อาชญากรรม
ล่า 2 คนร้ายบุกยิงวิศวกรหนุ่มดับ ต่อหน้าเมีย-ลูกน้อยอายุ 20 วัน ตร.เร่งขอมูล ยันไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง
โดย
7 ธ.ค. 2563
1.4K views
ตำรวจเร่งล่าตัวคนร้ายบุกยิงหนุ่มวิศวกร เสียชีวิต พร้อมขอข้อมูลสถาบันการศึกษาคู่อริหาเบาะแสคนร้าย
วันที่ 7 ธ.ค. จากคดีที่ คนร้าย บุกเข้ามายิงนายอาทิตย์ โฉมเนตร ซึ่งเป็นวิศวกร เสียชีวิตภายในร้านบะหมี่จับกัง ย่านท่าพระ เมื่อวันที่ 4 ธันวาคมที่ผ่านมา โดยยิงต่อหน้าภรรยา และลูกชายอายุเพียง 20 วัน จากนั้นได้วิ่งหนีขึ้นมอเตอร์ไซด์ซึ่งจอดอยู่ห่างจากร้านประมาณ 3 เมตร ซึ่งมีคนสตาร์ทเครื่องรอไว้แล้วหลบหนีไป
ขณะที่ภรรยาบอกว่า ก่อนเกิดเหตุ มีชายต้องสงสัยสวมชุดดำ มาที่ร้านบะหมี่ถึง 2 ครั้ง เหมือนกับมาสังเกตุการณ์และดูว่าสามีอยู่ที่ร้านช่วงเวลาไหน ครั้งแรกวันที่ 8 ตุลาคม และครั้งที่สองห่างจากครั้งแรกสองอาทิตย์ ยืนยันว่าสามีไม่เคยมีปัญหากับใคร แต่เชื่อว่าอาจมาจากเรื่องความขัดแย้งของสถาบันการศึกษา เพราะสามีเรียนจบมาจากสถาบันอาชีวะแห่งหนึ่งที่มักมีปัญหากับสถาบันคู่อริเป็นประจำ
พลตำรวจตรีเอกชัย บุญวิสุทธิ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้ชุดสืบสวน เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิดเพื่อหาเบาะแสคนร้าย โดยยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องสถาบันการศึกษา และความขัดแย้งส่วนตัว ตอนนี้ยังไม่สามารถออกหมายจับคนร้ายได้ เพราะรอให้หลักฐานชัดเจนกว่านี้ แต่ยืนยันว่าภายใน 3 วัน คดีจะมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น
มีรายงานจากชุดสืบสวนพบว่า จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิด หลังคนร้ายก่อเหตุแล้ว ได้ขี่มอเตอร์ไซด์หลบหนีมาทางสะพานยศเส มุ่งหน้าแยกปทุมวัน เมื่อถึงถนนพระรามหกได้เลี้ยวซ้าย โดยจุดสุดท้ายที่แกะรอยได้คือที่แยกสามย่าน ส่วนปมสังหาร ชุดสืบสวนให้น้ำหนักเรื่องปมขัดแย้งระหว่างสถาบันมากที่สุด เพราะพบว่าเมื่อ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งขณะนั้นผู้ตายเรียนอยู่ปีสุดท้าย ได้ร่วมกับพวกอีก 5 คน ไปยิงนักเรียนสถาบันคู่อริ ที่ซอยเพชรเกษม 48
โดยขณะก่อเหุตุผู้ตายไม่ได้ใส่หมวกกันน้อคจึงทำให้จำหน้าได้และถูกตำรวจจับ แต่สุดท้ายศาลพิภากษายกฟ้องเพราะไม่มีหลักฐานเพียงพอ และหลังจากนั้นผู้ตายก็มักจะโพสต์เฟซบุ้คเกี่ยวกับสถาบันการศึกษาเป็นประจำ ทั้งนี้ชุดสืบสวนได้ประสานข้อมูลกับสถาบันคู่อริของผู้ตาย เพื่อขอรูปพรรณสัณฐานของนักศึกษาทั้งที่เรียนอยู่และจบการศึกษาไปแล้ว เพื่อเปรียบเทียบกับภาพของคนร้ายเพื่อพิสูจน์ว่าเป็นใคร โดยเชื่อว่าคนร้ายวางแผนที่จะมาก่อเหตุ
ชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/PHrEyaXeJ4Q
แท็กที่เกี่ยวข้อง
