เจ้าของธุรกิจรับอุปการะครอบครัวพ่อค้าปลาหมึก ตร.เร่งสืบหาแก๊งหลอกขายรถซ้ำเติมคนลำบาก

ตำรวจวังน้อย เร่งสืบหาแก๊งหลอกขายรถพ่อค้าปลาหมึกย่าง ซ้ำเติมคนลำบากหวิดเกิดเรื่องเศร้าภรรยาเผยสามีอาการดีขึ้น โทรศัพท์มาหาบอกคิดถึงลูก ยังคงร้องไห้และเครียดหนัก

จากคลิปพ่อค้าปลาหมึก ประกาศหาคนอุปการะลูกสาว 2 คน พร้อมตัดพ้อชีวิตหลังเจอพิษโควิด จนอยู่สู้ไม่ไหวแล้ว พยายามดิ้นรนทำทุกอย่างแล้ว จากนั้นไม่นานชายคนนี้ก็ถูกยึดรถ ทำให้คิดสั้นกินยาเกินขนาดจนต้องหามส่งโรงพยาบาล

โดยนางเบญจวรรณ อายุ 34 ปี ภรรยาของนายชัยวัฒน์ อายุ 33 ปี พ่อค้าปลาหมึกย่าง บอกว่า ที่สามีคิดสั้น เพราะนำรถกระบะที่เช่าซื้อมาเพื่อใช้รับจ้างส่งของไปขาย หวังได้เงินก้อนมาลงทุนขายปลาหมึก และซื้อรถมือสองราคาถูกมาใช้ สุดท้ายกลับถูกมิจฉาชีพหลอกขาย แล้วตามมาทวงรถคืน ทำให้ไม่เหลืออะไรแล้ว เหลือแต่หนี้ หนำซ้ำรถที่เอาไปขายเป็นชื่อของพี่ชายสามี ทำให้เครียดหนัก

เมื่อวานนี้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เข้ามาเก็บข้อมูลเพื่อช่วยเหลือครอบครัวนี้แล้ว และยังมีคณะครูโรงเรียนวัดมณฑล นำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภค มามอบให้เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้น รวมถึงรายการเรื่องเล่าเช้านี้ ก็ได้มอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 30,000 บาทด้วย

นอกจากนี้ พลเมืองดีซึ่งเป็นเจ้าของธุรกิจนำเข้าเสื้อผ้าแฟชั่นจากต่างประเทศ ที่เข้าช่วยเหลือนำนายชัยวัฒน์ส่งโรงพยาบาล เตรียมรับนายชัยวัฒน์ และภรรยา เข้าทำงานที่โรงงาน พร้อมรับลูกสาวทั้ง 2 คน ให้เรียนที่โรงเรียนใกล้สำนักงาน เพื่อให้ครอบครัวได้อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตา

ซึ่งนางเบญจวรรณได้ขอบคุณทุกคนที่ช่วยเหลือครอบครัว ด้านน้องยิ้ม ลูกสาวคนเล็กวัย 8 ขวบ เล่าว่า ก่อนหน้านี้แม่เครียดมาก ตอนที่พ่อกินยาเกินขนาด แม่ห้ามเปิดบ้าน ห้ามรับโทรศัพท์ เอานั่งแต่ร้องไห้ ถ้าไม่มีใครมาช่วยวันนี้ แม่คงจะกินยาฆ่าตัวตาย น้องยิ้มอยากอยู่กับพ่อกับแม่ ไม่อยากจากกันไปไหน หนูอยากให้แม่สู้กับหนู เดี๋ยวเราก็ผ่านพ้นไปด้วยกัน หนูยังไม่อยากให้พ่อกับแม่จากหนูไป หนูอยากเรียนจบปริญญาและอยู่กับพ่อกับแม่

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านของคุณเบญจวรรณอีกครั้ง พบบ้านปิดเงียบ จึงติดต่อไปสอบถาม ทราบว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เมื่อช่วงเช้าสามีโทรศัพท์มาหา และยังเอาแต่ร้องไห้ บอกว่า เครียดมาก ๆ อยากเจอตนกับลูก แต่หมอไม่ให้เยี่ยม ซึ่งตนก็กำลังเดินทางไปโรงพยาบาลที่ปทุมธานี เพื่อขอหมอขอเข้าไปเยี่ยมสามี เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟัง ส่วนตัวเองแม้จะมีความช่วยเหลือเข้ามา แต่ก็ยังเครียดอยู่

โดยบอกว่า ที่เป็นหนี้นอกระบบ ไม่ได้ติดใจอะไร เพราะเงินที่ไปยืมมาไม่ใช่นายทุน เป็นเพื่อนสนิทกัน ที่เข้ามาช่วยกันตอนเดือดร้อน ไม่ต้องการเสียเพื่อน แต่ที่กังวลใจมากที่สุด คือ เรื่องนำชื่อของพี่ชายสามีไปเช่าซื้อรถ ก็จะใช้หนี้ให้ครบ ไม่ให้พี่เขาเดือดร้อนรา แต่กลัวพี่เขาไม่เข้าใจ พี่ชายสามีเป็นคนใจร้อน กลัวว่าจะทะเลาะกันอีกเท่านั้น

นายเอกรินทร์ ทัพเที่ยง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลวังน้อย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เผยว่า ตำรวจ สภ.วังน้อย ได้ลงพื้นที่เก็บข้อมูลแก๊งต้มตุ๋นหลอกขายรถหลุดจำนำ ให้กับนางเบญจวรรณ พร้อมเชิดเงินไปกว่า 55,000 บาท เบื้องต้นได้ชื่อเพจที่โฆษณาหลอกขายรถแล้ว ตำรวจกำลังตามตัวมาสอบสวนเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

นอกจากนี้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเข้ามาช่วยเหลือเรื่องข้อกฏหมายและการถูกเอาเปรียบ อีกทาง ซึ่งในช่วงบ่ายวันนี้รองผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะเดินทางมาเยี่ยมครอบครัว เพื่อวางแนวทางการช่วยเหลืออีกทาง