สังคม

สาวพม่าร้องสื่อ ถูกแก๊งมาเฟียร์พม่า-คนนอกเครื่องแบบ ลักพาตัวแม่-น้องสามี ขู่บังคับส่งส่วย

โดย

4 ม.ค. 2564

1.8K views

นครราชสีมา - นางรุ่งทิพย์ ปูชี อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 97 หมู่ 5 ต.สระจระเข้ อ.ด่านขุนทด จ.นครรามสีมา พร้อมดัวยนายหม่อง หรือวันชัย ปูชี อายุ 44 ปี สามีชาวเมียนมา และ น.ส. สุธิดา หรือยาสมิน ปูชี อายุ 17 ปี บุตรสาว ถือเอกสารเข้าร้องเรียนผู้สื่อข่าว ชมรมสื่อมวลชนจังหวัดนครราชสีมา ว่าถูกแก๊งมาเฟียร์ชาวเมียนมา นำเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบทำการข่มขู่และตบทรัพย์ตน จนตนไม่สามารถมีลูกจ้างชาวต่างด้าวได้ ร้องเรียนส่วนราชการหลายแห่ง ไม่สามารถจับตัวได้ มีแต่จับแรงงานของตนส่งฟ้องศาล 
อีกทั้งล่าสุด ไปหลอกแม่และน้องชายของสามีซึ่งสติไม่สมประกอบไปกักตัวไว้ โดยไม่สามารถติดต่อได้ เพื่อบังคับให้ญาติสามี ที่มาขายโรตี เก็บเงินส่งส่วย โดยกระจายคนไปอยู่อำเภอต่างๆ ทั้งจังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ และบุรีรัมย์
ทั้งนี้ นางรุ่งทิพย์เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนแต่งงานอยู่กินกับนายหม่องหรือวันชัยนานกว่า 20 ปีแล้ว จนสามีได้รับอนุญาตให้อยู่ประเทศไทยตลอดไป มีบุตร-ธิดา ด้วยกัน 3 คนและคนที่ 4 อยู่ในครรภ์ใกล้จะคลอดโดยครอบครัว ประกอบอาชีพทางการเกษตรและเลี้ยงแพะจำนวนหลายร้อยตัว เมื่อปี 2560 สามีได้นำญาติเข้ามาทำงานเป็นคนงานปศุสัตว์และเกษตร โดบผ่านกรมแรงงานถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ซึ่งกลางวันเลี้ยงแพะแต่ตอนเย็นออกไปขายโรตีตามหมู่บ้านและแหล่งชุมชนอำเภอด่านขุนทด
อยู่มาวันหนึ่ง นายเซ่ง เซ่ง อายุ 50 ปี ซึ่งเป็นญาติทางสามี เดิมอยู่ที่ ต.ช่องแคบ อ.พบพระ จ.ตาก (โดยลักลอบสวมสิทธิ์เป็นชาวไทยใหญ่) ถือหนังสืออนุญาตทำงานเป็นลูกจ้างของนางอรุณ บัวกระโทก มาพบตนพร้อมกับชายฉกรรจ์ชาวไทยที่แต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบ แต่ไม่บอกสังกัด (คล้ายเจ้าหน้าที่ ตม.) บอกว่าการที่ลูกจ้างของตนออกไปขายโรตีตอนกลางคืนนั้นผิดกฎหมาย ถ้าถูกจับได้จะต้องถูกดำเนินคดีส่งฟ้องศาล พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่อ่านกฎหมายให้ฟังยาวเหยียด สุดท้ายบอกว่าถ้าไม่อยากถูกจับ ต้องจ่ายเงินให้นายเซ่ง คนละ 1,000 บาท ต่อเดือน ด้วยความเกรงกลัวจึงยอมจ่าย
นอกจากนี้ นายเซ่ง ยังพาคนที่อ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ มาข่มขู่บอกให้จ่ายค่าคุ้มครองในฐานะนายจ้างแรงงานต่างด้าว ครั้งละ 5-8,000 บาท หลายครั้ง จนตนและสามีทนไม่ไหว ส่งญาติกลับเมียนมาไป ไม่ยอมจ่ายเงินให้นายเซ่ง อีกเลย แต่นายเซ่งก็ยังสามารถหลอกนายราบิออง อายุ 19 ปี ญาติที่ถือบัตรลูกจ้างของตน ให้ไปอยู่ในสังกัดของนายเซ่ง 
โดยนายเซ่งอ้างว่าสามารถเคลียร์กับเจ้าหน้าที่ได้ทุกฝ่าย ไม่มีทางถูกจับ พร้อมกับยกตัวอย่างญาติในหมู่บ้านเดียวกันที่เมียนมา สามารถไปเร่ขายโรตีในอำเภอต่างๆ ทั้ง 3 จังหวัด ดังกล่าวได้ ทั้งที่บัตรหมดอายุตั้งแต่ปี 61 แต่นายราบิออง ก็ยังคงขายโรตีอยู่ใน อ.ด่านขุนทด ได้อย่างสบาย โดยทุกสิ้นเดือน นายเซ่งจะขับรถตระเวนเก็บค่าคุ้มครองจากคนงานในสังกัดของเขาทุกจังหวัด
นางรุ่งทิพย์เล่าต่อไปว่า ชาวเมียนมาที่อยู่ในสังกัดและส่งส่วยให้นายเซ่ง ส่วนใหญ่จะเป็นญาติหรือลูกหลานของสามีตน ทำให้สามีของตนเกิดความเครียดมากมาก จึงนำเรื่องนี้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรมอำเภอด่านขุนทด สนง.ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (คม.) สวัสดิการคุ้มครองแรงงาน และจัดหางานจังหวัดนครราชสีมา ผ่านไปหลายเดือนก็ยังไม่มีอะไรคืบหน้า แถมยังถูกตำหนิจากญาติที่เมียนมาว่าสามีตนมาอยู่เมืองไทยหลายสิบปี ทำไมช่วยเหลือญาติพี่น้องทีถูกรีดไถไม่ได้
เมื่อประมาณกลางเดือน ก.ย.ที่ผ่านมา ได้มีเจ้าหน้าที่จังหวัดกับฝ่ายปกครอง อ.ด่านขุนทด จับกุมนางตาน ตาน อู อายุ 34 ปี คนงานของตน และนายราบิออง คนของนายเซ่ง เซ่ง ขณะกำลังขายโรตีที่ด่านขุนทด โดยนายบาบิออง แสดงบัตรอนุญาตว่าเป็นคนงานของตนแต่ขาดอายุแล้ว เจ้าหน้าที่พยายามจะยัดข้อหาให้ตนด้วย และจะส่งผู้ต้องหากลับประเทศ แต่ตนต่อสู้จนถึงศาล ศาลจึงสั่งปรับว่าทำงานผิดประเภท ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่า ขณะเจ้าที่ดำเนินการลงบันทึกจับกุมอยู่นั้น นายเซ่งกับพวกได้ตามมาสังเกตการอยู่ภายนอกอาคารที่ทำการอำเภอด้วย คงหวังจะให้เจ้าหน้าที่จัดการส่งคนงานของตนกลับประเทศ เพราะตนไม่ยอมจ่ายค่าคุ้มครองให้นายเซ่ง
นางรุ่งทิพย์ยังเล่าอีกว่า เมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา ญาติของสามีที่ปะเทศเมียนมา โทรศัพท์มาบอกว่า ไม่สามารถติดต่อนางดอติดาซิง อายุ 75 ปี และนายอิเลียด อายุ 30 ปี ที่สติไม่สมประกอบ แม่และน้องชายของสามีได้เลย ให้ช่วยตามหาด้วย เมื่อสามีติดต่อสอบถามไปยังญาติที่อยู่ในไทยหลายคน จึงทราบว่านายเซ่ง ได้นำแม่และน้องชายสามีไปกักตัวไว้ในบ้านเช่าที่ใดที่หนึ่ง เพื่อบังคับให้ญาติของสามีออกไปขายโรตีในจังหวัดต่างๆ โดยไม่มีใบอนุญาตลูกจ้าง และส่งส่วยให้นายเซ่ง ซึ่งทราบจากญาติอีกว่านายเซ่ง ตั้งตนเป็นแก๊งมาเฟียร์ โดยมีเจ้าหน้าที่ไทยบางคนรู้เห็นเป็นใจด้วย และนายเซ่งสามารถนำแรงงานพม่าเข้า-ออกไทยได้อย่างสบาย ทางจังหวัดตาก โดยไม่ต้องผ่านกรมแรงงาน
“อยากให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยเหลือครอบสามีตนด้วย เพราะไม่รู้ว่าจะไปร้องเรียนที่ใด จึงมาร้องผู้สื่อข่าว เพราะเกรงว่าแม่และน้องชายสามีจะลำบากและไม่ปลอดภัย” นางรุ่งทิพย์กล่าว
ต่อมา ผู้สื่อข่าวได้ติดตามไปสังเกตที่บ้านของนายหม่อง หรือวันชัย พบว่าเป็นบ้านคอนกรีตชั้นเดียว ตั้งอยู่กลางทุ่งนาเนื้อที่ 6 ไร่ โดยมีฟาร์มแพะด้วยแต่เหลือไม่กี่ตัวเพราะหาคนเลี้ยงไม่ได้ โดยสามีของตนได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวด้วยเสียงสั่นเครือถึงที่ไปที่มาที่ถูกกลั่นแกล้งและถูกรีดเงินทั้งๆที่ตั้งใจทำมาหากินด้วยความสื่อสัตย์ เคารพเถิดทูลเจ้าเหนือหัว สร้างหลักฐานจนบุตรทั้งสามคนได้ศึกษาเล่าเรียน 
โดยบุตรสาวคนโตเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ของโรงเรียนประจำอำเภอและน้องอีก สามคนเรียนระดับประถม เมื่อบุตรสาวกลับจากโรงเรียนก็เตรียมไปขายโรตีที่ปั๊มน้ำมันและในชุมชน แต่ตอนนี้ตนรู้สึกเป็นห่วงแม่และน้องมาก ซึ่งไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไรติดต่อไม่ได้ จึงมาร้องสื่อให้ช่วยเหลือ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ