หลักฐานชัด! แฉตำรวจใหญ่ใช้เครื่องบินตำรวจขนเหล้าเถื่อน-โกงงบบินดูงาน เตรียมส่งป.ป.ช.ชี้มูล

คลิปแฉนายตำรวจใหญ่ระดับผู้บังคับบัญชา ใช้เครื่องบินตำรวจขนเหล้าเถื่อน จากชายแดนเข้ากรุงเทพฯ ทั้งยังเคยทุจริตงบไปดูงานต่างประเทศ ตำรวจชั้นผู้น้อยเคยร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช.แล้วแต่เรื่องเงียบ

ทีมข่าวช่อง 3 ได้รับเอกสารหลักฐานการร้องเรียนจากเจ้าหน้าที่ในสังกัดกองบินตำรวจ ว่าผู้บังคับการกองบินตำรวจคนปัจจุบันมีพฤติกรรมลักลอบขนสุราเถื่อนจากชายแดนในอำเภอหาดใหญ่ เข้ามาในกรุงเทพ ตั้งแต่ปี 2561 และเคยร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. ปรากฎเรื่องเงียบ หวั่นได้รับผลกระทบเรื่องงาน

ในคลิปเป็นคลิปบันทึกภาพขณะที่เจ้าหน้าที่ในกองบินตำรวจแอบถ่ายขณะนำผู้บังคับการกองบินตำรวจให้ลูกน้องมาขนเหล้าลงจากเครื่องบิน ที่ขนใส่ถุงดำแล้วบรรทุกมาในเครื่องบิน0

อีกคลิปเป็นภาพขณะผู้บังคับการมาหยิบสินค้าที่เพิ่งขนลงมาจากเครื่องบิน ซึ่งมีลักษณะเป็นขวด หยิบออกมา 2-3 ขวด เหตุการณ์นี้ถูกบันไว้ตั้งแต่ปี 2561 ซึ่งผู้ร้องเรียนระบุว่า ชายในภาพที่ลอบขนเหล้าเบียร์เถื่อน คือ พลตำรวจตรี สุทธิพงษ์ เพชรรักษ์ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเป็นรองผู้บังคับการกองบินตำรวจ

พฤติการณ์ที่ระบุตามคำร้อง คือ ในแต่ละเดือนที่ต้องไปฝึกบินจะวางเส้นทางไปที่สนามบินหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา แล้วสั่งให้ลูกน้องที่เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ที่เป็นช่างเครื่องยนต์ ที่ร่วมเดินทางไปด้วยขนสุราและเบียร์ที่ไม่ได้เสียภาษีขึ้นเครื่องในแต่ละครั้งมากกว่า 30 ลัง ซึ่งสุราและเบียร์ดังกล่าวมีสติกเกอร์สีแดง ที่ระบุว่า Paid The Zone Duty Free ติดไว้กับถุงดำที่ห่อหุ้มลังสุราและเบียร์ที่ขนย้ายมา ซึ่งการขนขึ่้นเครื่องจะผ่านช่องทางลานจอดเครื่องบินของสนามบินหาดใหญ่ฝั่งทหาร ที่ไม่มีการตรวจสอบด้านศุลกากรเหมือนฝั่งลานจอดสนามบินพลเรือน จากนั้นจะบินมาลงที่ดอนเมืองฝั่งลานจอดกองบินตำรวจ และสั่งการให้ลูกร้องขนย้ายลังสุราทั้งหมดไปขึ้นรถยนต์ส่วนตัว ที่จอดไว้ โดยทำลักษณะนี้บ่อยครั้ง

ตำรวจชั้นผู้น้อย จึงตัดสินใจรวบรวมหลักฐานเป็นภาพถ่ายและคลิปวีดีโอทำเรื่องส่งไปยัง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.เพื่อดำเนินการตามขั้นตอน ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา และช่วงต้นปี 2564 ที่ผ่านมาก็มีการเรียกตัวบุคคลที่ปรากฏในภาพและคลิปวิดีโอทั้งหมดเข้าไปให้ข้อมูล แต่จนถึงปัจจุบันยังไม่มีความคืบหน้าในการดำเนินการลงโทษทางวินัย ใดๆ และนายตำรวจใหญ่รายนี้ ที่ปัจจุบันมีตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกองบินตำรวจ ก็ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ จึงต้องนำเรื่องมาร้องเรียนกับสื่อมวลชน

นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2559 ที่ผู้บังคับบัญชาคนดังกล่าวเคยทุจริตในการเบิกงบประมาณเดินทางไปดูงานที่ต่างประเทศ เกินกว่าความเป็นจริงด้วย คือ เดินทางกลับมาก่อนกำหนด แต่เบิกตามกำหนดไปที่ต้องไป ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องเสียเงินกว่า 69,450 บาท

ขณะที่มีรายงานว่า ป.ป.ช. ที่ตรวจสอบและไต่สวนได้สรุปความเห็นว่ามีความผิดทั้ง 2 ประเด็น หลังจากนี้จะส่งให้ ป.ป.ช.ชุดใหญ่ชี้มูล

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/u3rdtU2QPuo