เปิดไทม์ไลน์ 'น้องปลื้ม' ถูกรุ่นพี่อุเทนถวายซ้อมดับ แฉมี 'ชุดเตะ' ไว้ซ่อมรุ่นน้อง หมอพบร่องรอยทำ CPR ผิดวิธี

ตำรวจเปิดไทม์ไลน์ การเสียชีวิตของ "ปลื้ม" บอกคดีนี้มีผู้ต้องหา 2 กลุ่ม คือ ผู้สั่งการและผู้ลงมือ คาดจะสรุปคดีได้เร็วๆ นี้ สอดคล้องกับคำให้การของเพื่อน ที่บอกว่าจะมี "ชุดเตะ" ไว้ซ่อมรุ่นน้อง

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พนักงานสอบสวน สน.ปทุมวัน ชี้แจงว่า 27 พฤษภาคม ปลื้ม ไปร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย แล้วโดนทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาตัวที่ห้อง ICU โรงพยาบาลหัวเฉียว

-30 พฤษภาคม พี่ชายมาแจ้งความว่า ปลื้มโดนทำร้าย เพราะไปร่วมกิจกรรมของมหาวิทยาลัย

-2 มิถุนายน ย้ายปลื้มไปรักษาตัวที่ โรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครราชสีมา

-3 มิถุนายน อาจารย์จากมหาวิทยาลัยฯ ลงบันทึกประจำวัน กรณีมีนักศึกษาเข้าไปใช้สถานที่โดยไม่ได้รับอนุญาต

-5 มิถุนายน ปลื้ม เสียชีวิต แพทย์ระบุว่า ลิ่มเลือดที่น่องหลุดไปอุดตันเส้นเลือดขั้วปอด

พลตำรวจตรี ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยว่า คดีนี้ตำรวจพบผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทำให้ นาย วีรพัฒน์ เสียชีวิต 2 กลุ่ม คือ กลุ่มคนที่เข้าไปรุมทำร้ายประมาณ 6-7 คน และผู้สั่งการ ซึ่งทั้งหมดเป็นรุ่นพี่ชั้นปีที่ 2 ตอนนี้ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์มือถือ โดยเฉพาะข้อความสนทนาทางไลน์ เพื่อระบุตัวผู้กระทำความผิดให้ชัดเจน

ก่อนพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหา ฐานร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตายโดยเจตนา ซึ่งมีอัตราโทษสูงสุด คือจำคุกตลอดชีวิต พร้อมยืนยันว่า คดีนี้ไม่มีอะไรน่าหนักใจ แม้ว่าในที่เกิดเหตุจะไม่มีกล้องวงจรปิด แต่ก็มีพยานที่อยู่ในเหตุการณ์กว่า 30-40 คน ที่สามารถชี้ตัวได้ว่าใครทำอะไรในเหตุการณ์ดังกล่าว

สอดคล้องกับข้อมูลของเพื่อนปลื้ม ที่เปิดเผยกับทีมข่าวทางโทรศัพท์ว่า มีรุ่นพี่ 12 คน ที่อยู่ตอนเกิดเหตุ แต่ไม่ใช่ทุกคนที่ทำร้าย เพราะจะมี "ชุดเตะ" โดยเฉพาะประมาณ 6-7 คน ไว้ซ่อมรุ่นน้อง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุทำร้ายรุ่นน้องแบบนี้ หลายคนต้องลาออก เพราะทนไม่ไหว แต่บางคนต้องทนเพราะไม่มีเงินไปเรียนที่อื่น พร้อมยอมรับว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่มีใครรับได้ เป็นการใช้ความรุนแรงเกินกว่าเหตุ

ทีมข่าวเดินทางไปที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออกอุเทนถวาย ปรากฎว่า อยู่ระหว่างการปิดภาคเรียน ประจำปีการศึกษา 2564 พบเพียงเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณประตูทางเข้า-ออกเท่านั้น ไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้าไป ยกเว้นเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัยบางส่วนที่ต้องมาทำงาน

ซึ่งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ให้ข้อมูลกับทีมข่าวว่าขณะนี้มหาวิทยาลัยอยู่ในระหว่างปิดภาคเรียน จึงไม่มีนักศึกษาเดินทางมายังมหาวิทยาลัย มีเพียงเจ้าหน้าที่บางส่วนเท่านั้นที่มาทำงาน นอกนั้นอยู่ระหว่างการ Work From Home ส่วนเหตุการณ์ที่มีนักศึกษาเข้ามาจัดกิจกรรมในช่วงปิดภาคเรียนนั้นต้องให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเป็นผู้ชี้แจง

และในวันนี้ตำรวจได้นัดให้ตัวแทนมหาวิทยาลัยนำ พยานหลักฐาน เช่น ภาพจากกล้องวงจรปิดในวันเกิดเหตุ ตอนที่กลุ่มรุ่นพี่ 5 - 6 คน พยายามนำตัวผู้เสียชีวิต ออกจากอาคาร เพื่อไปส่งโรงพยาบาล ไปมอบให้กับพนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน รวมทั้งให้การเพิ่มเติมด้วย