ผอ.โรงพยาบาลสงฆ์ แจงปมพระสงฆ์ร้องเข้าไม่ถึงวัคซีน ชี้ต้องมีต้นสังกัดรับรองชัดเจน

ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ ยืนยันว่าพระทุกรูปสามารถฉีดวัคซีนได้จริงตามสิทธิ แต่ต้องมีสังกัดรับรองที่แน่ชัดทั้งพระไทยและต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศ

พื้นที่ภายในโรงพยาบาลสงฆ์ถูกแบ่งเป็นสัดส่วนเพื่อปรับเป็นพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนสำหรับพระภิกษุสงฆ์โดยเฉพาะ เพื่อความสะดวกและสอดคล้องตามหลักพระธรรมวินัย

ซึ่งพระสงฆ์เป็นกลุ่มเสี่ยงกลุ่มหนึ่งที่มีโอกาสสัมผัสสูงจากการบิณฑบาตในทุกเช้า ตามกิจวัตร และจากสถานการณ์การติดเชื้อโควิด 19 ตลอด 1 ปี 5 เดือนที่มา มีพระสงฆ์ติดเชื้อแล้วกว่า 30 รูป

ขณะที่ปัจจุบันกรุงเทพมหานครกลายเป็นพื้นที่สีแดงเข้มที่มีการระบาดหนักในผู้ป่วยจำนวนกว่า 1 พันคนต่อวัน ซึ่งมีพระสงฆ์ในทะเบียนของมหาเถระสมาคมเกือบ 3 แสนรูป เฉพาะในกรุงเทพมหานคร เกือบ 2 หมื่นรูป ในทุกนิกาย

ขณะที่ปัญหาปัจจุบันแม้ทางโรงพยาบาลจะจัดให้บริการฉีดวัคซีนแด่พระภิกษุสงฆ์และสามเณรตั้งแต่อายุ 18 ปีขึ้นไป แต่ก็มีปัญหาไม่สามารถฉีดให้กับกลุ่มพระสงฆ์ไทยหรือต่างชาติที่ธุดงค์ หรือ ท่องเที่ยวไปมา โดยไม่มีสังกัดรับรองได้ ตามเงื่อนไขที่มหาเถรสมาคมกำหนดไว้ เพื่อเป็นการรับรองสิทธิของพระสงฆ์ในราชอาณาจักรไทย

ดังนั้นพระสงฆ์ที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีนจำเป็นต้องมีหลักฐานสำคัญ 2 อย่าง คือ เลขประจำตัวพระสงฆ์ 13 หลัก หรือ ใบสุทธิ และ เอกสารรับรองจากต้นสังกัดที่ออกโดยเจ้าคณะ

แม้จะเป็นพระต่างชาติ แต่หากเป็นอาคันตุกะ ที่ได้รับเชิญอย่างเป็นทางการ เช่น พระต่างชาติที่เข้ามาศึกษา ก็สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ได้ หากไม่เจ้าข่ายกรณีนี้จะถือเป็นบุคคลธรรมดา หรือ ต่างด้าว

โดย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสงฆ์ ระบุว่า เป็นแนวทางการกำกับดูแลจากคณะกรรมการสงฆ์จากมหาเถระสมาคม ที่เป็นผู้วินิจฉัยและอนุญาต

สำหรับพระสงฆ์ที่มีความประสงค์จะฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 สามารถลงทะเบียนได้ผ่านหมายเลขของโรงพยาบาล 02640-9537 หรือ 086-415-5986 โดยจะต้องตรงเป็นกลุ่มเสี่ยงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่มโรคเสี่ยง และอยู่ในพื้นที่การระบาดสูงสุด หรือ พื้นที่สีแดงเข้ม

ทั้งนี้  ล่าสุดมีพระสงฆ์เข้ารับการฉีดวัคซีนแล้วกว่า 5,000 รูป