หนุ่มน้อยใจแฟน ดื่มเหล้าย้อมใจ ซิ่งเก๋งแหกโค้ง บอกกู้ภัยช่วยบีบคอให้ตายหน่อย

สมุทรปราการ-หนุ่มน้อยใจแฟน ดื่มเหล้าย้อมใจ ซิ่งเก๋งแหกโค้ง บอกกู้ภัยช่วยบีบคอให้ตายหน่อย

วานนี้ (14 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ รับแจ้งมีเหตุรถยนต์แหกโค้งพังยับ มีผู้บาดเจ็บ ภายในซอยเอแบค บริเวณถนนบางนาตราด ประมาณ กม.27 ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ ที่เกิดเหตุเข้าไปในซอยเอแบค หรือซอยมหาวิทยาลัยอัสสัมชัน ประมาณ 3 กิโลเมตร พบเป็นทางโค้งซ้อนโค้ง คือเป็นทางโค้งติดกันถึง 2 โค้ง ซึ่งคนแถวนั้นรู้ดีว่าจุดนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อย ถ้าขับรถประมาทและใช้ความเร็วสูง

ในที่เกิดเหตุพบรถเจ้าหน้าที่ตำรวจและรถอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ จอดเปิดไฟพร้อมตั้งกรวยยางกำหนดแนวเขตไว้ เมื่อเข้าไปในป่าหญ้าข้างทางโค้งประมาณ 20 เมตร พบรถยนต์ ยี่ห้อนิสสัน รุ่นอเมร่า สีขาว จอดอยู่ในสภาพพังยับเยิน หลังคายุบ ประตูด้านหลังเปิด กระจกแตกทุกบาน กระจกข้างหักห้อยลงมา ถุงลมนิรภัยระเบิดออกมาทั้งหมด กระจังหน้ารถหลุดหาย สภาพไม่เหลือชิ้นดี ส่วนคนเจ็บอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำส่งไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลรวมชัยประชารักษ์บางบ่อ

จากการสอบถาม อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ กล่าวว่า เมื่อมาถึงคนเจ็บได้ออกมาจากตัวรถและนั่งอยู่ข้างรถ ในสภาพคล้ายคนเมาขาดสติ และพูดเพ้อ บอกให้อาสาสมัครฯ ช่วยบีบคอให้เขาตายหน่อย ถ้าเขาตาย เข้าจะบริจาคให้มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เดือนละหนึ่งพันบาท แต่ก็ไม่มีอาสาสมัครฯ คนไหนกล้ารับทำ ได้แต่เพียงพูดคุยปลอบให้ใจเย็นลง และปฐมพยาบาลเบื้องต้น ทำแผลให้

สอบถามผู้บาดเจ็บ นายเจตน์สฤษฎิ์ เชื้อชอบธรรม อายุ 33 ปี เล่าให้กับอาสาสมัครฯ ฟังว่า ตนเป็นคนจังหวัดนนทบุรี ขับรถมาหาแฟนสาว ที่พักอาศัยอยู่แถวนี้ แต่มาแล้วไม่พบและติดต่อไม่ได้ จึงเกิดอาการน้อยใจ เหมือนคนอกหักรักคุด ได้นั่งดื่มสุรา จนมีอาการเมาได้ที่ ก่อนจะขับรถออกมาด้วยความเร็วสูง จนมาเกิดอุบัติเหตุรถแหกโค้งพังยับเยินที่จุดนี้ เมื่อเห็นสภาพรถที่พังยับ ตอนแรกนึกว่าต้องมีคนตายหรือเจ็บหนัก แต่กรณีนี้ถือว่า นายเจตน์สฤษฎิ์ ดวงยังไม่ถึงฆาต ได้รับบาดเจ็บคอเคล็ดเพียงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ต้องรีบส่งไปโรงพยาบาลฯ เพื่อให้แพทย์ทำการตรวจเช็คว่ามีอาการบอบช้ำภายในหรือไม่

จากนั้นผู้สื่อข่าว พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจและ อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งบางบ่อ ได้พากันเดินสำรวจดูจุดเกิดเหตุ ว่าลักษณะของรถวิ่งมาอย่างไร พบเพียงกระจังหน้ารถหล่นอยู่ตรงขอบปูนแบริเออร์เท่านั้น แต่ไม่พบความเสียหายใด ๆ ของทรัพย์สินทางราชการ เช่น เสาไฟฟ้า ขอบปูนแบริเออร์ เสาไฟแสงสว่าง ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน กลับไม่มีร่องรอยของการถูกชน จนกระทั่งเดินมาพบขอบปูนแบริเออร์กั้นทางโค้ง ซึ่งมีลักษณะทำเป็นทางลาด เมื่อเดินเข้ามาดูใกล้ ๆ จึงเห็นร่องรอยของท้องรถคันเกิดเหตุครูดด้านบน เหมือนขอบแบริเออร์เป็นสะพานส่งให้รถบินได้ พุ่งลอยลอดระหว่างเสาไฟฟ้ากับเสาไฟส่องแสงสว่างผ่านไปอย่างหวุดหวิด และเหินไปตกในป่าหญ้าด้านในประมาณ 20 เมตร

สันนิษฐานว่าน่าจะตีลังกาหลังคาฟาดพื้นแล้วพลิกกลับมาอยู่ในสภาพพังยับเยิน อย่างที่เห็น ซึ่งครั้งนี้ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เจ้าของรถดวงยังไม่ถึงฆาต ยมบาล หยุดช่วงสงกรานต์พอดี

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/fprAXarLL2g