9 สมาคมธุรกิจ ผู้ประกอบการยื่นหนังสือถึง 'อนุทิน' ขอเปิดกิจการภายในและนอกศูนย์การค้า

ที่กระทรวงสาธารณสุข กลุ่มสมาคมศูนย์การค้าไทยและผู้แทนคณะทำงานอีก 9 สมาคมธุรกิจ ยื่นขอเสนอการเปิดดำเนินกิจการภายในและนอกศูนย์การค้ากับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

นางฐนิวรรณ กุลมงคล นายกสมาคมภัตตาคารไทย ได้ระบุถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการร้านอาหาร ยังถูกปิดไม่อนุญาตให้นั่งรับประทานภายในร้าน หลายกิจการต้องปิดร้านไป ส่วนกิจการที่ยังพอดำเนินธุรกิจได้ต้องแบกรับค่าใช้จ่าย เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าพื้นที่ หรือค่าใช้จ่ายอื่น ๆ สูงกว่ารายได้ จึงอยากขอทราบความชัดเจนในขณะนี้

สำหรับผู้ประกอบการ ร้านอาหาร 3 ข้อ คือ ขอทราบความชัดเจนว่าจะสามารถกลับมาเปิดดำเนินกิจการได้เมื่อไร แนวทางการปฏิบัติต้องทำอย่างไร การช่วยเหลือเรื่อง การเปิดกักตัวดูแลในสถานประกอบการและการตรวจคัดกรอง และขอให้มีการจัดสรวัคซีนให้กับกลุ่มพนักงาน ร้านอาหาร ทั้งในและนอกระบบประกันสังคม

ด้านนางศุภานวิต เอี่ยมสกุลรัตน์ กรรมการสมาคมศูนย์การค้าไทยและผู้แทนคณะทำงาน 8 สมาคมธุรกิจ เป็นตัวแทนยื่นหนังสือ ถึงรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในประเด็นหลัก คือ แนวทางการเปิดศูนย์การค้าและมาตรการปฏิบัติเพื่อรองรับการให้บริการประชาชนอย่างปลอดภัย ได้เสนอ ข้อพิจารณา 3 ระยะ คือ 1 กันยาน  15 กันยายน  30 กันยายน โดยเสนอเปิดกิจกรรม กิจการต่าง ๆ ดังนี้ ระยะที่ 1 ธุรกิจหลัก คือ ร้านอาหารและเครื่องดื่มประเภทนั่งทานในร้าน ร้อยละ 50 และธุรกิจวัสดุก่อสร้าง เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน

ส่วนกลุ่มธุรกิจเสริม คือ คลินิกทันตกรรม / ธุรกิจประกอบการเพื่อสุขภาพและสปา(เฉพาะนวดเท้า) /คลินิกเวชกรรม / ธุรกิจเสริมสวย(ห้ามทำบนใบหน้า) /ธุรกิจไอทีอุปกรณ์สื่อสารและไฟฟ้า / ธุรกิจอาคารสำนักงาน/ธุรกิจการบริการ เช่น ล้างรถ ซ่อมกุญแจไปรษณีย์ / ธุรกิจเบ็ดเตล็ด เช่น ร้านตัดแว่น / ธุรกิจสนามกอล์ฟและสนามกีฬากลางแจ้ง

ระยะที่ 2 ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มประเภทนั่งทานในร้านได้ร้อยละ 75 และธุรกิจเสื้อผ้าเครื่องแต่งกาย รวมถึงธุรกิจสถาบันการศึกษา

ระยะที่ 3 ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มประเภทนั่งทานในร้านได้ ร้อยละ100 รวมถึง ธุรกิจประกอบการเพื่อสุขภาพและสปา ธุรกิจเครื่องเล่นเด็กและผู้ใหญ่ ธุรกิจฟิตเนสและออกกำลังกายในร่ม ธุรกิจโรงภาพยนตร์และธุรกิจห้องจัดเลี้ยง

ทั้งนี้ อยากขอให้พื้นที่กรุงเทพมหานครปลดล็อก และระบุแผนเป็นการล่วงหน้า เพื่อเตรียมความพร้อม ความเชื่อมั่นในภาคเศรษฐกิจและการดำรงชีวิตของประชาชนโดยรวม โดยศูนย์การค้าทุกแห่งประสงค์ปฏิบัติตามมาตรการสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดโดยถือว่าเป็นความสำคัญเพื่อให้กิจการต่าง ๆสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ

นายอนุทิน ระบุว่า พร้อมรับฟังปัญหาที่ได้เสนอมาเพื่อหาทางออกร่วมกัน โดยกระทรวงสาธารณสุขตระหนักดีถึงปัญหาต่าง ๆ และขอยืนยัน รัฐบาลพยายามหาทางออกให้กับผู้ประกอบการทุกกลุ่มอย่างเต็มที่ ในการประชุมแต่ละครั้งพยายามหาความสมดุลระหว่างปัญหาทางธุรกิจกับความปลอดภัยสุขภาพ การติดเชื้อ ซึ่งในหลายปัจจัยอยู่เหนือการควบคุม เช่น การกลายพันธุ์ของเชื้อที่มีการติดเชื้อแบบกลุ่มก้อนตั้งแต่ปลายปี ในตอนนี้พยายามหาทางออกที่เหมาะสมกับทุกฝ่าย

หลังการประชุม หารือ นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิตร ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุ มาตรการที่ทางผู้ประกอบการเสนอ มีแนวทางที่จะสามารถผ่อนคลายมาตรการได้ ทั้งนี้ เป็นการให้ความร่วมมือทั้ง 2 ฝั่งทั่งภาครัฐและผู้ประกอบการที่จะต้องปฏิบัติตามแนวทางอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การเปิดกิจการมีความปลอดภัยและสอดคล้องกับการควบคุมโรค

ทั้งนี้ โดยเบื้องต้นจะให้กรมควบคุมโรคกำหนดมาตรการเช่น มาตรการตรวจโควิดฟรี ซึ่งต้องกำหนดความชัดเจนในมาตรการดูแล ทั้งด้านการจัดการสิ่งแวดล้อม และการควบคุมโรค เร่งดำเนินการจัดฉีดวัคซีนให้ครบ 2 เข็มในกลุ่มผู้ประกอบการ ลูกจ้างซึ่งมีจำนวนหลือไม่มาก จัดการตรวจเชื้อโดยชุดตรวจ ATK ในกรณีผู้ป่วยที่เคยติดเเขื้อแล้ว ต้องเว้นระยะห่าง 1 เดือน ไม่เกิน 3 เดือน ในการกลับมาทำงาน และแนวการปฏิบัติอื่น ๆ ทั้งนี้ เมื่อได้ข้อเสนอมาแล้วทางกรมควบคุมโรคจะต้องยื่น เสนอ ศบค. พิจารณาอีกครั้งโดยจะมีการประชุมในวันศุกร์นี้