สังคม

ทลายแก๊งปล่อยกู้โหด ปรับกลยุทธ์ "ทวงหนี้แบบ WFH" ตั้งฐานชายแดนไทย-เมียนมา

โดย pattraporn_a

3 มิ.ย. 2564

52 views

ศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบและตำรวจปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทาง เศรษฐกิจหรือ ปอศ.ตามล่าขบวนการปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยสูงจากกรุงเทพฯ ไปยังดอยแม่สลอง จ.เชียงราย โดยมีวิธีการหลบเลี่ยงเจ้าหน้าที่ ด้วยการอบรมลูกจ้างถึงวิธีการทวงหนี้ และมอบหมายงานให้ทวงหนี้แบบWork from home ได้ ทำให้ยากแก่การจับกุม


ตำรวจเข้าตรวจค้นพบว่าไม่ใช่รับทำงานบริษัททั่วไป แต่เป็นบริษัททวงหนี้โหด รับงานมาจากหัวหน้าขบวนการให้มาทำที่บ้านตามมาตรการ work from home โดยมีคัมภีร์ทวงหนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อตำรวจ ปอศ.ต้องสืบหาคนร้าย ที่กระจัดกระจายทำงาน ทวงหนี้ในบ้านของตัวเอง ทั้งที่รูปแบบสมัยก่อนจะเช่าออฟฟิศสำนักงานอยู่ในเมือง ทำให้จับได้ครบตั้งแต่หัวหน้าขบวนการไปจนถึงลูกจ้าง


แต่เมือถูกกวาดล้างอย่างหนักจากในกรุงเทพฯ และปริมณฑล แก๊งปล่อยเงินกู้โหดก็หนีขึ้นดอย ไปตั้งฐานอยู่ตะเข็บชายแดน ตำรวจวางแผนสืบทราบ จนกระทั่งได้เบาะแสว่าหัวหน้าขบวนการ ขึ้นไปอยู่บนดอยแม่สลอง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย แต่การเข้าตรวจค้นต้องวางแผนอย่างรัดกุม เพราะเป็นพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากเป็นพื้นที่เส้นทางขบวนการยาเสพติดด้วย อาจเกิดการปะทะกับเครือข่ายยาเสพติดได้


เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้น บ้านหลังหนึ่งบนดอยแม่สลอง พบ นายอนุวัตร หรือไทยฝา อายุ 32 ปี เป็นผู้จัดการบริษัท ให้การว่าเคยทำงานให้กับแก๊งปล่อยเงินกู้ของคนจีน จึงเช่าแอปพลิเคชั่น เดือนละ 1.5 แสนบาท มาทำกิจการเอง ช่วงนี้คนเดือดร้อนมาก จึงมีลูกหนี้ทั่วประเทศ โดยไม่ต้องมีหลักค้ำประกัน


ตำรวจจับผู้ต้องหาทั้งหมดจาก จ.เชียงราย มาสอบสวนที่กรุงเทพฯ พร้อมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคระหว่างการควบคุมตัวด้วย


ขณะที่ พ.ต.อ.ภาดล จิตรดอน หัวหน้าชุดปฏิบัติการระบุว่าผู้ร่วมกระทำผิดมีจำนวนมาก แต่เนื่องจากคนร้ายใช้วิธี work from home มีการพูดข่มขู่หากไม่ใช้หนี้จะทำร้ายร่างกาย จึงจะออกหมายจับให้ครบทุกคน


พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อม พล.ต.อ.ปิยะ อุทาโย ในฐานะหัวหน้าศูนย์ปราบปรามหนี้นอกระบบ กล่าวว่าแก๊งปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยโหด ทำเหมือนปล่อยเงินกู้โดยง่าย แต่แท้จริงแล้วผู้กู้ไม่สามารถหาดอกเบี้ยมาผ่อนได้เมื่อตรวจเช็คบัญชี พบว่ามีมากกว่า 60 บัญชีเงินหมุนเวียนกว่า 200 ล้านบาท


ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่พบมีลูกหนี้กว่า 30,000 คน มีลูกจ้างรับทวงหนี้กว่า 100 คน มีแอปฯ ทวงหนี้ร่วม 21 แอปฯ ซึ่งเมื่อถูกจับกุมก็จะหาวิธีการเปิดบริษัทใหม่ เนื่องจากดอกเบี้ยสูง และอยู่ในช่วงที่คนขาดรายได้จำยอมต้องกู้เงิน

คุณอาจสนใจ

Related News