จับกุมมิจฉาชีพสวมรอยบัญชีผู้ค้าออนไลน์ หลอกลวงประชาชน นำเงินไปเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จับผู้ต้องหาสวมบัญชีธนาคารของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ที่โพสต์ขายสินค้าในโซเชียล ซึ่งผู้ต้องหารายนี้เพิ่งพ้นโทษในคดีฉ้อโกงสวมรอยโอนเงินได้ไม่นานก็กลับมาก่อเหตุซ้ำ ล่าสุดปลอมแปลงเอกสารของผู้เสียหายอย่างน้อย 2 ราย และนำเงินที่ได้กว่า 1 ล้าน 6 แสนบาทไปเล่นการพนันออนไลน์

จากบุคคล ที่ใช้ชื่อในโซเชียลว่า นายกัน คนเดิม และได้เข้าไปค้นหาชื่อ และเบอร์โทรศัพท์ และหมายเลขบัญชีธนาคารของพ่อค้า แม่ค้าที๋โพสต์ขายสินค้าทางออนไลน์ เมื่อสุ่มชื่อได้เหยื่อจำนวนหนึ่งแล้ว ผู้ต้องหารายนี้จะลงทุนไปจ้างเว็บเพจแห่งหนึ่ง ทำสำเนาบัตรประชาชนของพ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ซึ่งแม้จะไม่เหมือนต้นฉบับ แต่ก็กลายเป็นหลักฐานยืนยันตัวตนของบุคคลได้

และการสวมรอยก็เริ่มขึ้น ด้วยการอ้างเป็นเจ้าของบัญชีโทรศัพท์ไปยัง call center เพื่อถามยอดเงินในบัญชีธนาคาร หากเจ้าของบัญชีเป็นผู้หญิง ผู้ต้องหาก็จะเลียนเสียงเป็นหญิง เพื่อเลือกบัญชีที่มีเงินฝากจำนวนมาก

และเมื่อมีสำเนาบัตรประชาชนปลอมของเหยื่อแล้ว ก็ได้เขียนข้อความมอบอำนาจ ไปติดต่อศูนย์บริการโทรศัพท์ เพื่อออกซิมการ์ดใหม่ เมื่อได้ซิมการ์ดใหม่ ใหม่ในนามของชื่อเหยื่อแล้ว ผู้ต้องหาสวมรอยอีกครั้งโทรศัพท์ไปยัง call center ของธนาคารเพื่อขอรีเซ็ตรหัสผ่านใหม่ หลังจากที่ธนาคารส่งหมายเลขOTPให้แล้ว ผู้ต้องหาได้เข้าแอปออนไลน์ ของธนาคารแห่งหนึ่งและโอนเงินจากบัญชีของเหยื่อจำนวน 1.5 ล้านบาท เข้าบัญชีตนเอง

ตำรวจสืบสวนตรวจคนเข้าเมือง ได้เข้าจับกุม นายจักรกฤษณ์ เรืองอ่อนอายุ 24 ปี ผู้ต้องหารายนี้ ได้ที่ห้องเช่า ใน อ.ปากท่อ จังหวัดราชบุรี พบประวัติว่าเพิ่งพ้นโทษ และมาเป็นมิจฉาชีพแอบอ้างสวมรอยเจ้าของบัญชีโอนเงินเข้าบัญชีตัวเอง และก่อนหน้านี้ เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ก็มีผู้เสียหายร้องเรียนว่าถูกนายจักรกฤษณ์ ผู้ต้องหารายเดียวกัน สวมรอยโอนเงินออกจากบัญชี กว่า1แสน2หมื่นบาท

จากการตรวจสอบประวัตินายจักรกฤษณ์ทำผิดในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ราชบุรี และสมุทรสาคร อย่างต่อเนื่องเมื่อต้องโทษ กลับออกมาก็มาทำผิดใหม่ โดยเงินที่ได้จะนำไปเล่นพนันออนไลน์ ซึ่งเมื่อตรวจค้นก็ไม่พบเงินเหลือเลย

เจ้าหน้าที่ส่งตัวนายจักรกฤษณ์ไปที่ สน.ประเวศ และคาดว่านายจักรกฤษณ์น่าจะหลอกสวมรอยเจ้าของบัญชีธนาคารของพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์หลายราย เจ้าหน้าที่จึงแนะนำว่า พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไม่ควรโพสต์บัตรประชาชนทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ลงในโซเชียลหรือส่งให้กับบุคคลอื่น เพราะเสี่ยงกับคนร้ายสวมรอยโอนเงินได้