ชัย ตั้งจิตวิทยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย น.พ.สมศักดิ์ นิลพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี และตัวแทนจากบริษัทกรุงเทพประกันภัย ร่วมแถลงข่าวกรณีที่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลได้ขับรถโรงพยาบาลที่ใช้รับส่งผู้ป่วยโควิด ทับ น.ส.เสาวณีย์ อรชร อายุ 36 ปี ที่ไปบริจาคเลือดให้โรงพยาบาล เสียชีวิตภายในโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 13 ก.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่ น.ส.เสาวณีย์ อรชร ผู้ตาย ออกจากที่พักในตัวเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อไปบริจาคเลือดให้กับทางโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี หลังบริจาคเลือดเสร็จก็เดินทางกลับที่พัก ระหว่างที่กำลังเดินออกจากโรงพยาบาล มีเจ้าหน้าที่ขับรถตู้พยาบาลของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ได้ขับถอยหลังมาชนจน น.ส.เสาวณีย์ฯ ล้มลงไปนอนกับพื้น ก่อนจะถูกรถตู้พยาบาลเหยียบทับขึ้นไปบนร่างและศีรษะ จนบาดเจ็บสาหัสอยู่ที่ข้างตึกที่ไปบริจาคเลือด และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุ เก็บรายละเอียดทั้งหมดเพื่อดำเนินการในด้านคดี หาตัวผู้กระทำความผิด ต่อมาในวันที่ 14 ทางโรงพยาบาลได้ติดต่อให้ทางญาติมาพูดคุยพร้อมเปิดภาพจากกล้องวงจรปิดให้ดู พร้อมกับมีการเจรจากันเป็นที่เรียบร้อยแล้วโดยบริษัทประกันภัยจะจ่ายให้กับญาติผู้เสียชีวิตในวงเงิน 1,500,000 บาท แต่ทางญาติยังไม่พร้อมจะดำเนินการ จะต้องรอให้เสร็จเรื่องงานศพเสียงก่อน

ส่วนเรื่องที่ว่าทางโรงพยาบาลกล่าวอ้างว่าไม่ใช่คนขับรถของโรงพยาบาลนั้นไม่เป็นความจริง เพราะทางโรงพยาบาลไม่เคยพูดเรื่องนี้ อีกทั้งเรื่องไปร่วมงานบำเพ็ญกุศลศพทางโรงพยาบาลได้ติดต่อจะไปเป็นเจ้าภาพในวันเสาร์ที่จะถึงนี้แล้ว ส่วนความคืบหน้าของคดี ได้ประสาน พ.ต.ท.ศุภชัย ศรีสมโภชน์ สารวัตรสอบสวน เจ้าของคดี แจ้งว่าขณะนี้ได้แจ้งข้อหากับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีแล้ว

ส่วนการเยียวยาทางโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี อยู่ระหว่างการเจรจาไกล่เกลี่ยกับญาติผู้ตาย เบื้องต้นโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีจะเดินทางไปร่วมพิธีบำเพ็ญกุศลศพ และมอบเงินเยียวยาเบื้องต้น จำนวน 20,000 บาท ส่วนรถที่ผู้ต้องหาขับประสบอุบัติเหตุมีการจัดทำพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ.2535 และประกันภัยภาคสมัครใจ

ด้านนายสุธีรวัชร์ เจริญวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ยุติธรรมจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้ประสานนางวาสนา อรชร มารดาผู้ตาย และนายวิจารย์ สมัยสงฆ์ ญาติของผู้ตาย เพื่อแสดงความเสียใจ และให้กำลังใจ รวมทั้งอธิบายหลักเกณฑ์ที่ทายาทจะมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา และอธิบายกฎหมายที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับคดี และสิทธิตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยภาคสมัครใจ

ทั้งนี้ หากทายาทผู้เสียหายไม่ได้รับค่าสินไหมทดแทนจากพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 และประกันภัยภาคสมัครใจ ทายาทผู้เสียหาย มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือเยียวยาในฐานะเป็นผู้เสียหายในคดีอาญาตามมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติค่าตอบแทนฯ กรณีความผิดต่อชีวิต ดังนี้

(1) ค่าตอบแทนกรณีผู้เสียหายถึงแก่ความตาย ให้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท (2) ค่าค่าจัดการศพ 25,000 บาท ทั้งนี้ การพิจารณาจ่ายค่าตอบแทนผู้เสียหายในคดีอาญา เป็นดุลพินิจของคณะอนุกรรมการฯ เป็นสำคัญ