สังคม
สลด! 'เจ้าดื้อ' ช้างเขาใหญ่ ทำร้าย นนท.ชายวัย 80 ดับคาเต็นท์
โดย
16 ม.ค. 2564
1.1K views
นครราชสีมา - ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาดนักท่องเที่ยวที่มากางเต็นท์บนลานผากล้วยไม่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต. หมูสี อ.ม ปากช่อง จ. นครราชสีมา ว่า เมื่อคืนช่วงวานนี้ (15 ม.ค.) เวลา 02.00 น. มีเหตุนักท่องเที่ยวถูกช้างป่าทำร้ายเสียชีวิต ที่จุดกลางเต็นท์ผากล้วยไม้
โดยตำรวจ สภ.หมูสี ได้รับแจ้ง จึงรีบไปจุดเกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เมื่อถึงที่เกิดเหตุในลานกางเต็นท์ผากล้วยไม้ พบเต้นที่กางไว้ถูกรื้อยกออกจากจุดเดิม และพบร่าง นายประโยชน์ จิตร์บุญ อายุ 80 ปี ชาว จ.สมุทรปราการ ถูกช้างเหยียบ ตามร่างกายเสื้อผ้าหลุดลุ่ย มีบาดแผลที่ขาซ้าย ตรวจสอบพบทรัพย์สินผู้ตาย มีเงินสดจำนวน 103,180 บาท และยังมีบัตรประจำตัว เป็นวิศวกรเครื่องกล
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบถามรายละเอียดจาก เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จุดบริการกางเต็นท์ผากล้วยไม้ แจ้งว่าในคืนวันเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวมาแจ้งเข้าพักทั้งหมด 47 คน รวมทั้ง นายประโยชน์ ผู้ตาย โดยผู้ตายได้มานอนที่จุดกางเต็นท์ผากล้วยไม้ เป็นคืนที่ 2 ขับรถเก๋ง มาคนเดียว จอดรถข้างถนน พร้อมตั้งเต็นท์อยู่ใกล้เคียงที่จอดรถตนเองห่างกันประมาณ 5-6 เมตร ห่างจากจุดที่นักท่องเที่ยวคนอื่นตั้งเต็นท์ในลานกว้างประมาณ 50 เมตร แต่ข้างๆ กันก็มีนักท่องเที่ยวกางเต็นท์อยู่
ขณะนอนหลับ ช้างพรายเจ้าดื้อ อายุกว่า 30 ปี ที่เคยนั่งทับรถนักท่องเที่ยว เดินออกจากป่าข้ามถนนจากฝั่งตรงข้ามจุดกางเต็นท์มาที่ข้างรถ เดินวนรอบรถใช้ตัวดันข้างรถจนบุบ จากนั้นเดินไปที่เต็นท์ดึงเต็นท์ออกเหยียบไปที่ร่างของนายประโยชน์ ขณะหลับอยู่ นักท่องเที่ยวได้ยินเสียงนายประโยชน์ ร้องโอดโอย จนร่างแหลกเหลว จากนั้นเดินไปที่หน้าห้องน้ำที่อยู่ห่างกันประมาณ 15 เมตร และเดินกลับมาเหยียบที่ร่างนายประโยชน์ อีกครั้งเป็นครั้งที่ 2 จากนั้นเดินไปจุดลานกางเต็นท์ส่งเสียงร้อง "แปร้น" อย่างแรงจนนักท่องเที่ยวที่หลับกันอยู่ตกใจตื่น จนมารู้ถูกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ขณะเกิดเหตุนักท่องเที่ยวที่ยังไม่นอนและบางคนได้ยินเสียง เห็นช้าง รีบวิ่งไปบอก จนท.ที่ประจำจุดบริการออกมาแต่ไม่ทันการ
ทั้งนี้ จากการตรวจค้นในรถเก๋ง ของนายประโยชน์ ผู้ตาย พบส้มโอ ปลอกเปลือกแล้วอยู่ในกล่อง คาดว่าพรายเจ้าดื้อ ได้กลิ่นส้มโอ อยากกินจึงเดินวนรอบรถ หรืออาจได้กลิ่นส้มโอที่นายประโยชน์ นำลงกินที่เต็นท์ด้วย จนทำให้เกิดโมโหกระทืบร่างผู้ตายขณะนอนหลับจนเสียชีวิต นักท่องเที่ยวหลายคนบอกว่า บริเวณลำคอของเจ้าดื้อ มีน้ำมันไหลออกมามาก ช้างน่าจะตกมัน หรือไม่คนตายอาจไปกางเต็นท์นอนขวางทางเดินช้างก็เป็นได้
ส่วนสาเหตุที่เจ้าหน้าที่มาช่วยไม่ทันนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเนื่องจากขณะเกิดเหตุเป็นเวลาประมาณตีสอง ซึ่งผู้ตายได้กางเต้นท์ อยู่ท้ายๆ ของลานกางเต้นท์ และจุดที่ผู้ตายกางเต็นท์กับจุดที่เจ้าหน้าที่ประจำการอยู่ค่อนข้างไกล เจ้าหน้าเลยเข้าไปช่วยได้ไม่ทัน
ขณะที่คุณป้าในพื้นที่บอกว่า ผู้ตายได้มากางเต้นท์เป็ฯประจำ โดยผ็ตายเป็นคนธรรมะธรรมโม ชอบนั่งสมาธิ จึงไม่อยากอยู่ในที่ ที่มีคนมาก ส่วนเงินที่ผู้ตายพกติดตัวจำนวนมากๆ เพราะผู้ตายชอบตระเวณทำบุญ ไปทั่ว
ด้านนายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานฯเขาใหญ่ บอกว่า พรายเจ้าดื้อ อายุกว่า 30 ปี มีงายาว อาจจะตกมัน อีกทั้งเมื่อวันที่ 9 มกราคม ที่ผ่านมา ได้ติดปลอกคอช้าง พรายเจ้าดื้อ เป็นตัวแรก อาจจะทำให้หงุดหงิดก็เป็นได้ พร้อมประกาศปิดจุดกางเต็นท์ลำตะคลอง และจุดผากล้วยไม้ ที่เป็นจุดเกิดเหตุ เพื่อศึกษาพฤติกรรมช้างก่อน พร้อมฝากหากนักท่องเที่ยวขึ้นมาเที่ยวบนอุทยานฯพบช้าง อย่าประมาท อย่าบีบแตร อย่ากระพริบไฟ อย่าดับเครื่อง อย่าถ่ายรูปแบบมีแฟลช ติดเครื่องรถเมื่อช้างผ่านแล้วให้รีบไป หรือแจ้งเจ้าหน้าที่ เพื่อความปลอดภัย ของนักท่องเที่ยว
ต่อมาช่วงบ่ายวานนี้ (15 ม.ค.) นางศรีอุษา จิตร์บุญ อายุ 85 ปี พี่สาวนายประโยชน์ ผู้ตาย พร้อมครอบครัว เข้าพบ พ.ต.อ.ชูสิทธิ์ หล่อแสง ผกก.สภ.หมูสี อ.ปากช่อง หลังรับแจ้งเหตุ จึงได้เดินทางมาให้รายละเอียดและขอรับศพ จากนั้นเข้าพบ นายอดิศักดิ์ ภูสิทธิ์วงศานุยุต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ โดยไม่เรียกร้องอะไร ขอเพียงทางอุทยานฯจัดรถไปส่งศพที่วัดแถวสวนหลวง ร.9 กรุงเทพมหานคร และยังบริจาคเงินทำบุญให้น้องชาย กับมูลนิธิเขาใหญ่ด้วย เป็นเงิน 30,000 บาท
ทางด้าน หัวหน้าอุทยานแห่ชาติเขาใหญ่ กล่าวว่า พร้อมช่วยเหลือเต็มที่ โดยกับได้นิมนต์พระมหาปจนภัย อินทวีโร เจ้าอาวาสวัดท่าช้าง ต.หมูสี ไปทำพิธีสวดบังสุกุลอุทิศส่วนกุศล และเรียกดวงวิญญาณกลับบ้าน ณ จุดเกิดเหตุด้วย สำหรับช้างพลายดื้อ หรือ "เจ้าดื้อ" ช้างเพศผู้ อายุประมาณ 30 ปี ตัวนี้ เมื่อเดือน ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา เคยเป็นข่าวดัง หลังออกจากป่ามาขึ้น "ขย่มรถ" บริเวณก่อนถึงจุดชมวิวบนถนนธนะรัชต์ กม.30 ภายในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่มาแล้ว
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/vnd9CJ4QSDk
แท็กที่เกี่ยวข้อง
