สาวขับเก๋งหักหลบตัวเงินตัวทอง รถคว่ำตกคลอง ติดในรถ 7 ชม.ปลิงเกาะเต็มตัว รอดตายปาฎิหาริย์

นครนายก-เกิดอุบัติเหตุรถเก๋งเสียหลักพลิกคว่ำตกคลองสาธารณะ ตำบลทรายมูล อำเภอองครักษ์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นผู้หญิงโดยติดอยู่ในรถนานกว่า 7 ชั่วโมง และมีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาแล้วเห็น เลยลงไปช่วยชีวิตเอาไว้ได้ทัน

ด้านนางสาวชัชฎาภรณ์ สัมฤทธิ์ อายุ 28ปี ได้เล่านาทีชีวิตให้ฟัง โดยบอกว่าคืนวันที่เกิดเหตุประมาณเที่ยงคืนของวันที่ 25ม.ค.ที่ผ่านมา ตนเองขับรถเก๋งโตโยต้ายาริส สีขาว กลับจากทำงาน และกำลังกลับบ้านโดยมาทางถนนส้นหลังวัดทวีพูลรังสรรค์ ถนนมืดมากไม่มีไฟทาง

จู่ๆตัวเงินตัวทองขนาดใหญ่วิ่งตัดหน้ารถ ตนเองตกใจเลยหักหลบ จนรถพลิกคว่ำตกลงไปในคลองสาธารณะที่มีหญ้าหนาปกคลุม ตอนนั้นน้ำเริ่มท่วมรถและมองไม่เห็นอะไร ตนเองตั้งสติหารูอากาศเอาไว้หายมีเพียงแค่รูจมูกที่หายใจได้อย่างเดียว ตอนนั้นคิดว่าตายแน่ๆ นึกอย่างเดียวว่ายังตายไม่ได้เพราะมีลูกที่ยังต้องเลี้ยงดูอีก 3 คน และปลิงก็เกาะเต็มตัวไปหมด และก็นึกถึงพ่อแม่และพระที่ห้อยอยู่ในคอว่าขอให้ช่วยให้ปลอดภัย

ระหว่างที่จมอยู่ในน้ำ ตนเองเห็นว่าคนขับรถผ่านตรงที่เกิดเหตุ แต่ตนเองไม่มีแรงจะเรียกหรือส่งสัญญาณอะไรเลย ส่วนคนมาหาคือพ่อ ก็บอกว่ามองไม่เห็นว่าลูกสาวประสบอุบัติเหตุตรงนั้น เพราะมืดมาก โทรศัพท์ก็จมน้ำหาไม่เจอ ตอนนั้นคิดว่าตายแล้ว ถ้าอีก 1 ชั่วโมงไม่มีพลเมืองดีลงมาช่วย มีกำลังอีกทีตอนรู้ว่ามีแสงแดด และมีพลเมืองดีกระโดดลงไปช่วยตนเองให้รอดออกมาจากรถได้อย่างปลอดภัย และมูลนิธิร่วมกตัญญูรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลโดยด่วน ตนฝากขอบคุณพลเมืองดีทั้ง 2 คนด้วย ถ้าอาการดีขึ้นแล้วจะไปขอบคุณด้วยตัวเอง

ขณะที่ 2 พลเมืองดี ต่อมาทราบว่าเป็นคนขับรถส่งน้ำแข็งอยู่ในตัวเมืองนครนายก ทราบชื่อนายสมชาย ศรีนาเครือ อายุ33ปี เป็นคนจังหวัดบุรีรัมย์ และอีกคนชื่อนายโล เป็นชาวกัมพูชา เล่าว่าตนเองกับเพื่อนออกขับรถส่งน้ำแข็งทุกเช้า วานนี้ (27 ม.ค.) ขับมาเส้นทางดังกล่าวเห็นสุนัขเห่าอะไรบางอย่างริมถนน เลยถอยหลังรถมาจอดดูเลยพบว่ามีรถตกคลอง เลยชวนเพื่อนลงไปดู ทีแรกคิดว่าไม่น่าจะมีคนอยู่ แต่ลงไปเคาะกระจกรถและมีเสียงตอบสนองเลยรู้ว่ามีคนติดอยู่ในรถ หลังจากนั้นช่วยกันพลิกรถแต่ไม่ได้และมีพลเมืองดีอีก1คนพอเห็นเหตุการณ์ก็ลงมาช่วย จนสามารถนำตัวออกมาได้สำเร็จ ทั้ง 2 คนรู้สึกดีใจที่ช่วยน้องได้อย่างปลอดภัย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/f5M1eYlHQC8