สังคม

เสนอตั้งคณะกรรมการอิสระ แก้ปัญหาบางกลอย เรื่องที่ดิน สิทธิชุมชนดั้งเดิม และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

โดย weerawit_c

12 มี.ค. 2564

18 views

คณะกรรมาธิการที่ดินฯสภาผู้แทนราษฎร ลงพื้นที่บ้านบางกลอย รับฟังปัญหาจากชาวบ้านบางกลอย ที่ศาลาพอละจี โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมสังเกตุการณ์และบันทึกภาพการพูดคุยของกรรมาธิการกับชาวบ้านบางกลอย ที่ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่อพยพกลับไป 85 คนและถูกออกหมายจับจับกุมได้ 22 คน และเป็นครอบครัวของผู้ที่อพยพมาตั้งแต่ปี 2539 แต่ยังมีปัญหาที่ทำกิน จึงอพยพกลับไปทำไร่หมุนเวียนที่พื้นที่ของบรรพบุรุษ ซึ่งคณะกรรมาธิการสรุปประเด็นสำคัญที่ได้รับฟังจากชาวบ้าน พบว่า ชุมชนดั้งเดิม ใจแผ่นดิน มีอยู่จริง 



จากหลักฐานแผนที่ทหารเมื่อปี 2455 และหลักฐานต้นไม้ต่างๆที่ชาวบ้านพร้อมนำสืบพยาน และการอพยพชาวบ้านเมื่อปี 2539 ชาวบ้านยินยอมเพราะทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน บอกว่าหากอยู่ที่บางกลอยล่างไม่ได้ให้กลับไปอยู่ที่เดิมได้ และตลอด 25 ปีที่ผ่านมา เคยกลับไปหลายครั้งแต่ก็ถูกจับกุมเหมือนในปี 2554 และชาวบ้านบางส่วนหวังว่าจะได้รับการจัดสรรที่ดิน แต่สุดท้ายยังไม่ได้ บางคนจึงไปรับจ้างทำงาน แต่ก็มีหนี้สิน จึงหวนกลับหาวิถีชีวิตดั้งเดิม ที่ต้องการปลูกข้าวกิน และยืนยันว่าการแผ้วถางเป็นไร่ซากเดิม ไม่ได้ทำลายป่าใหม่ ขณะที่บางส่วนที่อพยพลงมาที่บางกลอยล่าง สามารถปรับตัวได้ แต่ยังมีปัญหาที่ดินและสาธารณูปโภค คณะกรรมาธิการที่ดิน จึงเสนอรัฐบาลให้ตั้งคณะกรรมการอิสระมาแก้ไขปัญหาบางกลอยทั้งระบบ



ส่วนปฏิบัติการจับกุมเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ยังมีการถกเถียงกันเรื่องการใช้ความรุนแรง ที่ทางเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าไม่มีการใช้ความรุนแรง แต่มีการยื้อยุดชาวบ้านที่ขัดขืนบ้าง ขณะที่ชาวบ้านระบุว่า มีการกระชากบางคน แต่ถูกเก็บโทรศัพท์ และถูกลบภาพออกไปทั้งหมด จึงไม่มีหลักฐานมายืนยันได้ คณะกรรมาธิการจึงเตรียมขอหลักฐานภาพถ่ายจากเจ้าหน้าที่ และเห็นว่าในการปฏิบัติการครั้งต่อไปต้องมีสื่อมวลชนร่วมด้วยเพื่อความสุจริตโปร่งใส ซึ่งผู้ใหญ่บ้านบางกลอย ยอมรับว่า ในช่วงต้นของการจับกุมมีการไม่เข้าใจกันมา จึงได้ช่วยเจรจา และยอมรับว่า หนักใจกับปัญหาที่ควรหาคนกลางมาช่วยหาทางออก



นายหน่อแอะ มีมิ ลูกชายปู่คออี้ ที่พิการ เป็นหนึ่งในคนที่ถูกออกหมายจับข้อหาแผ้วถาง บุกรุกป่า ยอมรับว่ากลับไปที่บางกลอยบนเพราะเป็นห่วงลูกหลาน แต่กลับถูกออกหมายจับด้วย ทั้งๆที่ตนเองพิการทำอะไรไม่ได้ จึงหวังแต่เพียงว่าจะได้รับความเป็นธรรม จากการกลับไปบ้านเกิดที่พร้อมพิสูจน์สิทธิ์ว่าอาศัยมาก่อนอุทยาน และยังเป็นห่วงที่เจ้าหน้าที่จะฟ้องแพ่ง ซึ่งชาวบ้านคงไม่รู้จะเอาเงินที่ไหนไปต่อสู้คดี



คณะกรรมาธิการที่ดิน เห็นว่าปัญหาบางกลอยยังขาดความเข้าใจเรื่องการทำไร่หมุนเวียน ที่ชาวบ้านยืนยันว่าไม่ทำลายป่า จึงควรหาองค์ความรู้ที่ชัดเจน และอาจต้องตั้งโจทย์ใหม่ว่า คนอยู่กับป่าได้



ขณะที่ตัวแทนชาวบ้านบางกลอยที่ร่วมชุมนุมกับกลุ่มพีมูฟที่หน้าทำเนียบรัฐบาล ได้ไปยื่นหนังสือถึงคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธณรมและสิทธิมนุษยชน กรณีการควบคุมตัว การบังคับตัดผมผู้ต้องหา และการตรวจดีเอ็นเอ ส่วนกิจกรรมที่หน้าทำเนียบ มีนักกิจกรรมาให้กำลังใจชาวบางกลอยเช่น เฌอเอม ชญาธนุส ศรทัตต์ และสุกัญญา มิเกล มาย้ำถึงความเป็นมนุษย์ที่ทุกชาติพันธุ์มีความเป็นคนเท่ากัน

คุณอาจสนใจ