สังคม

ตร.แจงปมการทำงาน คดีหนุ่มหนีคดีฉ้อโกง ปลิดชีพพร้อมเมีย 2 คน ญาติรับรู้ทุกขั้นตอน ไม่ติดใจ

โดย passamon_a

7 มี.ค. 2564

149 views

เชียงใหม่-ผบช.ภ.5 นำญาติหนุ่มหนีคดีฉ้อโกง ปลิดชีพพร้อมภรรยา 2 คน ร่วมแจงปมการทำงาน ยันญาติรับรู้เจ้าตัวตัดสินใจจบชีวิต


ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยญาติของผู้เสียชีวิต ทั้งผู้ที่ก่อเหตุและภรรยา 2 คน ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำงานล่าช้า และทำตามยุทธวิธีโดยมีญาติรับรู้ทุกขั้นตอนตั้งแต่หลังจากที่มีการขังตัวเองไว้อยู่ในห้องโดยภรรยาทั้งสองคนไม่ได้เป็นตัวประกันแต่ยินยอมที่จะอยู่ด้วยกับผู้ต้องหา ซึ่งมีหลักฐานการส่งข้อความลาตายออกมาก่อนหน้านั้นให้กับทางญาติ


ความคืบหน้ากรณี นายสุเมธ ครองวงศ์ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดพะเยา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาพระโขนงคดีฉ้อโกงหลอกลวงขายทะเบียนรถเลขสวย ขัดขืนการจับกุมและมีอาวุธปืน พร้อมขู่จะฆ่าตัวตาย โดยปิดประตูอยู่กับภรรยาอีก 2 คน ในห้องพักชั้น 3 คอนโดมิเนียมหรูแห่งหนึ่ง ติดกับที่ทำการธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ ตำบลช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่วานก่อนและตลอดคืน กระทั่งเช้าวันที่ 6 มี.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการพิเศษได้ทำการจู่โจมเข้าไปในห้องที่เกิดเหตุ พบว่าทั้ง 3 คน เสียชีวิตแล้ว โดยมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิง


เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 6 มี.ค. ที่สถานีตำรวจภูธรช้างเผือก อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ พลตำรวจโทประจวบ วงศ์สุข ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พร้อมด้วยพลตำรวจตรีวีรชน บุญทวี ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 และครอบครัวของนายสุเมธ กับภรรยา รวมทั้งเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงเกี่ยวกับเหตุที่เกิดขึ้น


โดยผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ระบุว่า เบื้องต้นเหตุที่นายสุเมธ ใช้อาวุธปืนข่มขู่ขัดขืนการจับกุมตามหมายจับ และปิดประตูห้องอยู่กับภรรยาและผู้หญิงสาวคนสนิทข้างในนั้น ไม่ได้เป็นการจับตัวประกันแต่อย่างใด หากแต่เป็นความสมัครใจของผู้หญิงทั้ง 2 คน ที่ต้องการจะอยู่กับนายสุเมธ


โดยตั้งแต่ช่วงบ่ายวานนี้ ได้ประสานครอบครัวและญาติของนายสุเมธ เพื่อเข้าทำการเจรจาเกลี้ยกล่อมแล้ว ซึ่งนายสุเมธ ได้ให้ญาติเข้าไปรับตัวลูกสาวอายุประมาณ 1 ปีกว่า ออกมาจากห้องพักที่เกิดเหตุ ส่วนภรรยาและผู้หญิงสาวคนสนิทไม่ยอมออกมาด้วย พร้อมยืนยันความสมัครใจที่จะอยู่ด้วยกันภายในห้องกับนายสุเมธ ซึ่งต่อมาในช่วงเย็นวันเดียวกันนั้นได้ให้ญาติของนายสุเมธ เข้าไปที่หน้าห้องเพื่อพยายามเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง จนกระทั่งเกิดเสียงปืน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องล่าถอยออกมาก่อนเพื่อติดตามและประเมินสถานการณ์


ทั้งนี้ในเวลานั้นยังไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตหรือไม่ และเหตุผลที่ยังไม่มีการนำเจ้าหน้าที่จู่โจมเข้าไปในห้อง เนื่องจากไม่ใช่การจับตัวประกัน ดังนั้นจึงรอประเมินสถานการณ์จนกระทั่งเช้าวันนี้จึงเข้าตรวจสอบและพบว่าทั้ง 3 คนเสียชีวิต ซึ่งเป็นแนวทางการปฏิบัติตามยุทธวิธี


ขณะที่จากการเข้าตรวจสอบในห้องพักที่เกิดเหตุนั้น เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตทั้ง 3 คน นอนอยู่บนเตียงในห้องนอน แต่ละศพมีบาดแผลถูกอาวุธปืนยิงเข้าที่ศีรษะ สภาพศพเริ่มแข็งตัวแล้วทางแพทย์นิติเวชประเมินว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 12-24 ชั่วโมง ทั้งนี้ภายในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ และพบอาวุธปืนอยู่ใต้ศพนายสุเมธในลักษณะที่ทับไว้ และพบว่าที่กระจกในห้องมีร่องรอยระสุน นอกจากนี้เก็บหลักฐานได้เป็นปลอกกระสุนและเศษกระสุนที่ยิงแล้ว รวมทั้งพบเครื่องกระสุนจำนวนมากพอสมควร อีกทั้งซิมการ์ดโทรศัพท์จำนวนมาก พร้อมคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถืออีกจำนวนหนึ่ง


ด้านแม่และน้องชายของนายสุเมธ เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ติดใจสงสัยเรื่องการเสียชีวิตของนายสุเมธ เพราะเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตั้งแต่แรกเริ่มในการพยายามเข้าเจรจาเกลี้ยกล่อม อีกทั้งก่อนหน้านี้นายสุเมธ ได้ติดต่อส่งข้อความทางไลน์แจ้งให้ทราบลักษณะคล้ายการสั่งเสียไว้แล้วว่าจะไม่ยอมถูกจับกุม และขอยอมตาย พร้อมฝากให้ช่วยดูแลลูกทั้ง 2 คน ซึ่งจากลักษณะนิสัยของนายสุเมธที่รู้จักดี ทำให้เชื่อว่านายสุเมธ ตัดสินใจเช่นนั้นแล้ว


โดยวานนี้ในช่วงเย็นที่น้องชายพยายามเข้าเกลี้ยกล่อมอีกครั้ง ปรากฏว่าได้เกิดเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด ซึ่งเวลานั้นมั่นใจว่านายสุเมธได้ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและสาวคนสนิท พร้อมยิงตัวเองตายตามตั้งแต่เวลานั้นแล้ว เพียงแต่เจ้าหน้าที่ต้องรอประเมินสถานการณ์และทำงานอย่างรอบคอบเพื่อความปลอดภัยของทุกคน


นอกจากนี้ ทางครอบครัวและญาติยืนยันว่า ปกติแล้วไม่ทราบว่านายสุเมธ ทำงานหรือประกอบอาชีพใด เพราะไม่เคยบอกให้ครอบครัวทราบ และแทบจะไม่ค่อยได้ติดต่อกัน โดยหากมีการติดต่อกันจะเป็นฝ่ายนายสุเมธที่ติดต่อมาหาเองผ่านทางข้อความไลน์ อีกทั้งนี้ไม่เคยทราบมาก่อนด้วยว่านายสุเมธไปก่อเหตุกระทำความผิดจนกระทั่งถูกออกหมายจับ ซึ่งเพิ่งจะมาทราบเมื่อเจ้าหน้าที่ติดต่อให้เข้ามาช่วยเจรจาเกลี้ยกล่อม รวมทั้งที่ผ่านมานายสุเมธ ไม่ได้เป็นผู้ส่งเสียเงินทองให้แม่ใช้จ่ายแต่อย่างใด มีเพียงบางครั้งที่อาจจะให้น้องชายบ้างเท่านั้น

คุณอาจสนใจ

Related News