สังคม

เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ปักหลักหน้าทำเนียบ คืนที่ 4 แสดงจุดยืนให้ยุตินิคมอุตสาหกรรม

โดย

13 ธ.ค. 2563

585 views

เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ปักหลักชุมนุมหน้าทำเนียบต่อเนื่องเป็นคืนที่ 4 พร้อมจัดเสวนาล้อมวงคุยปัญหาชาวบ้านในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ชี้ 7 ปียิ่งขยายความเหลื่อมล้ำเอื้อนายทุน ยืนยันจุดยืน รัฐบาลต้องทบทวนโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา
ช่วงค่ำที่ผ่านมามีตัวแทนเครือข่ายภาคประชาชนที่เคลื่อนไหวประเด็นสังคมด้านต่างๆ มาร่วมวงเสวนา พื้นที่การชุมนุมของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ซึ่งยังคงปักหลักชุมนุมบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชษฐ์ ทำเนียบรัฐบาลต่อเนื่องเป็นคืนที่ 4 
นายนิติรัฐ ทรัพย์สมบูรณ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายประชาชนเพื่อรัฐสวัสดิการ ย้ำว่า เรื่องของโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะไม่ได้กระทบแค่ประชาชน 3 ตำบล แต่กระทบกับสิ่งที่เป็นหัวใจของคนไทยทุกคน สิ่งที่เกิดขึ้นสะท้อนแนวทางการพัฒนาประเทศของรัฐบาล ที่ไม่เคารพสิทธิชุมชน ตีค่าชุมชนเป็นราคา มองว่านิคมอุตสาหกรรมจะพัฒนาความเป็นอยู่ สิ่งที่พยายามจะบอกว่า "คนจนจะหมดประเทศ ก็คือตายกันหมด" 
ด้าน นายประยงค์ ดอกลำใย ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน ระบุว่าหลังการรัฐประหาร เป็นการต่อสู้ที่ยากลำบากของประชาชน ตอกย้ำความเหลื่อมล้ำ และสิ่งที่เจ็บช้ำ คือ คำสั่งคสช.ที่ 64/2557 ที่ระบุว่าให้ทุกหน่วยงานจับกุมดำเนินคดีผู้อยู่ที่ดินของรัฐทุกประเภท เป็นการต่อสู้กับประชาชนที่อยู่ในป่า 10-15 ล้านคน มีคนสูญเสียที่ดินจำนวนมาก และล่าสุดตรวจสอบพบว่ามีประชาชนถูกดำเนินคดี 12,000 คดี ทั้งที่อยู่มาก่อนประกาศเป็นพื้นที่ป่า 
ส่วน นางนุชนารถ แท่นทอง เครือข่ายสลัม4 ภาค ชี้ว่า 7 ปีที่ผ่านมา ตอกย้ำว่ารัฐบาลมุ่งแก้ปัญหาภาคธุรกิจ หลายโครงการพัฒนาต้องแลกกับผลกระทบของประชาชน โดยส่วนหนึ่งเป็นผลพวงมาจากการใช้มาตรา 44 ทั้ง EEC ปัญหาคนริมคลองในกรุงเทพ หรือ การก่อสร้างรถไฟที่ออกทีวีเป็นผลงาน แต่มีคนจนที่ต้องโยกย้ายถิ่นฐาน จึงขอเป็นเสียงคัดค้านกับโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ จ.สงขลา
ขณะที่ นายจำนงค์ หนูพันธ์ โฆษกกลุ่มพีมูฟ ชี้ว่า โครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ เป็นการทำลายวิถีชีวิตของชาวบ้าน รวมถึงสิ่งแวดล้อม แม้จะได้คนทำงาน แต่ก็ไม่เท่ากับสิ่งที่สูญเสียไป พร้อมเชื่อว่าความร่วมมือของทุกเครือข่ายภาคประชาชนกว่า 170 องค์กร จะนำไปสู่ชัยชนะของคนจะนะ 
ทั้งนี้ เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น ยืนยันจะปักหลักชุมนุม และต้องการพบกับผู้มีอำนาจที่ตัดสินใจได้เท่านั้น พร้อมย้ำ 2 ข้อเรียกร้อง คือ ขอให้ยกเลิกการทำผังเมือง ยุติทั้งโครงการ และการศึกษาผลกระทบเชิงยุทธศาสตร์ หรือ SEA อย่างรอบคอบก่อน โดยทางเครือข่ายไม่ได้ปฏิเสธเรื่องการพัฒนา แต่ต้องทำกระบวนการให้กระจ่าง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ