อาชญากรรม
ย้อนรอยคดีดังปี63 'ไอซ์หีบเหล็ก' คนหายกลายเป็นศพ
โดย
28 ธ.ค. 2563
3.8K views
อีกหนึ่งข่าวใหญ่ประจำปี 2563 คือ คดีของไอซ์ หีบเหล็ก ที่พบว่ามีพฤติกรรมที่โหดร้าย โดยเฉพาะการพันธการ และบังคับให้หญิงสาวลงไปในหีบ ซึ่งจากคดีนี้ ทำให้หลายฝ่ายพยายามที่จะผลักดันให้ประเทศไทยมีกฎหมายคนหายอย่างเป็นรูปธรรม
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 9 มกราคม 2563 ที่บ้านพักในซอยเพชรเกษม 47 ของนายอภิชัย องค์วิศิษฐ์ หรือ ไอซ์ หีบเหล็ก เป็นจุดเริ่มต้นของคดี ซึ่งเกิดขึ้นหลังตำรวจ ขยายผลจับกุมผู้ต้องหายาเสพติด ที่อ้างว่าเป็นลูกจ้างของนายไอซ์ เคยช่วยนำร่างของนางสาวกุ๊กกิ๊ก หญิงสาวที่มาให้บริการนายไอซ์ไปฝังไว้ที่หลังบ้าน หลังจากเสียชีวิต เพราะถูกพันธนาการ และบังคับลงไปในหีบเหล็กจนขาดอากาศหายใจ
เมื่อดูแผนผังของบ้านหลังนี้ ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ นอกจากบ้านนายไอซ์ ยังมีบ้านญาติ อพาร์ตเมนต์ให้เช่าโรงงานเก่า บ่อน้ำขนาดใหญ่ และสวนที่ดินรกร้าง
ซึ่งจากคำให้การของผู้ต้องหาคดียาเสพติด บอกว่า ร่วมกับนายไอซ์ นำร่างมาฝังที่สวนกล้วยหลังบ้าน เจ้าหน้าที่จึงนำอุปกรณ์มาขุดลึกลงไปประมาณ 1 เมตร ก็พบร่างมนุษย์เพศหญิง ที่หลังมีลายสักเต็มแผ่นหลัง ตรงกับนางสาวกุ๊กกิ๊ก ที่ญาติแจ้งความหายไว้
แต่เรื่องราวยังไม่จบลง เพราะ 1 สัปดาห์ถัดมา กลับปรากฎเบาะแสเพิ่มว่า มีหญิงสาวที่เคยมาบ้านหลังนี้ และหายตัวไปอย่างเป็นปริศนา จึงเป็นที่มาของการขอหมายค้น เข้ามาค้นหา ที่จุดต้องสงสัย คือ บ่อน้ำ ที่อยู่ห่างออกไป 30 เมตร ชุดประดาน้ำปูพรมงมค้นหา ในบ่อที่ลึกกว่า 1 เมตร หลายวัน พบวัตถุในบ่อน้ำ ทั้งชิ้นส่วนกระดูกรวมกว่า 300 ชิ้นดัมเบล โซ่เหล็ก กลอนประตู หีบเหล็กที่ภายในมีชิ้นส่วนกระดูก รวมถึงเหล็กดัดประตู กองพิสูจน์หลักฐานจึงนำประตูเหล็กสูง 2 เมตร น้ำหนัก 60-70 กิโลกรัม ไปตรวจสอบพบว่า ตรงกับประตูหน้าบ้านนายไอซ์ ส่วนหีบเหล็กที่พบก็คล้ายกับหีบที่ปรากฎอยู่ในบ้าน
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาจำคุก 10 ปี 5 เดือน ตามฐานความผิดครอบครองอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดไว้ในความครอบครอง ส่วนคดีอำพรางซ่อนเร้นศพ ยังอยู่ในชั้นการสสืบพยาน รวมถึงคดีพบชิ้นส่วนกระดูกด้วย ซึ่งในคดีนี้ ตำรวจประสานขอข้อมูลบุคคลสูญหาย จากมูลนิธิกระจกเงา ที่เป็นหญิงสาวที่หายไประหว่างปี 2550-2560 พบมีบุคคลที่อาจเป็นไปได้ 15 คน และอีก 2 คนที่ญาติสงสัย ส่งให้ตำรวจตรวจสอบ ซึ่งกระดูกที่พบยังไม่ตรงกับบุลคลใด
จากกรณีนี้ ทำให้มีการกล่าวถึงปัญหาเรื่องของคนหายกลายเป็นศพ เฉพาะปีนี้พบคนหายที่กลายเป็นศพเพียง 3 ศพ จากหลายพันศพ ที่ถูกส่งมาจากสถาบันนิติเวชต่างๆ กว่า 40 แห่ง มาฝังไว้ตามสุสานต่างๆ ซึ่งบางแห่งมีการจัดเก็บข้อมูลของศพนิรนามที่ไม่เพียงพอ จนไม่สามารถระบุตัวตนได้ และท้ายสุดศพก็ถูกทำลายไป นั่นก็เพราะไทยยังไม่มีกฎหมายคนหายอย่างเป็นรูปธรรม และจากคดีใหญ่แห่งปีนี้ เลยทำให้หลายคนมองว่า การผลักดันข้อกฎหมายคนหาย จะช่วยลดความสูญเสียโอกาสในการระบุตัวบุคคลของศพนิรนามลงได้
สามารถรับชมทางยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/G3jFKzTbE_Y
แท็กที่เกี่ยวข้อง
