สังคม
สธ.เปิดแผนจัดหาวัคซีนโควิด ปี 64 ไทยมีวัคซีน 140 ล้านโดส
โดย passamon_a
29 ส.ค. 2564
467 views
วันที่ 28 ส.ค.64 นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยถึงผลสรุปการฉีดวัคซีนโควิด-19 ว่า ภาพรวมขณะนี้ฉีดวัคซีนไปแล้ว 30,420,507 โดส แบ่งเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 22,617,701 ราย คิดเป็น 31.4% เข็มที่ 2 จำนวน 7,221,368 ราย คิดเป็น 10% เข็มที่ 3 จำนวน 581,438 ราย
ซึ่งแนวโน้มการฉีดเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ และสูงขึ้นในเดือนสิงหาคม เนื่องจากมีวัคซีนเข้ามามากขึ้น ถ้าจำได้แผนการฉีดวัคซีนของเราเริ่มต้นเมื่อเดือน มิถุนายน-สิงหาคม มีเป้าหมายฉีดให้ได้เดือนละ 10 ล้านโดส ถือว่าสิงหาคมทำได้เกินเป้าหมาย แต่ยังมีประชาชนอีกจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการฉีดวีคซีน ต้องเร่งนำวัคซีนเข้ามาและเร่งรัดการฉีดต่อไป โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่มีป่วยแล้วจะมีอาการรุนแรง
สำหรับในกลุ่มที่ฉีดวัคซีน ที่ให้ความสำคัญตอนนี้คือกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป พบว่าเมื่อติดเชื้ออาการจะรุนแรงและเสียชีวิต ค่อนข้างสูง กับกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค ขณะนี้มีการฉีดวัคซีนเข็มแรกไปแล้วประมาณ 40% ของเป้าหมาย อีกกลุ่มที่ให้ความสำคัญค่อนข้างมากในระยะต่อไปคือหญิงตั้งครรภ์ เพราะว่ามีการติดเชื้อเสียชีวิตทุกวัน จะต้องเร่งรัดการฉีดในกลุ่มนี้ และขอเชิญชวนให้รับการฉีดวัคซีนได้ที่โรงพยาบาลฝากท้อง
ส่วนแผนการจัดหาวัคซีนของประเทศไทยในปี 2564 ในเดือนกันยายน-ธันวาคม แผนการนำเข้าวัคซีนซิโนแวค อีก 12 ล้านโดส วัคซีนแอสตราเซเนกา อีก 43.3 ล้านโดส วัคซีนไฟเซอร์ 30 ล้านโดส รวมจะมีการนำเข้าวัคซีนเพิ่มอีก 85.3 ล้านโดส ซึ่งจะทำให้ในปี 2564 ตลอดทั้งปีไทยมีวัคซีนรวม 140 ล้านโดส ซึ่งจะสามารถดำเนินการฉีดวัคซีนได้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ที่ 100 ล้านโดส โดยแผนการฉีดกำหนดกลุ่มไว้ตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด
นอกจากนี้ นพ.โอภาส กล่าวอีกว่า แม้สถานการณ์การติดเชื้อเริ่มชะลอตัว แต่เนื่องจากเชื้อโควิดมีการกลายพันธุ์ หลายประเทศที่เคยควบคุมได้ดี ไม่ว่าสหรัฐอเมริกา อิสราเอล นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เวียดนาม ล้วนเจอกับสายพันธุ์เดลต้า ทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น
ฉะนั้นในภายภาคหน้าอาจจะมีสิ่งที่เราไม่รู้หรืออุปสรรค มีเชื้อกลายพันธุ์เกิดขึ้น ถ้าทุกคนร่วมแรงร่วมใจกันฟันฝ่าตรงนี้ไป จะสามารถดำรงชีวิตได้ใกล้เคียงหรือเป็นปกติให้มากที่สุดในอนาคตอันใกล้
ขณะที่การประชุม ศบค. ได้มีการกำหนดเป้าหมายกลยุทธ์แผนการควบคุมโรคแนวใหม่เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเปิดประเทศอย่างปลอดภัย หากกำหนดให้สถานการณ์ความรุนแรงของการแพร่ระบาดในเดือนสิงหาคมอยู่ที่ระดับห้า เป้าหมายต่อไปจะต้องลดความรุนแรงของการแพร่ระบาดในเดือนกันยายนเหลือระดับสี่ ระดับสามในเดือนตุลาคม ระดับสองที่เดือนพฤศจิกายน และระดับหนึ่งที่เดือนธันวาคม
ให้สอดคล้องกับเป้าหมายการฉีดวัคซีน ที่ในเดือนสิงหาคม กำหนดการฉีดวัคซีนให้ได้ร้อยละ 70 ของผู้ที่ได้รับวัคซีนหนึ่งเข็มในกลุ่มเป้าหมายหลักใน 12 จังหวัด
ในเดือนกันยายน ต้องฉีดวัคซีนให้ได้เข็มที่หนึ่งเกินมากกว่าร้อยละ 70 ในกลุ่มเป้าหมายหลักของทุกจังหวัด
ในเดือนตุลาคม กำหนดการฉีดวัคซีนให้ได้ครบสองเข็มมากกว่าร้อยละ 70 ในกลุ่มเป้าหมายหลัก และฉีดวัคซีนได้มากกว่าร้อยละ 50 ในเข็มที่หนึ่งของประชาชนทั้งประเทศ รวมกลุ่มเด็ก
เดือนพฤศจิกายน ต้องมีการฉีดวัคซีนได้ร้อยละ 70 ของเข็มที่หนึ่งในกลุ่มประชาชนทั้งประเทศ และเข็มที่สามในกลุ่มพื้นที่เสี่ยง
เดือนธันวาคม กำหนดเป้าหมายไว้ต้องดำเนินการฉีดวัคซีนครบสองเข็มได้ร้อยละ 70 รวมถึงเข็มที่สามทั้งประเทศ
รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/k63iods0_MQ