สังคม

'อนุทิน' หดหู่เห็นคนรอเตียงที่บ้าน-ตายริมถนน ลุยเองกลางดึก ประสานผู้ป่วยส่ง รพ.

โดย thichaphat_d

23 ก.ค. 2564

385 views

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ขณะไปตรวจเยี่ยมที่โรงพยาบาลบุษราคัม อาคารอิมแพคชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี ในประเด็นการบริหารจัดการผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศ และการจัดการวัคซีนว่า ในส่วนการแก้ปัญหาของผู้ป่วยเกณฑ์สีเขียวที่ยังรอการเข้ารับการรักษา จนบางรายถึงขั้นนอนเสียชีวิตในบ้าน


ปัญหานี้ได้สั่งให้แก้ไขโดยเพิ่มศูนย์พักคอย ที่มีการคุยกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครที่จะต้องเปิดศูนย์ พักคอยให้ได้มากที่สุดและส่วนกระทรวงสาธารณสุข จะเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยของพื้นที่ กทม.ให้ได้มากที่สุด


ส่วนกรณีที่มีผู้นอนเสียชีวิตริมถนน และมีผู้ป่วยตกค้างนอนรอ การช่วยเหลือที่บ้านจนเสียชีวิต นายอนุทิน กล่าวว่า หลังจากนี้สาธารณสุขจะเข้าไปทำงานร่วมกับส่วนของ กทม. ซึ่งวันนี้ก็ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลบุษราคัมเพื่อหารือกับผู้อำนวยการ ในการแก้ปัญหาขอให้มีการเพิ่มเตียงเพื่อรองรับผู้ป่วยในยามฉุกเฉินให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้ในแต่ละวัน


นายอนุทิน กล่าวว่า ขณะนี้โรงพยาบาลบุษราคัมรับผู้ป่วยค่อนข้างมาก อัตราการครองเตียงมากกว่าร้อยละ 95 โดยในแต่ละวันจะมีผู้ป่วยหายกลับบ้านได้ ทำให้สามารถหมุนเวียนรับผู้ป่วยใหม่เข้าระบบรักษาอย่างต่อเนื่อง


ล่าสุดวานนี้ได้สั่งการให้ขยายพื้นที่ในโซนพักผ่อน เพิ่มจำนวนเตียงให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อรองรับผู้ป่วยรายใหม่ในแต่ละวันจากการค้นหาเชิงรุกใน กทม. อย่างน้อยมีเตียงหมุนเวียน 50-100 เตียง เพื่อลดปัญหาการรอเตียง และการเข้าไม่ถึงระบบบริการ รวมถึงลดการสูญเสียในบ้าน ช่วยแบ่งเบาภาระให้ได้มากที่สุด


พร้อมกับประสาน หน่วยการแพทย์ฉุกเฉินนำรถตู้เตรียมพร้อมตลอดเวลาเพื่อออกไปรับประชาชนประสานขอความช่วยเหลือเข้ามา 24 ชั่วโมงและเพิ่มเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ออกปฏิบัติงานในช่วงเคอร์ฟิว ปล่อยรถออกให้ได้มากที่สุด และให้พาผู้ป่วยที่อยู่ริมถนน อยู่ในบ้าน หาเตียงไม่ได้ หรืออยู่ในสภาพที่สิทธิของพวกเขาไม่ควรจะอยู่แบบนั้น ให้พาตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลบุษราคัม โดยข้ามขั้นตอนการสอบสวนโรค หากอาการไม่หนักมากจะให้แยกตัวไปที่ศูนย์พักคอยหรือโรงพยาบาลอื่นๆ แต่ถ้าหากติดเชื้อแล้วจะรักษาที่โรงพยาบาลบุษราคัมต่อเนื่อง การที่มีชุดตรวจ rapid antigent test จะช่วยคัดกรอง และสามารถรักษาได้เร็วขึ้น


นายอนุทินกล่าวว่ายืนยันว่าจะทำเต็มที่เพราะสั่งการไปหมดแล้ว ทีมบุคลากรทุกคนวันนี้ต้องคอยติดตาม ล็อกดาวน์ทั้งทีต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด


ส่วนข้อสั่งการ ของนายกรัฐมนตรีที่บอกว่า จะไม่ให้มีผู้เสียชีวิตที่บ้านอีกแล้วนั้น นายอนุทินกล่าวว่า "ผมส่งไปในไลน์ ของผมไปให้ ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขถ่ายทุกรูปที่เราไม่อยากเห็น บอกผู้บริหารกระทรวงทุกคนว่าไม่ว่าจะเกิดใน กทม. ห้ามพูดว่าเป็นพื้นที่ของกทม.ไม่ใช่ของกระทรวงสาธารณสุข ใครป่วยให้ไปอุ้มมาให้หมด เข้าไปในบุษราคัม"


นอกจากนี้นายอนุทินยังกล่าวอีกว่า "เดี๋ยวอีกคืนสองคืนได้ประสานไว้แล้ว ผมออกเองก็ได้ ผมจะเอาชุด PPE ใส่ ถ้าฟังแต่รายงานมีจริงบ้างเท็จบ้างทำให้ไม่รู้ข้อมูล ทำให้ต้องดำเนินการ ออกด้วยตัวเองและจะทำเท่าที่ทำได้"


อย่างไรก็ตามเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงภาพตามโซเชียลของคนที่นอนริมถนน นายอนุทินส่ายหน้าและกล่าวว่า ทนไม่ได้ที่จะต้องเห็นภาพแบบนั้น


ส่วนที่เปิดให้ฉีดวัคซีนจะเปิดให้กับกลุ่มเปราะบาง และเสี่ยงต่อโรค เพื่อที่จะรักษาชีวิตภายใน 1 เดือนนี้ต้องให้กลุ่มผู้สูงอายุได้รับวัคซีนมากที่สุดแม้การระบาดจะไม่ลดลงมาก แต่ยอดผู้เสียชีวิตจะต้องลดลง


ส่วนเรื่องวัคซีนที่มีเข้ามาในประเทศไทยนั้นเข้ามาเดือนละ 10 ล้านโดสกระจายฉีดเต็มที่ไม่มีหยุด ซึ่งตั้งเป้า ว่าหากฉีดวัคซีนให้กับประชาชนได้เดือนละ 10 ล้านโดส เชื่อว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะดีขึ้น ในประเด็นการนำเข้าวัคซีนซิโนแวคมากกว่าชนิดอื่น


นายอนุทินอธิบาย ว่าวัคซีนดังกล่าวมีการศึกษาจากทั้งองค์กร WHO และ โคแวกซ์เองสั่งซื้อไป 380 ล้านโดส รวมถึงประเทศจีนมีการใช้ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม และประเทศไทยใช้ซิโนแวค ควบคู่กับแอสตราเซเนกา และสิ้นเดือนนี้ ไฟเซอร์อีก 1.5 ล้านโดส จะเข้ามาในประเทศและจะนำมาใช้ให้เต็มที่และเกิดประโยชน์ "เรามีมากเกินไปก็ไม่ได้ มีน้อยเกินไปก็ไม่ได้ จึงมีให้พอดี" นายอนุทินกล่าว


ส่วนวัคซีนแอสตราเซเนกา ยังยืนยันว่าการจัดส่งเป็นไปตามสัญญาตามปกติ ตามสัญญาแล้ว มีการตกลงกันทุกเดือนเป็นรายเดือน ในสัญญาระบุว่าต้องรักษาความลับถ้าจะเปิดเผยต้องได้รับการยินยอมทั้งสองฝ่าย ตามที่ฝ่ายค้านเรียกร้องให้เปิดเผยสัญญาจึงทำไม่ได้ ส่วนเรื่องกระบวนการจัดซื้อให้จบที่กรมควบคุมโรคไม่ต้องมาถึงตนเอง เพราะทำได้แค่อนุมัติงบจาก ครม.


ทั้งนี้จากกรณีการเปรียบเทียบคำพูดของตนที่เปลี่ยนแปลงไปมา จนมองว่าเป็นคนพูดกลับไปกลับมา นายอนุทิน กล่าวว่า สถานการณ์แต่ละครั้งไม่เหมือนกัน ถ้าดูเดือนกันยายนปีที่แล้ว หน้าตาตนก็ไม่เครียดเหมือนตอนนี้ เพราะคนติดเชื้อน้อย ทุกอย่างควบคุมได้หมดแต่วันนี้มียอดคนติดเชื้อหมื่นกว่าคนทุกวัน ก็ต้องใช้อีกวิธีหนึ่ง จะเหมือนกันทุกวันไม่ได้ "การที่พูดอะไรไปก็พูดในสถานการณ์นั้นๆ ในวันนั้นๆ แต่สิ่งที่ได้จัดการไว้คือมีวัคซีนตรงตามเวลา"


นายอนุทินย้ำว่า ตอนนี้ทางอเมริกาก็ส่งวัคซีนมาช่วยประเทศไทยแล้วคือไฟเซอร์ 1.5ล้านโดส และปีหน้าจะมีการจัดซื้ออีก 120 ล้านโดส ส่วนวัคซีนไฟเซอร์ที่ลงนามสัญญาร่วมกันยืนยันว่าจะมีการเข้ามาไตรมาส 4 ของปี


ต่อมา เมื่อเวลา 21.30 น. นายอนุทิน ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยโควิด-19 บริเวณชุมชนนางลิ้นจี่ ซอย 2 ชุมชนพัฒนาสิน โดยสวมชุด PPE เข้าไปตรวจสภาพความเป็นอยู่ การให้การรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่ยังไม่มีอาการมาก ส่วนผู้ป่วยมีอาการ ได้ประสานจัดนำส่งโรงพยาบาล โรงพยาบาลสนาม และศูนย์พักคอยทันที


ทั้งนี้ เพื่อไม่ให้ประชาชนต้องทุกข์ทรมานเพียงลำพัง หรือเกิดเหตุสะเทือนใจหากมีผู้เสียชีวิตตามพื้นที่ท้องถนน ตามที่ปรากฏก่อนหน้านี้


รองนายกฯยังจะเดินหน้าเยี่ยมตรวจหาผู้ป่วยในพื้นที่ชุมชนทุกวัน สำหรับในวันนี้มีผู้ป่วยได้รับการนำตัวส่งโรงพยาบาล 4 ราย



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/dbPfCC8ARDo

คุณอาจสนใจ

Related News