สังคม

อาการ 'น้องไตเติ้ล' ยังน่าห่วง แพทย์ยังระบุสาเหตุไม่ได้ ด้านพี่เลี้ยงยันมีบาดแผลมาตั้งแต่ก่อนเลี้ยง

โดย pattraporn_a

27 ม.ค. 2564

185 views

พี่เลี้ยงเปิดใจ ขอโทษที่ดูแลเด็กไม่ดี ยืนยันเด็กล้มเอง แถมมีแผลมาตั้งแต่แรก และร้องไห้ตลอดเวลา จนไม่มีใครรับเลี้ยง สงสารเลยรับไว้ / ด้านพ่อแม่ทำใจหากลูกไม่รอด


นายโจ อายุ 26 ปี และ นางสาว กองทอง อายุ 24 ปี สองสามีภรรยา ร้องขอความเป็นธรรม โดยเล่าว่า ทั้งคู่ทำงานโรงงานในนิคมสวนอุตสาหกรรมโรจนะ ไม่มีเวลาดูแลน้องไตเติ้ล ลูกชายวัย 1 ขวบ 6 เดือน จึงโพสต์เฟซบุ๊กหาคนรับจ้างเลี้ยงเด็ก ก่อนตกลงจ้างนางแอน คนในหมู่บ้านเดียวกัน เดือนละ 4,000 บาท หยุดวันเสาร์อาทิตย์ เริ่มจ้างวันที่ 23 ม.ค. ตั้งแต่วันแรกนางแอนโทรมาบ่นว่า ลูกชายเลี้ยงยากซุกซน ขอเพิ่มค่าแรงอีกเดือนละ 2,000 บาท รวมเป็นเดือนละ 6,000 บาท ด้วยความที่ไม่มีเวลาเลี้ยงลูก จึงยอมจ่าย


วันต่อมา 24 ม.ค. ได้โทรมาบอกให้ซื้อยาแก้ไข้ พร้อมยาอื่น ๆ และของใช้ส่วนตัสมาให้ลูก พอตอนเย็นเลิกงาน นำของไปให้ กลับไม่ให้เจอลูก อ้างว่า ลูกหลับ ต้องนอนพักมาก ๆ จะได้หายไข้ไวๆ ด้วยความที่กลัวลูกร้องตาม จึงไม่เอะใจและกลับบ้าน กระทั่งวันที่ 25 ม.ค. โรงพยาบาลอุทัย โทรมาแจ้งว่า ให้มาพบลูกชายด่วน เมื่อไปถึงก็เห็นลูกในสภาพใบหน้าบวมเขียวช้ำ หมดสติ ก่อนถูกส่งรักษาต่อที่ ห้องไอซียู โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา แพทย์แจ้ง เลือดคั่งในสมอง เส้นเลือดนัยน์ตาแตก เส้นเลือดลำคอขาด มีเลือดออกในช่องท้อง อาการสาหัสมาก แต่ยังไม่ทราบสาเหตุว่าเกิดจากอะไร ซึ่งนางแอน อ้างว่า ลูกซนลื่นล้มในห้องน้ำ แต่ไม่ปักใจเชื่อ จึงเข้าลงบันทึกประจำวันที่ สภ.อุทัย


ด้านนายแพทย์ราชิต เทิดสุวรรณ ผู้ช่วย ผอ.โรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา เผยว่า เด็กยังอยู่ในขั้นวิกฤตไม่รู้สึกตัว ร่างกายไม่ตอบสนอง ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจตลอดเวลา สมองบวมเลือดคั่ง ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิดในห้องปลอดเชื้อ ยังไม่สามารถระบุสาเหตุได้ ส่วนที่พ่อแม่ติดใจร่องรอยเขียวช้ำบนใบหน้า อาจเกิดจาก 2 กรณี คือเกิดจากเลือดคั่งภายในไหลกระจายออกมา หรือ ได้รับการกระทบกระเทือน


โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้พี่เลี้ยงแอน หรือ นางผ่องพรรณ อายุ 32 ปี พร้อมด้วยนายกิตติศักดิ์ อายุ 38 ปี สามีพี่เลี้ยงแอน เข้าให้ปากคำที่ สภ.อุทัย จากนั้นชี้แจงว่า สองสามีภรรยาเที่ยวตะเวนหาคนมารับเลี้ยงน้องไตเติ้ล แล้วหาไม่ได้ เพราะน้องไตเติ้ลจะร้องไห้เสียงดังตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืน จะหยุดร้องเฉพาะตอนกินนมและตอนนอนเท่านั้น ด้วยความสงสารจึงรับเลี้ยงไว้ หลังรับเลี้ยงวันแรก น้องไตเติ้ลร้องไม่หยุดเสียงดังทั้งวันทั้งคืนจนคนข้างบ้านสงสัย ตนเองก็ไม่ได้พักผ่อนไม่มีเวลาหลับนอนต้องคอยดูแลน้อง จึงตัดสินใจไม่ขอรับเลี้ยง แต่สองสามีภรรยาขอให้เลี้ยงต่อโดยจะเพิ่มค่าจ้างเลี้ยงจากเดิมเดือนละ 4,000 เป็น 6,000 บาท


วันที่ 24 ม.ค. ช่วงตี 5 พาน้องไตเติ้ลไปอาบน้ำในห้องน้ำกับเด็กหญิง เอ นามสมมติ เด็กอีกคนที่รับเลี้ยงไว้ ระหว่างที่ออกมาหยิบผ้าขนหนู ปล่อยเด็กทั้งสองคนไว้ในห้องน้ำ ได้ยินเสียงน้องไตเติ้ลล้มเสียงดัง รีบวิ่งเข้าไปดูพบว่าน้องนั่งนิ่ง ไม่คิดว่าเป็นอะไร จึงรีบนำมาดูแลให้กินนมตามปกติ และยังโทรศัพท์แจ้งให้พ่อ แม่ ทราบ พร้อมขอให้ซื้อยาลดไข้ ยาแก้อักเสบ ยาแก้แพ้ และสัมภาระเลี้ยงดูมาให้น้องด้วย ตกเย็นพ่อแม่นำยาสัมภาระมาให้แล้วเดินทางกลับบ้าน


กระทั่งวันที่ 25 ม.ค. ช่วง 8 โมงเช้า น้องไตเติลมีอาการตัว มือเกร็ง ตาค้าง ด้วยความตกใจจึงรีบอุ้มซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ พาไปส่งรักษาที่โรงพยาบาลอุทัย แพทย์ส่งต่อโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ก็ไม่คิดว่าอาการของน้องจะสาหัสมากถึงขนาดนั้น / อันที่จริง ตั้งแต่ก่อนรับน้องไตเติ้ลมาเลี้ยงดู น้องมีความผิดปกติหลายอย่าง นอกจากน้องจะร้องไห้เสียงดังตลอดเวลาทั้งวันทั้งคืนแล้ว ตามมือตามแขนของน้องเต็มไปด้วยรอยแผลพุพองคล้ายกับถูกโลหะทรงกลมร้อน ๆ นาบ จนเกิดแผลพุพองไปทั่ว ปากของน้องก็แตก เวลาดูดนมจะมีเลือดสดๆไหลติดปาก ติดขวดนมทุกครั้ง ด้วยความสงสัยสอบถามแม่น้องบอกว่า น้องซนชอบมาช่วยทำครัวทอดไข่เลยถูกกะทะตกใส่ และน้องชอบเล่นหัวชนกันเลยทำให้ปากแตก ที่บ้านอยู่กัน 4 คน มีสามี ตนเอง น้องไตเติ้ล และเด็กหญิงเอ โดยสามีจะมาช่วยเลี้ยงเด็ก ๆ หลังเลิกงาน


เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวไปที่บ้านพี่เลี้ยงแอน พบว่า ภายในบ้านสะอาดเรียบร้อย มีเครื่องเล่นเด็ก โดยพี่เลี้ยงแอนพาไปดูจุดที่น้องล้ม พร้อมยืนยันว่า น้องมีแผลมาก่อน ตอนนี้รู้สึกเสียใจ น้อยใจ รับเลี้ยงด้วยความสงสาร แต่กลับมาถูกกล่าวหาว่าทำร้ายเด็ก ขอโทษที่ดูแลลูกเขาไม่ดี แต่ตนไม่ได้เปิดเพจรับเลี้ยงเด็ก แต่มีคนแนะนำมาว่า สองสามีภรรยาหาคนเลี้ยงลูก จึงได้พูดคุยกันแล้วรับเลี้ยง


ขณะที่เพื่อนบ้านของพี่เลี้ยงแอน บอกว่า ได้ยินพี่เลี้ยงบอกน้องไตเติ้ลร้องตลอดเวลา แต่ตนไม่ได้ยินบ้านอยู่ไกล เท่าที่เห็นวันที่พ่อเขาเอามาส่ง น้องร้องไห้ มีน้ำมูก ยังถามว่า น้องเป็นภูมิแพ้หรือ แต่ก็ไม่ได้คำตอบอะไร


ด้าน พันตำรวจตรี พัลลภ อินทรเชษฐ สารวัตรสอบสวน สภ.อุทัย เผยว่า ขณะนี้เรียกสอบปากคำแล้ว 4 ปาก คือ พ่อแม่เด็ก พี่เลี้ยง และสามีพี่เลี้ยง ยังไม่ชี้ชัดว่าเด็กบาดเจ็บจากอะไร ต้องรอการวินิจฉัยจากแพทย์ก่อน


ล่าสุด พ่อและแม่น้องไตเติ้ล เผยว่า อาการลูกชายไม่ดีขึ้น มีโอกาสรอดน้อยมาก หากรอดมาก็จะเป็นเจ้าชายนิทรา สงสารลูกมาก แต่ก็ทำใจไว้แล้ว ดูหน้าตาเหมือนไม่ทุกร้อน แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรให้น้องกลับคืนมาเหมือนเดิมได้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ