นายอำเภอเขาย้อย วอนนำผู้ติดเชื้อรักษาที่รพ. พร้อมเร่งแก้ปัญหาขาดแคลนอาหารในสถานกักตัว

คลัสเตอร์ใหญ่โรงงานแคลคอมพ์ ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อโควิดพุ่งทะลุ 3,500 กว่ารายแล้ว ด้านนายอำเภอวอนให้นำผู้ติดเชื้อไปรักษาโดยเร็ว

โดยมีข้อมูลล่าสุด มียอดผู้ติดเชื้อใหม่ รวม 669 ราย ทำให้ตอนนี้มียอดสะสมผู้ติดเชื้อโควิด เฉพาะที่โรงงานแคลคอมพ์ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี พุ่งทะลุ 3,500 กว่าราย จากยอดผู้ติดเชื้อคาดว่า มีจะแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และจะขยายวงเพิ่มเติมอีกจำนวนมาก

ส่วนบรรยากาศรอบโรงงาน โดยในพื้นที่ชุมชนบ้านกล้วย หมู่ 5 ตำบลบางเค็ม อำเภอเขาย้อย ซึ่งเป็นพื้นที่พักอาศัยส่วนใหญ่ของกลุ่มแรงงานพม่า มีทั้งตลาดสด ซุปเปอร์มาเก็ต ร้านค้าสะดวกซื้อต่างๆ เป็นไปอย่างเงียบเหงา บรรดาพ่อค้า แม่ค้า ต่างปิดร้านกันเงียบ ไม่มีกลุ่มแรงงานพม่ามาออกมาจากที่พักอาศัย เพราะเกรงว่าจะติดเชื้อเพิ่ม และไม่ปลอดภัย

ขณะที่ชาวบ้านในพื้นที่ยังรวมตัวตั้งด่าน หลังพบมีแรงงานพยายามหลบหนีออกจากพื้นที่หลายราย ทั้งที่มีคำสั่งล็อกพื้นที่ ต.สระพัง และ ต.บางเค็ม ห้ามพนักงานบริษัท ทั้งแรงงานไทย และต่างด้าว ออกนอกที่พัก รวมถึงห้ามเคลื่อนย้ายแรงงาน

ทั้งนี้ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบุรี และสำนักงานควบคุมโรงติดต่อยังคงเดินหน้านำรถมาดำเนินการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่โรงพยาบาลสนาม ที่ตั้งอยู่ในโรงงาน และพื้นที่ชุมชนโดยรอบ รวมถึงเร่งจัดตั้งโรงพยาบาลสนามในโรงงานเพิ่มอีก

ขณะที่ นางวิพร แววศรีผ่อง นายอำเภอเขาย้อย ออกมาวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำผู้ป่วยโควิดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามให้ได้เร็วที่สุด พร้อมระบุ มีความเป็นห่วงที่ผู้ติดเชื้อบางส่วนในอำเภอเขาย้อย ที่รอหลายวันแล้ว แต่ยังไม่ได้นำตัวเข้าไปรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงเร่งประสานจัดส่งอาหารให้กับคนที่กักตัว ซึ่งยังมีอีกหลายคนยังไม่ได้รับอาหาร

โรงงานแห่งนี้ ถือเป็นโรงงานขนาดใหญ่มีคนงานกว่า 10,000 คน เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่น่าจับตา เพราะพบว่า เมื่อโรงงานถูกปิดกลุ่มแรงงานพม่า เริ่มแอบทะยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ยังพื้นที่ใกล้เคียง เช่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดลุกลามเข้าไปพื้นที่ในหลายชุมชน โดยเฉพาะอำเภอหัวหิน เป็นเหตุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต้องตั้งด่านสกัด ห้ามคนจากโรงงานดังกล่าวเข้าพื้นที่ และขอความร่วมมือให้ประชาชนคอยเป็นหูเป็นตาเพิ่มความระมัดระวังตัวเอง

ทั้งนี้ ชาวเพชรบุรี เริ่มตั้งคำถามถึงการทำงานที่ล่าช้าของผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ในการประสานที่หน่วนที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าไปตรวจเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อ ว่าทำงานล่าช้าไปหรือไม่ และถ้าไม่มีคำสั่งผู้ว่าฯ โรงงานจะไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ในการเข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด จนปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดเช่นนี้

ขณะที่ นายอำเภอเขาย้อย นางวิพร แววศรีผ่อง ออกมาวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้นำผู้ป่วยโควิดเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล หรือโรงพยาบาลสนามให้ได้เร็วที่สุด พร้อมระบุ มีความเป็นห่วงที่ผู้ติดเชื้อบางส่วนในอำเภอเขาย้อย ที่รอหลายวันแล้ว แต่ยังไม่ได้นำตัวเข้าไปรักษาในโรงพยาบาล รวมถึงเร่งประสานจัดส่งอาหารให้กับคนที่กักตัว ซึ่งยังมีอีกหลายคนยังไม่ได้รับอาหาร

โรงงานแห่งนี้ ถือเป็นโรงงานขนาดใหญ่มีคนงานกว่า 10,000 คน เป็นคลัสเตอร์ใหญ่ที่น่าจับตา เพราะพบว่า เมื่อโรงงานถูกปิดกลุ่มแรงงานพม่า เริ่มแอบทะยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ยังพื้นที่ใกล้เคียง เช่น จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำให้เกิดการแพร่ระบาดลุกลามเข้าไปพื้นที่ในหลายชุมชน โดยเฉพาะอำเภอหัวหิน เป็นเหตุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต้องตั้งด่านสกัด ห้ามคนจากโรงงานดังกล่าวเข้าพื้นที่ และขอความร่วมมือให้ประชาชนคอยเป็นหูเป็นตาเพิ่มความระมัดระวังตัวเอง

ทั้งนี้ชาวเพชรบุรี เริ่มตั้งคำถามถึงการทำงานที่ล่าช้าของผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ในการประสานที่หน่วนที่เกี่ยวข้อง ในการเข้าไปตรวจเชิงรุกหาผู้ติดเชื้อ ว่าทำงานล่าช้าไปหรือไม่ และถ้าไม่มีคำสั่งผู้ว่าฯ โรงงานจะไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ ในการเข้าไปตรวจหาเชื้อโควิด จนปล่อยให้เกิดการแพร่ระบาดเช่นนี้