สังคม
ป.ป.ช. ยัน 3 ปีที่ผ่านมา ทุกคดีคืบหน้า 'ข้าวจีทูจีภาค 2' บทสรุป ก.ย. นี้ - คดี 'บอส อยู่วิทยา' ตั้งเป้า 1 ปี 4 เดือน
โดย sujira_s
23 ส.ค. 2564
135 views
ประธานป.ป.ช.โวผลงาน 3 ปีตามกฎหมายปราบทุจริตใหม่ เฉพาะปี 64 ม.ค-27 ก.ค. ไต่สวนเสร็จ 1,390 คดี ชี้มูลอาญา-วินัย 795 คดี พร้อมเปิดไทม์ไลน์คดีสำคัญ 'ข้าวจีทูจีภาค 2' เดือน ก.ย.นี้ ส่วนคดี 'บอส อยู่วิทยา' ตั้งเป้าแล้วเสร็จภายใน 1 ปี 4 เดือน
วันนี้ (23 ส.ค. 64) พล.ต.อ.วัชรพล ประสานราชกิจ ประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้กล่าวเปิดกิจกรรม คณะกรรมการป.ป.ช.พบสื่อมวลชน ประเด็น ครบรอบ 3 ปีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561
โดย พล.ต.อ.วัชรพล ย้ำว่า หัวใจสำคัญของกฎหมายฉบับนี้ เป็นการเปลี่ยนบริบทการทำงานของ ป.ป.ช. เพราะมีเงื่อนไขเรื่องการไต่สวนที่รับดำเนินการก่อนวันที่ 22 ก.ค.2561 จะต้องดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 3 ปี หากไม่แล้วเสร็จ ยังมีหน้าที่อำนาจไต่สวนต่อไปได้ แต่อาจมีประเด็นว่าสาเหตุที่ล่าช้า มีอุปสรรคใด หรือเป็นความบกพร่องของผู้รับผิดชอบ ดังนั้นการทำงานของป.ป.ช.จึงมุ่งหวังเป็นที่คาดหวังของประชาชน ที่อยากเห็นการแก้ไขปัญหาทุจริตให้มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว ยืนยันว่า 3 ปีที่ผ่านมา เห็นก้าวกระโดดซึ่งเป็นผลจากกฎหมาย แต่ก็ยอมรับว่ายังมีปัญหาอุปสรรค ไม่สามารถกำหนดเวลาได้แบบ “บัญญัติไตรยางค์”เพราะทุกอย่างขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน และบุคคล
ทั้งนี้ระบุว่า ภาพรวมผลงานด้านการปราบปราม หลังจากมีกฎหมายใหม่เมื่อปี 2561 ซึ่งแยกกระบวนการตรวจสอบกับการไต่สวนออกจากกัน โดยข้อมูลตั้งแต่ 1 ต.ค.62- 27 ก.ค.64 เมื่อปี 2562 มีการไต่สวน 2,823 คดี ดำเนินการเสร็จ 424 คดี ตกไป 95 คดี ชี้มูลความผิดอาญาและวินัย 233 คดี / ปี 2563 มีการไต่สวน 3,137 คดี ดำเนินการเสร็จ 728 คดี ตกไป 165 ชี้มูลความความผิดอาญาและวินัย 403 คดี และ ปี 2564 (ณ วันที่ 27 ก.ค.64) มีการไต่สวน 3,338 คดี ดำเนินการเสร็จ 1390 คดี ตกไป 251 คดี ชี้มูลความผิดอาญาและวินัย 795 คดี ปัจจุบันยังคงเหลือ 2,705 คดี
พล.ต.อ.วัชรพล ยังกล่าวว่า เป้าหมายการทำงานของป.ป.ช. ไม่ได้ดูผลงานเฉพาะกระบวนการไต่สวนและวินิจฉัยในชั้น ป.ป.ช. แต่มองภาพรวมการส่งสำนวนไปยังอัยการสูงสุด รวมถึงการฟ้องคดีของป.ป.ช.ไปสู่ชั้นศาล ซึ่งดำเนินการลงโทษ 33 คดี
ทั้งนี้ ยืนยันว่าจะเห็นการทำงานมิติใหม่ของป.ป.ช. ที่ไม่ใช่แค่การตรวจสอบ-ไต่สวน ที่นำคนผิดมาลงโทษให้ได้อย่างรวดเร็ว แต่เน้นป้องปรามไม่ให้มีการกระทำผิด โดยเฉพาะประเด็นความร่ำรวยผิดปกติในทุกระดับ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการร่างกฎหมายให้เจ้าหน้าที่รัฐทุกรายต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วย
ภายหลังการชี้แจงของประธาน ป.ป.ช. ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถาม ช่วงหนึ่งได้สอบถามถึงความคืบหน้าของคดี อาทิ คดีจีทูจีภาค 2 และ คดีบอส อยู่วิทยา โดย นางสาวสุภา ปิยจิตติ กรรมการป.ป.ช. กล่าวว่า กรณีคดี ข้าวจีทูจี ภาค 2 ในยุครัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีการตั้งไต่สวนเพิ่มเติมอย่างน้อย 2-3 ราย และมีการกันพยานบุคคลอยู่ โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วทั้งหมด โดยบุคคลที่ถูกไต่สวนเพิ่มเติม 2-3 รายนั้น ส่วนใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองที่อยู่ต่างประเทศ และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้ถูกกล่าวหา เบื้องต้นกำหนดกรอบเวลาจะดำเนินการให้แล้วเสร็จประมาณเดือน ก.ย.2564 ซึ่งพยายามตั้งเป้าหมายให้แคบที่สุดเพื่อไม่ให้มีปัญหา แต่เนื่องจากติดปัญหาโควิด-19 ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องบางรายไม่สามารถเข้าให้ปากคำได้
ส่วนคดีจีทูจียุครัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี มีอยู่ 3 คดี คือ คดีระบายมันสำปะหลังจีทูจี ระบายข้าวจีทูจี และการประมูลข้าวเป็นอาหารสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากมีพยานเอกสารบางชิ้น ที่พบว่า ไม่เหมือนกับตัวต้นฉบับ โดยเอกสารที่ส่งมายัง ป.ป.ช. ไม่ปรากฏลายเซ็นของบุคคลใดเลย จึงดำเนินการขอเอกสารตัวจริงอยู่ และรอเสนอเข้าที่ประชุมองค์คณะไต่สวนว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใครบ้าง และคดีนี้ยังไม่หมดอายุความ เนื่องจากมีอายุความ 20 ปี
ส่วนกรณีคดี บอส อยู่วิทยานั้น นางสาวสุภา กล่าวว่า ตอนนี้ป.ป.ช.ได้ตั้งองค์คณะไต่สวนแล้ว 15 คน โดยกำหนดกรอบดำเนินการเสร็จภายใน 1 ปี 4 เดือน เนื่องจากต้องนำข้อมูลจากกมธ.ของสภา รวมถึงส่วนที่เกี่ยวข้องกับการสอบปากคำจำนวนหลายปาก อีกทั้งมีประเด็นที่ป.ป.ช.ขยายผลต่อ ที่ไปเกี่ยวข้องกับบุคล ซึ่งยังขาดพยานหลักฐาน ขณะเดียวกันก็จะนำผลการสอบสวนของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ที่มี นายวิชา มหาคุณ เป็นประธาน ซึ่งจะต้องขอข้อมูฃจากอัยการสูงสุด และตำรวจ ที่เกี่ยวกับการกระทำเรื่องทางวินัย ยืนยันว่าเร่งรัดดำเนินการอยู่