สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 7 ธ.ค.63 ยันไทยยังไม่ระบาดระลอก 2 - กะเพราวิญญาณหมู 70 บาท - คลั่งยาบ้ากระชากทองแม่

โดย

7 ธ.ค. 2563

1.8K views

-แม่สอดผวา หลังพบผู้ป่วยวัย 70 ปี ติดเชื้อโควิด-19 ทีแรกบอกไม่เคยออกไปไหน สุดท้ายตรวจพบเพิ่งกลับมาจากเมียนมา เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลถูกกักตัววุ่น เพราะเข้าใจว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา ล่าสุดชายคนนี้ยังไม่เสียชีวิต รักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โรงพยาบาลแม่สอด 
นอกจากนี้ แม่สอดยังพบผู้ป่วยอีกหนึ่งคน เป็นพ่อค้าขายรถมือสอง อายุ 43 ปี ตรวจพบติดเชื้อโควิด-19 หลังจากเดินทางไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลแม่สอด เพื่อขอใบรับรองแพทย์เพื่อจะเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ สืบประวัติก่อนหน้าพบขึ้นลง กทม.-ตาก คาดติดเชื้อจากการลักลอบข้ามไปฝั่งเมียนมา
ส่วนที่ จ.เชียงราย ผู้ว่าราชการจังหวัดแถลงพบกลุ่มสาวไทย 9 ราย ติดโควิด-19 เป็นกลุ่มทำงานสถานบันเทิงท่าขี้เหล็ก จาก 1G1 รวมผู้ป่วยสะสม 20 ราย พร้อมประกาศให้แรงงานประสานทางการขอกลับมารักษา อย่าหนี อย่าลักลอบเข้าประเทศ ให้ติดต่อเจ้าหน้าที่พาไปกักตัว ย้ำขอการ์ดอย่าตก 
-ศบค. ยืนยันไทยยังไม่มีการระบาดโควิด-19 ระลอก 2 วานนี้พบผู้ติดเชื้อ 14 คน หนึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อในประเทศ เป็นหญิง อายุ 26 ปี เป็นบุคลากรทางการแพทย์ ติดเชื้อในสถานที่กักโรคทางเลือกใน กทม. อีก 10 คน มาจากต่างประเทศ และเข้าสู่สถานที่กักกันโรค อีก 3 คน มาจากเมียนมา ไม่ผ่านด่านคัดกรองโรค
คนแรกเป็นชายวัย 70 ปี ลักลอบเข้าเมืองตามเส้นทางธรรมชาติ ที่แม่สอด จ.ตาก อีก 2 คน เป็นเพื่อนกัน คนหนึ่งเป็นสาวประเภทสอง อายุ 30 ปี อีกคนเป็นหญิงไทย อายุ 26 ปี ทั้งคู่ลักลอบไปเที่ยวท่าขี้เหล็ก เมียนมา แล้วลอบกลับเข้าประเทศ จากนั้นนั่งเครื่องบินเข้า กทม. 
ขณะที่ กระทรวงสาธารณสุข ประกาศแจ้งเตือนผู้โดยสารที่ร่วมเดินทางมากับ 4 เที่ยวบิน คือ สายการบินนกแอร์ เที่ยวบิน DD8717 วันที่ 28 พ.ย. 63 เวลา 13.40 น. สายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน SL533 วันที่ 29 พ.ย. 63 เวลา 10.40 น. สายการบิน Thai Smile เที่ยวบิน WE137 วันที่ 29 พ.ย. 63 เวลา 20.30 น. สายการบิน Thai Lion Air เที่ยวบิน SL545 วันที่ 30 พ.ย. 63 เวลา 19.15 น. ขอให้สังเกตอาการตนเอง เป็นเวลา 14 วัน เว้นระยะห่างจากผู้อื่น ใช้รถส่วนตัว
-ราษฎรฝั่งธน กลุ่มฟันเฟืองเพื่อประชาธิปไตย นัดชุมนุมที่วงเวียนใหญ่ เวลา 16.00 น. วานนี้ ทำกิจกรรมบรวงสรวงสักการะสมเด็จพระเจ้าตากสิน อัญเชิญดวงวิญญาณสถิตอยู่กับราษฎร โดยมี ไบร์ท ชินวัตร แกนนำเครือข่ายคนรุ่นใหม่นนทบุรี ขึ้นรถปราศรัยเคลื่อนขบวนไปบนถนนลาดหญ้า ตั้งคำถามทำไมเสื้อเหลืองเข้าพื้นที่ได้ แต่กลุ่มราษฎรเข้าไม่ได้ พร้อมยืนยัน 3 ข้อเรียกร้อง
-ตัวแทนกลุ่มไทยภักดีขอนแก่น และกลุ่มขอนแก่นรักสถาบัน แจ้งความดำเนินคดี ม.112 กับ นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน และนายอรรถพล บัวพัฒน์ หรือ ครูใหญ่ อ้างทั้งคู่ขึ้นเวทีปราศรัยและมีการพูดจาก้าวล่วงสถาบัน ทำให้กลุ่มรักสถาบันทนไม่ได้ พร้อมนำคลิปหลักฐานการปราศรัยในจังหวัดขอนแก่นมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ลั่นจากนี้ไม่ว่าเป็นใครขึ้นเวทีและมีการพูดจาก้าวล่วงสถาบันอีก ทางกลุ่มก็จะนำหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้มีการดำเนินคดี ม.112 กับบุคคลเหล่านั้นทันที
ด้าน ส.ส.เอ๋ ปารีณา ขึ้นโรงพักแจ้งจับ เพนกวิน พริษฐ์ ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กรณีโพสต์อ้างแกนนำจะถูกฆ่า ปารีณาระบุ จำเป็นต้องแจ้งความน้องนะคะ หยุดใส่ร้ายผู้อื่นได้ไหมคะ
ส่วนวันนี้เตรียมยื่นหนังสือร้อง ปปช. กรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เตรียมยื่นคำร้องให้ตรวจสอบการใช้อำนาจของศาลรัฐธรรมนูญ ปารีณาระบุ เหิมเกริมร้องตุลาการศาล เป็นนักกฎหมายต้องท่องใส่หัวว่าคำวินิจฉัยของศาลถือเป็นอันสิ้นสุด อย่าได้นึกคิด ทำตัวไม่เจียม เข้าใจว่าตนเก่งกล้า ฉลาดไปมากกว่าตุลาการศาลฯ เพราะสุดท้ายจะแค่กลายเป็นการโชว์โง่ โชว์ผยอง ไม่จบเจอเอ๋
-นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม แกนนำกลุ่มไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊กถามถึงเวลาแล้วหรือยัง ถวายคืนพระราชอำนาจชั่วคราว ออกแบบการเมืองใหม่ โดยระบุว่า หลังปี 2475 นับตั้งแต่คณะราษฎรปล้นพระราชอำนาจ ถามว่ามาถึงวันนี้นักการเมืองได้ทุ่มเท เสียสละ ใช้อำนาจนี้เพื่อประชาชนหรือไม่? ในความเป็นจริง นอกจากไม่แล้ว กลับเป็นผู้สร้างปัญหาทางการเมือง สร้างความเกลียดชัง ความแตกแยก โกงบ้านโกงเมือง
วันนี้อำนาจที่ปล้นจากพระมหากษัตริย์ จึงมากองอยู่ในมือกลุ่มนายทุนการเมือง มีนายทุนบางกลุ่มมักใหญ่ใฝ่สูง อยากสถาปนาสาธารณรัฐแทนราชอาณาจักร ระบุ 3 แนวทางการเมืองให้ประชาชนเลือก
1. ให้แก้รัฐธรรมนูญ เพื่อให้ระบอบทักษิณกลับมา ค่อย ๆ ฮุบประเทศทีละคำ
2. จะยอมสามนิ้ว สถาปนาสาธารณรัฐ ให้พี่ล้มล้างสถาบันฯ ส่วนน้องจ้องฮุบที่ดินเจ้ามาหากิน
3. ถวายคืนพระราชอำนาจชั่วคราว(ราชประชาสมาสัย) ออกแบบการเมืองใหม่ให้ปลอดการครอบงำนายทุนการเมือง ไปสู่ประชาธิปไตยอย่างแท้จริง 
-โครงการ คนละครึ่ง-ช้อปดีมีคืน หนุนคนกรุงฯ ใช้จ่ายช่วงปีใหม่กว่า 3 หมื่นล้าน ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เผยคนกรุงระวังใช้จ่ายช่วงปีใหม่ แต่ผลของมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ทำให้คาดว่าเม็ดเงินการใช้จ่ายของคนกรุง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 64 รวมน่าจะอยู่ที่ 30,050 ล้านบาท ทรงตัวในระดับใกล้เคียงกับปีก่อนหน้า
-อีสานหนาวตายแล้ว 2 ราย จ.บุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ห้วยราช รับแจ้งมีเหตุคนเสียชีวิตใน ต.บ้านตะโก บริเวณข้างแคร่นั่งเล่น พบศพนายน้อย ระเมียดดี อายุ 84 ปี นอนเสียชีวิตในท่านั่งอยู่กับเก้าอี้พลาสติกสีขาว ภรรยาเผยอากาศหนาวผิดปกติ เห็นสามีไปก่อไฟผิง ต่อมาได้มานั่งเก้าอี้ตากแดด กระทั่งบ่ายพบนั่งนิ่งตัวแข็ง
ที่ จ.บึงกาฬ มีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในอู่ซ่อมรถที่บ้านดงบัง ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง ตรวจสอบภายในห้องออฟฟิศ พบศพ นายสุทธิรักษ์ สติภา อายุ 44 ปี นอนห่มผ้าห่มผืนบาง ๆ เพียง 1 ผืน ข้างศพพบเด็กหญิงวัย 9 ขวบ ลูกสาว นั่งร้องไห้ กอดศพกุมมือพ่อไม่ยอมห่างไปไหน เผยนอนอยู่กับพ่อทั้งคืน แต่ห่มผ้าคนละผืน ตื่นเช้ามาจึงได้ปลุกพ่อ แต่พ่อก็ไม่ยอมตื่น ก็ยังไม่ได้บอกใครเพราะไม่รู้ว่าพ่อเป็นอะไร
ทั้งนี้ในพื้นที่อากาศเปลี่ยนแปลง ตกดึกอุณหภูมิจะต่ำเหลือประมาณ 12-13 องศา เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าอุณหภูมิที่ลดลงอย่างรวดเร็วจนหนาวเย็นจัด อาจทำให้เกิดช็อค หนาวตายได้ 
-ภาคใต้ยังอ่วมมีน้ำท่วมสูง จ.ตรัง ซึ่งรับมวลน้ำจำนวนมากจาก จ.นครศรีธรรมราช  ทำให้พื้นที่ ม.1 ต.หนองตรุด อ.เมืองตรัง ระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร ชาวบ้านต้องพายเรือเข้าบ้าน โรงเรียนวิทยาศาตร์จุฬาภรณ์ราชวิทยาลัยตรัง ประกาศหยุดเรียนตั้งแต่วันที่ 7-9 ธ.ค. หรือจนกว่าสถานการณ์น้ำจะคลี่คลาย 
ที่ จ.สงขลา มีพื้นที่ 5 อำเภอริมทะเลสาบสงขลาที่ถูกน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีพื้นที่หมู่ 1 บ้านแลแบงออก ต.สะบ้าย้อย ก็ยังถูกน้ำท่วมขังเช่นกัน มีชาวบ้านเดือดร้อน 101 ครัวเรือน จำนวน 450 คน
ส่วนสถานการณ์น้ำที่ จ.นครศรีธรรมราช ปริมาณน้ำลดลง เหลือพื้นที่ปลายน้ำ อย่างบางตำบลของอำเภอเมือง รวมถึงอำเภอปากพนังที่มีสวนส้มโอทับทิมสยามกว่า 3 พันไร่ ยังมีน้ำท่วมสูงอยู่ เจ้าหน้าที่ระดมเครื่องสูบน้ำเครื่องผลักดันน้ำ รวมถึงขุดลอกคูคลอง เพื่อเปิดทางให้น้ำระบายออกสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ทีมข่าวยังขึ้นไปสำรวจที่บ้านคีรีวง ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จุดที่น้ำป่าจากเทือกเขาหลวงไหลหลาก พบว่าแม้น้ำจะไม่ได้ท่วมแช่ขังเป็นเวลานาน แต่น้ำป่าได้หลากเข้าท่วมสร้างเสียหายเป็นอย่างมาก บางหลังพังจนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ตอนนี้ต้องการความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน 
-หนุ่มคลั่งไล่แทงชาวบ้านที่อุดรธานี เสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บอีก 5 ราย ตำรวจเผย สติดี ไม่มีประวัติรักษาด้านจิตเวช เจ้าตัวเปิดปากอ้างต้องการระบายแค้น แต่ไม่ได้บอกว่าแค้นใคร เรื่องอะไร พร้อมโชว์รอยสักบนแผ่นหลัง เป็นภาพหนุมาน และอักขระ เจ้าหน้าที่ได้เชิญหมอธรรมชื่อดังมาทำพิธีถอดวิชาอาคมออกจากตัว โดยระหว่างทำพิธีผู้ต้องหามีอาการปกติ สามารถตอบคำถามได้
ตำรวจแจ้งข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พยายามฆ่า พกพาอาวุธมีดไปในทางสาธารณะ หมู่บ้าน โดยไม่มีเหตุอันควร และได้ควบคุมตัวส่งศาลจังหวัดอุดรธานี เพื่อฝากขังในวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค.นี้
-ตำรวจเร่งล่าตัว 2 คนร้าย บุกยิงหนุ่มวิศวะเสียชีวิตต่อหน้าภรรยาและลูก มุ่งปมเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างสถาบัน ระบุก่อนเกิดเหตุมีการมาดูลาดเลาหลายครั้ง ครอบครัวนายอาทิตย์ โฉมเนตร อายุ 27 ปี หนุ่มวิศวกร ได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาเชิญดวงวิญญาณ ที่เกิดเหตุ
ภรรยาเปิดใจถึงวินาทีที่สามีถูกกระหน่ำยิงเสียชีวิตต่อหน้าต่อตา ขณะเกิดเหตุเป็นช่วงที่กำลังนั่งเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ข้างสามี จู่ ๆ คนร้ายก็วิ่งเข้ามาในร้าน ใช้ปืนกระหน่ำยิงสามี แล้วรีบวิ่งไปขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนีไป ซึ่งปมสังหารยังไม่อยากฟันธงว่าจะเป็นเรื่องปัญหาความขัดแย้งระหว่างสถาบันหรือไม่ แต่ก็ยอมรับว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา ตัวเองกับสามีระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา เพราะยังคงมีข่าวลักษณะนี้ให้เห็นต่อเนื่อง แต่ก็ยืนยันว่าที่ผ่านมาสามีไม่เคยมีความขัดแย้งส่วนตัวกับใคร แล้วเรียนจบมาแล้ว 2 ปี
ด้านผู้บังคับการตำรวจนครบาล 7 พลตำรวจตรีเอกชัย บุญวิสุทธิ์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ตำรวจกำลังแกะรอยจากกล้องวงจรปิดทุกมุม เพื่อติดตามเส้นทางการหลบหนีของ 2 คนร้าย โดยแบ่งชุดสืบสวนลงพื้นที่ทำงาน ส่วนปมการก่อเหตุยังไม่ตัดประเด็นใดทิ้ง ทั้งเรื่องความขัดแย้งต่างสถาบัน ที่ทำงาน เรื่องกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกัน และเรื่องส่วนตัว 
-อีกแล้วกระบะขับจี้ตูดรถฉุกเฉิน ทั้งที่มีผู้ป่วยฉุกเฉินในรถ นายสถาพร โหติธนัง พนักงานเทศบาลเมืองพิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี เผยว่าได้ขับรถไปรับผู้ป่วยเพื่อนำตัวส่งโรงพยาบาลบางบัวทอง 2 เมื่อขับไปถึงหมู่หน้าหมู่บ้านพฤกษา 3 เป็นถนน 4 เลน เเละมีรถติด จึงขอทางในเลนกลาง มีกระบะคันนึงออกมาขวางรถตน ตนจึงบีบเเตรเพื่อขอทางเเต่รถกระบะคันนี้ไม่หลบให้
ตนจึงเปิดไมค์และพูดว่า "ขับแบบนี้ได้ยังไง ไม่ใช่เลนตัวเองและไม่ให้ทางกับผู้ป่วย" ทำยังไงกระบะคันนี้ก็ไม่หลบ ตนได้จังหวะจึงขับเเซงขึ้นไปอยู่ข้างหน้า แต่ทางรถกระบะได้ขับจี้ตูดตามมาติด ๆ ซึ่งพฤติกรรมที่เจอตั้งเเต่ตอนต้น ทำให้ตนต้องลงไปต่อว่า แต่ทางคนขับกiะบะก็ไม่ตอบโต้ใด ๆ ในรถเป็นกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน
-คนขับรถแบคโฮคลั่ง พยายามขับหนี แกว่งแขนตักดินฟาดรถกระบะตำรวจตกน้ำ เหตุเกิดบนถนนคลอง 10 มุ่งหน้าตลาดเจริญกัล จ.ปทุมธานี เบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้แล้ว
-บุกจับหนุ่มคลั่งยาบ้า ถือมีดพร้ากวัดแกว่ง หลังชิงสร้อยแม่ไปขายหาเงินซื้อยาบ้ามาเสพ หน่วยกู้ภัยศรัทธาสามัคคีการกุศล จ.นครศรีธรรมราช ได้รับแจ้งให้นำตัวผู้ติดยาเสพติดไปบำบัดรักษาอาการหลอน ที่ ต.เขาขาว อ.ทุ่งสง
ที่เกิดเหตุ พบนายสุริชัย สุชาติพงษ์ อยู่ในอาการคลุ้มคลั่ง ใช้มีดพร้าและมีดพกสั้นกวัดแกว่งไปมา เจ้าหน้าที่ใช้ไม้ง่าม และอุปกรณ์จับคนบ้าเข้าควบคุม แต่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมให้จับกุมพร้อมทั้งแหวกฝ่าวงล้อมออกมาหน้าบ้าน เจ้าหน้าที่จึงกระโดดตะครุบตัวเอาไว้ได้ สอบถามทราบว่า มีอาการหลอนจากการเสพยาบ้า ข่มขู่จะทำร้ายคนในบ้าน พร้อมทำลายข้าวของ และกระชากสร้อยคอทองคำของผู้เป็นแม่ขาดกระจายสองท่อน เพื่อนำไปขายเอาเงินไปซื้อยาบ้ามาเสพ คนในบ้านจึงแจ้งขอความช่วยเหลือ 
-สาวโพสต์ไปเที่ยวงานทุ่งศรีเมือง จ.อุดรธานี สั่งข้าวผัดกะเพราหมูสับ ราคา 70 บาท แต่ได้เศษซากวิญญาณหมู เจ้าตัวระบุ นี่คือข้าวจานละ 70 บาท งานทุ่งอุดรธานี สั่งกะเพราหมูกรอบบอกมีแค่ข้าวขาหมู สั่งข้าวขาหมูแต่ได้กินกะเพราหมูสับ นั่งรอครึ่งชั่วโมง ไม่รวมค่าน้ำ หลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ไป ก็มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก และมีคนก็เจอชะตากรรมเดียวกับเธอ บางคนบอกว่าเป็นวิญญาณหมู 
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/S5XqwjZSTrk

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ