ผอ.รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ แจงดรามาไฟเซอร์ จี้รัฐส่งให้ตามร้องขอ

โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เปิดฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้บุคลากรด่านหน้า ขณะประเด็นดรามาได้รับวัคซีนไฟเซอร์ไม่ครบ ล่าสุดกรมควบคุมโรคจัดส่งเพิ่มให้ครบทุกจำนวนแล้ว และ พร้อม เรียกร้องให้กรมควบคุมโรค จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ ตามรายชื่อที่แต่ละโรงพยาบาลยื่นเสนอขอเข้ามา

นายแพทย์พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ระบุว่า เป็นวันนี้เป็นวันแรกที่ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรด่านหน้าของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ จากกรมควบคุมโรคกระทรวงสาธารณสุข โดยวันนี้ดำเนินการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้บุคลากรทางด่านหน้าทั้งหมด 400 คน ซึ่งเป็นบุคลากรที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบสองเข็มแล้วตามหลักเกณฑ์ของกรมควบคุมโรคและจะเปิดฉีดวัคซีนให้กับบุคลากรด่าหน้าถึง วันที่ 13 สิงหาคม 2564 ซึ่งจะครบจำนวนบุคลากรที่ได้ส่งรายชื่อไปยังกรมควบคุมโรค 1,400 คน ในรอบแรกของวัคซีนไฟเซอร์ที่ได้รับ

ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ล็อคที่ 2 อีก 1,000 โดส ซึ่งจะได้รับในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการจัดสรรและดำเนินการฉีดวัคซีนในรอบถัดไป ส่วนกลุ่มบุคลากรด่านหน้าที่เข้ารับวัคซีน มีการพิจารณาตามเกณฑ์ในหลายวิชาชีพที่เกี่ยวข้องการการดูแลผู้ป่วย เช่น แม่บ้าน อาสาสมัคร แพทย์ พยาบาล เป็นต้น

ทั้งนี้นายแพทย์พฤหัส ระบุว่า บุคลากรของโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มี 4,000 คน ส่วนใหญ่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ทั้งหมด 3,400 คน ส่วนบุคลากรด่านหน้าทีาได้รับวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า มีทั้งหมด 600 คน ทางโรงพยาบาลเตรียมดำเนินการจัดหาวัคซีนเข็ม3 ให้กับบุคลากรทั้งหมดในโรงพยาบาลในระยะต่อไป

ส่วนการรับผู้ป่วยโควิด-19 ขณะนี้ยอมรับว่า เต็มศักยภาพของโรงพยาบาล จึงได้พยายามปรับแนวทางการรักษาตามรูปแบบใหม่ คือ ประเมินอาการหากเป็นกลุ่มผู้ป่วยสีเขียวไม่มีอาการ จะใช้ระบบรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งมีประมาณร้อยละ 80 ส่วนผู้ป่วยสีเหลือง ให้รับเข้ารักษาโรงพยาบาลสนามที่ได้รับอยู่ ซึ่งมีประมาณร้อยละ 15 ส่วนผู้ป่วยสีแดงให้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลหลัก ซึ่งมีอยู่ประมาณ ร้อยละ5

ทั้งนี้ นายแพทย์พฤหัส ขอเรียกร้องขอให้กรมควบคุมโรค จัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ตามรายชื่อของโรงพยาบาล ซึ่งประเมินแล้ว่า บุคคลใดจะได้วัคซีนเข็ม 3 ที่ภาครัฐสามารถตรวจสอบได้อยู่แล้ว จึงเรียกร้องให้รัฐบริหารจัดการให้เหมือนกันทั่วประเทศ