อาม่าด่าบรรพบุรุษ เจอสาวตบคว่ำ ตร.ชักปืนขู่ยิงให้ตาย ยันดำเนินคดีถึงที่สุด!

อาม่าชาวนนทบุรี วัย 75 ปี เข้าร้องสื่อ หลังถูกเพื่อนบ้านทำร้ายร่างกาย จนได้รับบาดเจ็บเลือดกบปาก ขณะที่คู่กรณีโต้ถูกอาม่าด่าหยาบคายถึงบรรพบุรุษ จนทนไม่ไหวลงมือก่อเหตุ

โดยมีคลิปภาพขณะที่อาม่าถูกคู่กรณีเป็นหญิง 2 คน ด่าทอและท้าทายให้ถ่ายคลิปภาพ  ขณะที่อีกคลิปจะเห็นหญิงทั้ง 2 ได้เดินเข้าไปทำร้ายอาม่าจนล้มลงกับพื้น ก่อนที่จะมีคนมาห้าม ส่วนนี่เป็นภาพชายฉกรรจ์อ้างเป็นทหารในมือถือปืน บอกว่าพรุ่งนี้จะเอาปืนยิงกระบาลให้ตาย ตนไม่เดือดร้อน บอกต่อหน้าตำรวจทนไม่ไหวแล้ว

เหตุการณ์นี้ เกิดเหตุหลายครั้ง คนละวันและเวลา ซึ่งส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่บริเวณอาคารพาณิชย์ ตั้งอยู่ ถ.ติวานนท์ ต.ท่าทราย อ.เมือง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นบ้านของอาม่า โดย อาม่า หรือ นางนวรัตน์ อายุ 75 ปี และลูกชาย อายุ 47 ปี เล่าให้ฟังว่า ครอบครัวตนพักอาศัยอยู่ด้วยกัน 3 คน คือตนเอง น้องสาว และแม่ซึ่งก็คืออาม่า อาศัยมานานนับหลายสิบปี

จนกระทั่งอาคารพาณิชย์ที่ติดกันเปิดเป็นร้านซ่อมรถยนต์ และเกิดการกระทบกระทั่งกันมาตลอดกว่า 6 ปี ซึ่งร้านดังกล่าวซ่อมรถเสียงดัง จอดรถหน้าบ้าน หรือ แม้แต่ช่างซ่อมรถ ลูกๆ หลานๆ ขี่มอเตอร์ไซด์ก็ชอบเบิ้ลเครื่องยนต์ส่งเสียงดัง เมื่อตนไปเตือนก็จะทะเลาะกันตลอด

จนเมื่อต้นปี 2562 ตนถูกคู่กรณี 2 สามีภรรยา คือ นางนันทพัธท์ อายุ 50 ปี และ จ่าสิบเอกชิตพล อายุ 58 ปี เจ้าของร้านซ่อมรถทำร้ายร่างกาย ตบตีจนฟันร่วงเกือบหมดปาก สาเหตุเพราะตนขว้างขวดน้ำจิ้มลงมาถูกขา นางนันทพัธท์ จนได้รับบาดเจ็บ และเกิดการด่าทอกันขึ้นเรื่อยมา ก่อนที่จะถูกชายฉกรรจ์ เข้ามาทำร้ายจนได้รับบาดเจ็บ ตนจึงได้ไปแจ้งความไว้ที่ สภ.รัตนาธิเบศร์ เรื่องอยู่ระหว่างดำเนินการ

หลังจากนั้นตนก็ถูกข่มขู่มาตลอด จนเมื่อไม่กี่วันมานี้ ก็เกิดเหตุทะเลาะกันอีก จนตนและลูกชายได้แจ้งให้ตำรวจมาที่เกิดเหตุ ซึ่งสามีนางนันทพัธท์ ก็ยังกล่าวข่มขู่ตน พอช่วงกลางดึกก็ยังมาตะโกนเสียงดังที่หน้าบ้าน โดยในมือถือปืนสั้น ร้องโวยวายว่า "กูยิงมึงแน่ๆ"

ด้าน ลูกชายอาม่า กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่ตนทนไม่ไหวก็คือก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ขณะที่แม่กำลังจะขึ้นรถ นางนันทพัธท์ได้ขี่รถมอเตอร์ไซด์ผ่านมาเจอแม่ และได้เดินเข้ามาต่อว่า ก่อนจะเข้ามาบีบคอ และทุบตีแม่ ซึ่งตนได้ไปขอภาพวงจรปิดจากร้านที่เกิดเหตุ และพาแม่ไปแจ้งความไว้แล้ว

ขณะที่ นางนันทพัธท์ คู่กรณี เล่าว่า สาเหตุที่ตนต้องทำร้ายอาม่า เป็นเพราะตนทนเก็บสะสมอัดอั้นมากว่า 6 ปี เพราะตั้งแต่ที่มาเปิดร้านซ่อมรถ ซึ่งบางครั้งมีเสียงดัง ตนก็ยอมรับ แต่ตลอดเวลาอาม่า ไม่เคยมาบอกกล่าวให้ทราบ ส่วนช่างในร้านและ ลูกชาย ตนก็กำชับตลอดว่า อย่าเบิ้ลรถเสียงดัง ซึ่งการกระทบกระทั่งที่มีกันมานาน เป็นเพราะตนไม่อาจทนฝีปากของอาม่าได้ที่มักจะด่าทอเสียๆ หายๆ อยู่ตลอด แต่ที่ทนไม่ได้จนต้องก่อเหตุ เพราะอาม่าได้ด่าถึงบรรพบุรุษของตนว่า"ไม่สั่งไม่สอน" จึงอยากให้สังคมเข้าใจด้วยว่า ไม่มีใครที่อยู่ดีๆ จะไปทำร้ายคนแก่

ด้าน ร้อยโท ชิตพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนยอมรับคลิปที่ถือปืนเป็นตนจริง แต่เป็นคลิปเก่าที่เกิดขึ้นนานแล้ว และเรื่องก็จบลงไปแล้ว ส่วนเหตุครั้งนี้ที่อาม่าไปแจ้งความว่า ภรรยาตนทำร้ายร่างกาย ตนยังไม่ทราบ แต่ตนมีคลิปภาพตอนที่อาม่าเดินเอาถุงขยะมาทิ้งหน้าร้าน หรือแม้แต่เอาอุจจาระมาทิ้ง

หลังได้พูดคุยกับทั้ง 2 ฝ่าย ผู้สื่อข่าวได้พยายามประสานและเป็นกาวใจให้ ซึ่งทางนางนันทพัธท์ และสามี ยินดีและพร้อมจะขอโทษทางอาม่า แต่ปรากฎว่าอาม่ายืนยันยังไม่พร้อม และจะดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด

สามารถดูข่าวทาง Youtube ได้ที่ : https://youtu.be/VffEky_sKX0