กัมพูชาปิดชายแดนสกัดเชื้อโรค หลังแรงงานทะลักหนีโควิดไทย

หลังจาก ศบค.สั่งขยายเวลาล็อคดาวน์ และให้ยกระดับพื้นที่สีแดงเข้ม จาก 13 เป็น 29 จังหวัด จนสถานประกอบการหลายแห่งต้องปิดกิจการชั่วคราว ทำให้มีแรงงานจากประเทศเพื่อนบ้านต้องการกลับประเทศ

โดยเฉพาะที่ชายแดน จ.สระแก้ว ในช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานพบทั้งคนไทยและชาวกัมพูชาหลายร้อยคน พยายามลักลอบข้ามแดนผ่านขบวนการนายหน้า แต่สุดท้ายไปไม่รอด ถูกจับดำเนินคดี-ถูกกักตัวห้ามเคลื่อนย้าย หลังจากรัฐบาลกัมพูชา ประกาศปิดชายแดนชั่วคราวเพื่อควบคุมการระบาด

165 กิโลเมตร ตลอดแนวชายแดน จ.สระแก้ว การจับกุมเกิดขึ้นเป็นระยะ โดยเฉพาะในช่วง 1-2 สัปดาห์ที่ผ่านมา พบแรงงานทะลักมาที่ชายแดนต่อเนื่อง เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกองกำลังบูรพา ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ต้องช่วยกันตรึงกำลังสกัดกั้นทุกรูปแบบ

กลุ่มลักลอบส่วนใหญ่มักจะอาศัยความมืด ในช่วงดึกและตอนใกล้รุ่งสาง เคลื่อนผ่านไปอย่างเงียบ ๆ การวางกำลังดักซุ่ม จึงเป็นอีกหนึ่งยุทธวิธี ที่นำมาใช้จับความเคลื่อนไหวกลุ่มเป้าหมาย ด้วยลักษณะเป็นพื้นราบ อำเภอโคกสูง จึงเป็นอีกหนึ่งจุดที่ชุดดักซุ่มของตชด.ดักจับและส่งตัวดำเนินคดีได้ทุกวัน

การจับกุมที่ผ่านมา พบทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ ล่าสุด พบว่ามีคนจีน และมาเลเซีย รวมอยู่ด้วย ทั้งหมดรับสารภาพ ต้องการข้ามไปทำงานที่กัมพูชา ส่วนใหญ่เป็นงานประเภทบ่อนหรือพนันออนไลน์ โดยผ่านขบวนการนายหน้า คิดค่าจ้างพาข้าม ราคาเริ่มต้นคนละหมื่นสาม ไปจนถึง 2 หมื่นบาท แบ่งจ่ายเป็นค่านายหน้า และยานพาหนะ ขณะที่บางคนยอมรับว่า นายจ้างเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้

ส่วนชาวกัมพูชา ที่ทะลักมาถึงชายแดนและหวังว่าจะได้กลับประเทศ ทีมข่าวพบว่าขณะนี้มีแรงงานกว่า 200 คน ถูกกักตัวอยู่ในค่ายพักคอยชั่วคราว บริเวณหน้าด่านชายแดน ในพื้นที่อ.ตาพระยา ทั้งหมดถูกสั่งห้ามเคลื่อนย้าย จนกว่ารัฐบาลกัมพูชาจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จากมาตรการปิดพรมแดนควบคุมการระบาด ตรวจเชิงรุก พบมีบางส่วนติดเชื้อ และถูกแยกตัวออกไปรักษาแล้ว

นายเกียรติศักดิ์ จันทรา ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว บอกว่า เบื้องต้นได้ประสานกับฝ่ายกัมพูชา ช่วยกันสอดส่องและเฝ้าระวัง เป้าหมายคือป้องกันการเคลื่อนย้ายของแรงงาน ซึ่งสุ่มเสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ จึงฝากเตือนไปยังคนไทยและชาวกัมพูชา ขอให้หยุดพฤติกรรมนี้ ยืนยันว่า ขณะนี้ชายแดนคุมเข้ม 100 % และอย่าได้หลงเชื่อคำโฆษณา